ปีที่ 3 ฉบับที่ 955 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 24 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 |
เมื่อเปาบุ้นจิ้นถูกปลด
ยุวสงฆ์นับหมื่นลุกขึ้นสู้
ประวัติศาสตร์ที่จารึกไว้เป็นรอยด่างของวงการสงฆ์
คือ กรณีศึกสมเด็จ กรณีพระพิมลธรรม
การช่วงชิงตำแหน่งสังฆราชที่จบลงด้วยการใส่ร้ายป้ายสีคู่แข่งขัน และใช้อำนาจมืด
ของสงฆ์ระดับสูง
เข้าถอดผ้าเหลืองท่ามกลางความวิปโยคโศกสลดของสงฆ์ทั่วประเทศ
เหตุการณ์ครั้งนั้น
สะเทือนขวัญชาวพุทธผู้รักความเป็นธรรมทั่วประเทศ
เพราะเป็นการกระทำต่อพระเถระระดับสูงผู้บริสุทธิ์ ทั้งที่ไม่มีหลักฐาน
ข้อกล่าวหาก็เลื่อนลอย
แต่บ้านเมืองยุคนั้นเป็นยุคเผด็จการ
ที่ได้อำนาจมาจากการปฏิวัติ ผู้มีอำนาจสูงสุด จะกล่าวโทษใครก็ได้
แล้วก็ให้ตำรวจจับตัวไปขังไว้ เพื่อเค้นหาข้อหา และพระเถระผู้ใหญ่ก็ถูก
ถอดผ้าเหลือง จับไปขังอยู่หลายปี ก็ยังหาข้อหาไม่ได้ วงการพระผู้น้อยทนอยู่ไม่ได้
ต้องลุกขึ้นต่อสู้เรียกร้องขอความเป็นธรรมให้
สุดท้ายก็ต้องปล่อยตัวท่านเป็นอิสระ
ต้องคืนยศตำแหน่งให้ แต่ก็สายเสียแล้ว เมื่อพระเถระผู้ช้ำใจ
ไม่ปรารถนาจะได้อะไรทั้งสิ้น และอายุของท่านก็ใกล้ฝั่งแล้ว ไม่รู้จะเอายศศักดิ์นั้น
ไปทำอะไร ได้แต่ดูด้วยความไม่ยินดียินร้าย
แต่ผู้กระทำบาปนั้น
ต่อมาต่างต้องรับกรรมหนักทันตาโดยถ้วนทั่วทุกคน
แต่พลังของภิกษุสงฆ์ทั่วประเทศครั้งนั้น
ยิ่งใหญ่นัก การลุกขึ้นยืนหยัดต่อสู้ให้กับพระผู้ใหญ่
โดยไม่หวั่นเกรงภัยอย่างใดทั้งสิ้น ความรู้สึกต่อต้านความไม่เป็นธรรม การเห็น
พระผู้ใหญ่ถูกรังแก
อย่างไม่มีทางต่อสู้ที่น่าสลดใจยิ่งนัก
และสุดท้ายชัยชนะก็เป็นของผู้ใฝ่ธรรมะในที่สุด
แม้จะใช้เวลาหลายปี
เหตุการณ์วันนี้กำลังพิสูจน์ใจของพระภิกษุสงฆ์ทั่วประเทศ
ณ วันนี้ ยุวสงฆ์นับหมื่นได้ลงชื่อขอความเป็นธรรมให้กับเจ้าคุณพรหมโมลี
พระเถระผู้ใหญ่ระดับรองสมเด็จ ที่ถูกปลดจากตำแหน่งอย่างไม่เป็นธรรม ด้วยข้อหาว่า
หย่อนสมรรถภาพ
ประเด็นสำคัญคือ การไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา
เรื่องการรื้อฟื้นคดีนิคหกรรม ซึ่งจบคดีไปแล้ว เพราะมติครั้งแรกของมหาเถรสมาคม
ให้คืนสำนวนคำฟ้อง
ให้กับผู้กล่าวหาไปและผู้กล่าวหาก็มารับสำนวนคืนไปเรียบร้อยพร้อมน้ำตาคลอ
แต่อีกเพียงไม่กี่วันต่อมา
มหาเถรสมาคมกลับมีมติใหม่ เปลี่ยนใจ
เพราะไปฟังนักกฎหมายอาวุโสที่ให้ความเห็นคลุมเคลือ
เพื่อเปิดทางให้ฟื้นคดีใหม่
แต่คราวนี้ เจ้าคุณพรหมโมลี ท่านไม่เล่นด้วย
เพราะเป็นคำสั่งที่ผิดกฎหมาย เพราะคดีจบแล้ว ตามหลักพระวินัย
ไม่สามารถเรียกกลับมาใหม่ได้ ใครกล้าสั่งก็ถือว่า กล้าทำผิด กฎหมายและผิดพระวินัย
ซึ่งในฐานะเปาปุ้นจิ้น จะให้ท่านฝืนใจตามกระแส ท่านยอมตายคาหลักการ เพราะทำไม่ได้
ผิดพระวินัยอย่างร้ายแรง
แต่คำสั่งสายฟ้าฟาด ก็มีประกาศให้ท่านออกจากตำแหน่ง
แม้ไม่ถือว่ามีความผิด แต่ก็ถือว่า หย่อนสมรรถภาพ เป็นการสร้างตราบาป
ให้กับประวัติของท่าน ทำให้มัวหมอง
ทั้งที่ยืนหยัดอย่างมั่นคงในหลักการยุติธรรม
วันนี้เรื่องราวของท่านเปา
เจ้าคุณพรหมโมลี กลายเป็นเรื่องที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
จากวงการสงฆ์ทั่วประเทศ
ที่ไม่เห็นด้วยกับความอยุติธรรมที่ท่านได้รับ
เพราะถ้าพระระดับผู้ใหญ่ที่มีตำแหน่งสูงถึงขนาดนี้
ก็ยังไม่ปลอดภัยต่อภัยมืดที่แฝงตัวอยู่เบื้องหลังเรื่องอย่างเหี้ยมเกรียมและเลือดเย็น
ถ้าเช่นนั้น
พระทั้งประเทศก็ตกอยู่ในเงามืดที่น่าหวั่นกลัวยิ่งนัก
เพราะแม้พระเถระผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่รอบโต๊ะมหาเถรสมาคม
ก็ยังไม่กล้าปริปากกล้าคัดค้าน เพราะเกรงภัยมือนั้น จะมาถึงตัว
อย่างไม่มีใครป้องกันให้ได้
เมืองไทยและศาสนาพุทธก็ตกอยู่ในอันตรายยิ่งนัก
เหตุการณ์สะเทือนขวัญพระภิกษุสงฆ์ทั่วประเทศ
ภาพการแตกร้าวในวงการสงฆ์ระดับสูงที่มีผู้หัวเราะชอบใจอยู่หลายคนด้วยกัน
เพราะในวงการสงฆ์ที่ถือว่า
ศักดิ์สิทธิ์ ก็อย่าได้คิดว่า จะมีคนชอบมหาเถรสมาคมนี้นัก หลายคนอกหัก
เพราะการตัดสินของมส.ที่ไม่เข้าข้างตัวเอง ได้รับโทษภัยจากมส.
ทำให้กลายเป็นเรื่องโกรธแค้นส่วนตัว
และจ้องในการทำลายมส.มาหลายปี
การแอบให้ข่าวร้ายของมส. เพื่อทำลายพระผู้ใหญ่
เป็นสิ่งที่ได้ยินได้เห็นเป็นประจำ มาถึงวันนี้ ผู้ที่มีความเจ็บแค้นต่อมส.
ก็หัวเราะชอบใจด้วยความสะใจ ที่ทำให้วงการ พระผู้ใหญ่แตกกันได้สำเร็จ
จะด้วยฝีมือใครก็ตามก็แล้วแต่
แต่กลุ่มบุคคลที่มีความสุขที่สุดคือ
ภัยมืดจากศาสนาอื่น ที่เต็มไปด้วยเงินทองมหาศาลและกบดานนิ่งในประเทศไทย
การพยายามขุดรากถอนโคนพระพุทธศาสนา ให้สิ้นสูญจาก เมืองไทย
เหมือนกับที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม ศรีลังกา
เกาหลี
การทำให้เกิดสงครามศาสนาอันศักดิ์สิทธิ์
เพื่อจะได้แทรกเอาพระเป็นเจ้านัยน์ตาสีฟ้า มาให้คนเอเชียเคารพกราบไหว้บูชา
ให้กราบฝรั่งทั่วประเทศไทย ให้กลายเป็นอาณานิคม ทางศาสนาของโลก
ที่จะถูกกลืนให้เป็นหนึ่งเดียว
วันนี้ บุคคลเหล่านี้ ฉลองชัยอย่างเงียบ ๆ
ที่เห็นความแตกร้าวลึกไปถึงระดับพระผู้ใหญ่ และปรากฏต่อสื่อมวลชน
ใครก็กล้าขัดขวางก็จะถูกภัยมืด อย่างที่ไม่มีใครกล้าปริปาก
วันแห่งความเสื่อมสลายของพุทธศาสนามาเร็วกว่าที่เขาคาด
และถ้าสามารถทำให้เกิดความแตกร้าวมากกว่านี้
พาดหัวข่าวได้มากกว่านี้ ทำให้คนเบื่อหน่ายพุทธศาสนาได้มากกว่านี้
การเผยแพร่ศาสนาอื่น ก็จะทำได้ง่ายกว่านี้ และขณะนี้
ก็มีคำสั่งระดับเสนาบดีไปทั่วประเทศ ประกาศว่า ต่อไปนี้
ใครจะสอนศาสนาอะไรในโรงเรียน ก็ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ
สอดคล้องกับแผนการอย่างน่าประหลาด
ครับ ตามสบายนะครับ สอนคัมภีร์ฝรั่ง
ในโรงเรียนไทยก็ดีเหมือนกัน ไหน ๆ ก็ยกเลิกวิชาศีลธรรมออกไปนานแล้ว
จะได้เป็นขี้ข้าฝรั่งกันทั้งชาติหัวจรดหาง กราบพระสังฆราชฝรั่ง
พระเจ้าฝรั่งนัยน์ตาสีฟ้า ผิวสีขาว และร้องว่า .. อาเมน..
กาขาว