ปีที่ 3 ฉบับที่ 928 ประจำวันศุกร์ที่ 28 เดือนมกราคม พ.ศ. 2543 |
กมธ.ศาสนา ปลื้มคำตอบวัดธรรมกาย
กรรมาธิการการศาสนา บุกวัดพระธรรมกาย
สอบถามต้นสายปลายเหตุ อรรถสิทธิ์ ทรัพยสิทธิ์ ยอมรับ พอใจคำตอบเคลียร์พอสมควร
เตรียม ชงเรื่องเสนอกระทรวงศึกษาธิการ และกรมการศาสนา หาหนทางยุติปัญหา
ด้านการเดินนิคหกรรม ทางธรรมกายยืนยันว่า ได้ทำตาม ขั้นตอน ของคณะสงฆ์ทุกอย่าง
และกระบวนการได้จบลงไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ เวลา 10.00 น.
ที่วัดพระธรรมกาย นายอรรถสิทธิ์ ทรัพย์สิทธิ์ ประธานกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และ
วัฒนธรรม พร้อมคณะ และเจ้าหน้าที่กรมการศาสนา นำโดย นายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์
รองอธิบดีกรมการศาสนา จำนวนกว่า 20 คน ได้เดินทางเข้าไปยังวัดพระธรรมกาย
เพื่อสอบถามความเป็นไปต่างๆ ในกรณีที่วัดพระธรรมกาย ถูกสื่อมวลชนโจมตีว่า
มีสาเหตุอย่างไร รวมถึงขอทราบท่าทีของวัดพระธรรมกาย
ในกรณีการดำเนินการกฎนิคหกรรม
นายอรรถสิทธิ์พร้อมคณะ
ได้เดินทางเข้าไปยังบริเวณโบสถ์วัดพระธรรมกาย เพื่อไหว้พระประธาน โดยมีพระทัตตชีโว
รักษาการณ์เจ้าอาวาส ให้การต้อนรับ หลังจากกราบพระรัตนตรัยเสร็จแล้ว
นายอรรถสิทธิ์ได้สอบถามพระทัตตชีโวว่า ทำไมพระพุทธรูปของวัดพระธรรมกาย จึงไม่
เหมือนพระพุทธรูปของวัดอื่นในประเทศไทย พระทัตตชีโวได้ตอบว่า
ที่สร้างพระพุทธรูปออกมาในลักษณะนี้ เป็นการจำลองลักษณะ ของ มหาบุรุษ 32 ประการ
ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่มีจารึกไว้ในพระไตรปิฎก มาปั้นเป็นองค์พระ
ไม่ใช่ต้องการให้แตกต่างจากวัด แห่งอื่น แต่ประการใด
หลังจากนั้น
พระทัตตชีโว ได้แยกตัวกลับไป แล้วให้ พระสมชาย ฐานวุฑโฒ ทำการต้อนรับคณะผู้มาเยี่ยม
โดยพระสมชายได้นำคณะ ดังกล่าว เข้าชมสไลด์มัลติวิชั่นของวัดว่า
การดำเนินกิจกรรมต่างก็เพื่อต้องการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ได้มีเจตนาอื่นแอบแฝง
ใช้เวลาใน การชม ประมาณ 30 นาที
ต่อจากนั้น พระสมชายได้นำพาคณะผู้มาเยี่ยม
ให้เดินทางไปดูที่พักของพระภิกษุสามเณร ซึ่งเป็นกระท่อมมุงจาก และอยู่แบบรวมกัน
หลังเดียวหลายองค์ เน้นให้เห็นถึงความเป็นอยู่ที่สมถะของพระเณรภายในวัด
ไม่ได้มีภาพหรูหราอย่างที่เคยเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้
เสร็จจากการดูที่พักของพระภิกษุสามเณรแล้ว
คณะได้เดินทางไปเยี่ยมชมมหาธรรมกายเจดีย์ ซึ่งอยู่ในระหว่างการทำความสะอาด
ซึ่งทางคณะผู้เยี่ยมชมคนหนึ่งได้กล่าวว่า คงต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างมาก
เพราะมีพระรายล้อมเจดีย์มากมายหลายแสนองค์ แต่ก็ถือว่า เป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่
และมีลักษณะที่แปลกไปจากเจดีย์ทั่วไป ตนเคยเห็นแต่ในรูปภาพ เมื่อมาดูของจริง
ยอมรับว่า สร้างได้สวยงามมาก
เมื่อเสร็จจากชมมหาธรรมกายเจดีย์แล้ว
คณะก็ได้เดินทางมายังตึกที่ทำการมูลนิธิฯ เพื่อร่วมประชุมกัน
โดยทางฝ่ายวัดพระธรรมกาย มีพระสมชายเป็นตัวแทน และพล.อ.อ.วีรยุทธ เลาวเปารยะ
นายผ่อง เล่งอี้ นายมานิตย์ รัตนสุวรรณ นายสนธยา โพธิ์แดง เป็นผู้ตอบคำถาม
ของคณะกรรมาธิการ
อย่างไรก็ตาม การร่วมประชุมทั้ง 2 ฝ่าย ใช้เวลานานเกือบ 3
ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้น นายอรรถสิทธิ์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ถึงการร่วม
หารือว่า รู้สึกพอใจในคำตอบของวัดพระธรรมกาย ในหลายประเด็น เพราะก่อนหน้านี้
คณะกรรมาธิการ ไม่เคยเข้ามาดูกิจกรรมของวัดเลย
ทำให้ทางคณะกรรมาธิการมองวัดไปตามที่เป็นข่าว
อย่างไรก็ตาม
เมื่อได้ทราบที่มาที่ไปของเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ก็จะนำข้อมูลที่สรุปได้ในครั้งนี้
นำเสนอต่อคณะผู้บริหาร และกรมการศาสนา ต่อไป
ทั้งนี้ทุกเรื่องจะทำด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม
ไม่มีอคติและความลำเอียงอย่างเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวถามว่า
ได้คำตอบอะไรจากวัดพระธรรมกายมาบ้าง นายอรรถสิทธิ์กล่าวว่า
ทางคณะกรรมาธิการได้สอบถามว่า ทำไมวัดถึงมีการ จัดเวรยามแน่นหนา ต่างจากวัดทั่วไป
ซึ่งทางตัวแทนวัดได้ตอบว่า คนในวัดมีผู้หญิงเยอะถึง 7-800 คน
ก็ต้องมีการจัดเวรยามให้แน่นหนา เพื่อระวังภัย
นอกจากนี้
ยังได้ถามถึงเงินบริจาค และการนำเงินไปใช้ในการพัฒนาวัด
รวมทั้งกรณีที่เป็นข่าวที่เกิดขึ้น ซึ่งทางวัดก็ได้อธิบายให้เข้าใจว่า
ได้เงินบริจาคมาอย่างไร และนำไปใช้อย่างไร ถึงแม้ว่าจะไม่มีการนำบัญชีมาให้ดู
แต่ทางคณะก็ได้รายละเอียดบางประการพอเข้าใจ
และสามารถดำเนินการหาข้อเท็จจริงในขั้นตอนต่อไปได้ และเชื่อว่า
ในอนาคตคณะกรรมาธิการ
จะเดินทางมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอีก
ส่วนความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
คือเรื่องที่วัด ไม่ค่อยให้ความร่วมมากับคณะกรรมาธิการ
ในกรณีที่เรียกให้เดินทางมาชี้แจง และเรียกมาหลายครั้ง แต่ปรากฏว่า ทางวัดไม่เคยมา
ซึ่งทางเราก็ได้ถามไปว่า ทำไมคณะกรรมาธิการเรียกแล้วไม่มา ทางตัวแทนของวัด
ได้ตอบว่า ที่ไม่เดินทางไปตามคำเรียกของคณะกรรมาธิการ ก่อนหน้านี้
มีปัญหาข้อติดขัดอย่างไร โดยเฉพาะไม่มั่นใจว่า จะได้รับความ ยุติธรรม
ซึ่งทางตนก็ให้คำยืนยันไปว่า
จะดำเนินการด้วยความยุติธรรม
สำหรับปัญหาที่ทางคณะกรรมาธิการสอบถามอีกเรื่องหนึ่งก็คือ
จะหาข้อยุติในเรื่องนี้อย่างไร และมีสาเหตุมาจากอะไร แล้วทำไมทางวัด
จึงไม่ทำตามกฎนิคหกรรม แต่ในเรื่องนี้ ทางตัวแทนวัดได้อธิบายให้ทราบว่า
ได้ดำเนินการตามกฎนิคหกรรมมาโดยตลอด ไม่เคยบิดพริ้ว แต่อย่างใด
เมื่อทางวัดยืนยันอย่างนี้
ทางตนก็ไม่ได้สอบถามต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า
สำหรับกรณีที่ทางวัดไม่เชื่อว่า จะได้รับความเป็นธรรมจากคณะกรรมาธิการนั้น
เป็นเพราะว่า ตอนที่คณะ กรรมาธิการ เรียกมา ประธานกรรมาธิการเป็นคนต่างศาสนา
ซึ่งไม่มีความเข้าใจในศาสนาพุทธ
จึงเกิดความไม่มั่นใจดังกล่าว
ส่วนเรื่องที่มาที่ไปจนทำให้เกิดเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมานั้น
ทางตัวแทนของวัด ได้อธิบายคณะกรรมาธิการทราบว่า เป็นเพราะว่า ก่อนหน้านี้
มีพระเถระในวัดรูปหนึ่ง ต้องการเข้ามามีอำนาจในการบริหารวัด
แต่พระธัมมชโยและพระทัตตชีโว เห็นว่าไม่เหมาะสม จึงทำให้พระรูปนั้น แค้น
แล้วก็พยายามปลุกปั้นข่าว โดยร่วมมือกับระดับบิ๊กสื่อมวลชน
ป้ายสีให้วัดและตัวเจ้าอาวาสเสียหาย แต่ทางวัดก็ไม่เคยคิดเอาเรื่อง
เอาราวกับพระรูปดังกล่าว เพียงแต่ตอนนี้ พระรูปนั้น
ไม่ได้อยู่ที่วัดพระธรรมกายแล้ว
นายผ่อง เล่งอี้ กล่าวว่า
หลังจากที่ได้อธิบายให้คณะกรรมาธิการทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้ว มั่นใจว่า
คณะกรรมาธิการจะมองวัด ในภาพ ที่ดีกว่าเดิม และเชื่อว่า คงดำเนินการแก้ปัญหาของวัด
ด้วยความยุติธรรม ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางวัดกับคณะกรรมาธิการ ไม่เคยหารือกันมาก่อน
เลยอาจทำให้มีความเข้าใจผิดบางอย่าง แต่ตอนนี้
เมื่อคณะกรรมาธิการได้เห็นด้วยตาตนเอง และได้ทราบข้อเท็จจริง ที่ทางวัดอธิบาย
ให้ทราบแล้ว คงมีความเข้าใจวัดมากขึ้นกว่าเดิม