ปีที่ 3 ฉบับที่ 919 ประจำวันพุธที่ 19 เดือนมกราคม พ.ศ. 2543 |
วิธีการของสัตบุรุษกับกุ๊ยข้างถนน
วันนี้คณะกรรมการมหาเถรสมาคม
มีวาระประชุมสำคัญ กรณีพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ถูกกล่าวหา
ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามมติ มหาเถรสมาคม กรณีสั่งยกฟ้องนิคหกรรมพระธัมมชโย
และพระทัตตชีโว
โดยมีแรงเชียร์และยั่วยุจากฝ่ายข้าราชการประจำ
และข้าราชการการเมือง ในกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมคณะที่ปรึกษา เสฐียรพงษ์ วรรณปก
พุ่งเป้าไปที่สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง แห่งวัดชนะสงคราม
มีนัยเพื่อบีบรัดให้สมเด็จวัดชนะฯ มีคำสั่งปลด พระพรหมโมลี พ้นจากตำแหน่งเจ้าคณะภาค
1 และให้แต่งตั้งพระเถระรูปอื่น มาทำหน้าที่แทน
แน่นอนที่สุด
เพื่อให้พระที่เข้ามาทำหน้าที่แทน พระพรหมโมลี พิจารณานิคหกรรมเดินหน้าอีกครั้ง
โดยไม่สนใจคำวินิจฉัยของ คณะผู้พิจารณา ชั้นต้น ที่มีพระพรหมโมลี
เป็นประธานผู้พิจารณาชั้นต้น
ความเห็นที่แตกต่างของพระเถระในมหาเถรสมาคม ณ
วินาทีนี้ กำลังได้รับแรงยั่วยุจากฆราวาาส ที่อยู่นอกกำแพงวัด ชนิดเสียมเขาควาย
ให้ชนกัน
ผมเศร้าสลดใจเหลือเกินกับภาพการที่เกิดขึ้น
...
เรื่องของสงฆ์ที่จะยุติได้โดยหมู่สงฆ์ กลายเป็นเรื่องยากเย็นไปแล้ว
ด้วยว่ามีขบวนการบ่างช่างยุนี่ปะไร
ความพยายามของคณะบุคคลเหล่านี้
พยายามจะตัดตอนและริดรอนขบวนการของศาลสงฆ์อย่างต่อเนื่อง
และหนักข้อขึ้นทุกขณะ
นับวันคำพูดจากปากของคนปากพล่อย
พูดแบบผู้ไร้สามัญสำนึกของความเป็นพุทธบริษัท
ความเห็นที่ไม่สอดรับ
หรือตรงกันในมหาเถรสมาคม ถูกขยายความเป็นการเกื้อกูลช่วยเหลือ
เพื่อหวังลาภสักการะเงินทองของ พระเถระ
ที่นั่งเป็นกรรมการในมส.
เป็นความเห็นของเสฐียรพงษ์
ในฐานะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงไม่แปลกอะไรที่สมศักดิ์
ปริศนานันทกุล เจ้า กระทรวงฯ จะออกมาเต้นแร้งเต้นกา
ตามคำบอกกล่าวเล่าไขของที่ปรึกษา
เกียรติภูมิ ศักดิ์ศรีของศาลสงฆ์
ถูกว่ากล่าวว่าให้ร้ายอย่างรุนแรง
แบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ก้าวล่วงถึงขั้นคิดการมิบังควรปลดพระสังฆราชจากตำแหน่งปกครองสงฆ์
ก็หลุดออกมาจากปากราชบัณฑิตเสฐียรพงษ์ ก็ปรากฏให้เหล่า ชาวพุทธได้รับรู้
ซ้ำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐ กลับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ด้วยการไม่สนใจต่อคำพูดพล่อยของราชบัณฑิตผู้นี้
อาการได้ใจของเสฐียรพงษ์
จึงก้าวล้ำ และมีท่าทีก้าวล่วงต่อคณะปกครองสงฆ์
จนกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปเสียแล้ว
ล่าสุดให้สัมภาษณ์ว่า
พระนิพพานเป็นอนัตตา ไม่ใช่อัตตา อย่างแน่นอน ผมคนหนึ่งล่ะครับ
ที่ไม่อาจทำใจเชื่อคำพูดของราชบัณฑิตผู้นี้ได้
ท่านสาธุชนพิจารณาจากพฤติกรรมของเสฐียรพงษ์ ว่า เขาผู้นี้ มีพฤติกรรมอย่างไร
ในการปกป้องพระพุทธศาสนา
จุดยืนที่ไหลเฉื่อยเหมือนสายน้ำขึ้น-ลง ถ้ามั่นใจ
และมีศรัทธาต่อพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เห็นพระนิพพานเป็น อนัตตา อนิจจัง
ทุกขัง อนัตตา ชีวิตสัตว์โลกไม่เที่ยงหนอ ห่อหุ้มด้วยกองทุกข์น้อยใหญ่
หันหลังให้กับประตูพระนิพพานทำไมล่ะครับ
ท่านราชบัณฑิต
ผมเบื่อที่จะพูดถึงเรื่องนี้ แต่อดไม่ได้
เพราะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ชอบแอบวางระเบิดเวลา ซุ่มโป่ง
ทำให้หัวอก ชาวพุทธสั่นไหวอยู่บ่อยครั้ง
ความเห็นที่แตกต่าง
ไม่ได้ผูกติดอยู่แค่เรื่องของเงินๆ ทองๆ เท่านั้น อย่าคิดแบบคนใจแคบเห็นแก่ตัว
ไม่เคารพศักดิ์ศรี
ในความเป็นมนุษย์
ไม่จำเพาะเจาะจงแต่พระเถระที่ท่านมีความเห็นไปคนละทิศละทาง
หากแต่นักกฎหมายมืออาชีพของประเทศ ก็ยังมีความเห็นไม่เหมือนกัน เลยครับ
แม้จะร่ำเรียนศึกษานิติศาสตร์ กฎหมายฉบับเดียวกัน ครูบาอาจารย์ คนเดียวกัน
ยังมีความเห็นไม่เหมือนกัน
ถ้าเหมือนกันหมดทุกอย่าง ก็ไม่ใช่มนุษย์ซิครับ
จะต้องเป็นหุ่นยนต์ หรือวัวควาย ที่ให้ใครต่อใครเที่ยวจูงจมูก ใช้งานเช่นทาส
และก็ไม่ควรเป็น มาตรฐานในระบอกประชาธิปไตย หากแต่เป็นความเห็นของนักเผด็จการ
ผู้กระหายเลือดเท่านั้น
ความเห็นที่แตกต่างนี้เอง
สร้างสรรสิ่งดีงามให้กับโลกมามากมาย เพียงแต่จัดระเบียบความคิดให้สอดรับ
นำเหตุผลซึ่งกันและกัน มาไตร่ตรอง พิจารณาเพื่อหาข้อยุติ
ก็เหมือนกับกระบวนของตุลาการของเราเนี้ยแหละครับ
กว่าจะผ่านขั้นตอนอุทธรณ์
ฎีกา ก็อาจจะมีเรื่องบิดพลิ้วเกิดขึ้นอย่างมากมาย แต่ในเมื่อสังคม
ได้กำหนดให้เป็นหน่วยงาน ควบคุมคนใน สังคม แล้ว จะมาชี้หน้า
กล่าวตำหนิหลังคำพิพากษาได้หรือไม่ว่า ไม่ยุติธรรมสำหรับใครๆ
เพราะนี่คือกฎเกณฑ์ของคนในสังคม ที่จะ ระงับความขัดแย้งด้วยกระบวนการ
"ยุติด้วยธรรม" เท่าที่จะหาได้
กรณีพระพรหมโมลี และสมเด็จวัดชนะฯ
กรุณาอย่ามองเป็นเรื่องของการต่อสู้เอาเป็นเอาตาย พระท่านมีธรรมเป็น
เครื่องหล่อเลี้ยงหัวใจ อยู่แล้ว ควรที่ผู้เกี่ยวข้องจะต้องระมัดระวังคำพูด
และการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว อย่างแยบยล
เพื่อให้ได้ข้อยุติที่ละมุน ละม่อม
ที่สุด
นั่นคือเป้าหมายสำคัญในการปกป้องพระพุทธศาสนา จะหลักกฎหมาย
หรือวิธีของสามัญชน มาปฏิบัติมิได้ หากแต่ควรนำหลักพระธรรม
คำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
มาปฏิบัติต่อกัน
ผมไม่อยากเห็นภาพความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
เป็นเรื่องของใกล้เกลือกินด่าง
หรือเรื่องของเนื้อสนิมเกิดแต่เนื้อในตน
โซตัส