ปีที่ 3 ฉบับที่ 974 ประจำวันพุธที่ 15 เดือนมีนาคม พ.ศ. 2543 |
เผยยุทธศาสตร์ บ่อนทำลายล้างประเทศและพุทธศาสนา
เรียนพี่น้องชาวไทยที่รักทุกคน
สหรัฐอเมริกา มหาอำนาจ ผู้ผลักดันแนวคิด "Globalization" หรือ "การทำโลกให้เป็นหนึ่ง" ให้เข้าไปมีอิทธิพลต่อกระแสสำนึก และการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตประชากรโลก
เพื่อรวม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ อำนาจการเมือง ให้เป็นหนึ่ง
จากแนวคิดข้างต้น ทำให้เกิดข้อกังขาว่า สหรัฐฯ กำลังทำอะไร? ทำไปทำไม? เพื่อความเป็นมหาอำนาจของตัวเอง หรือมอบประโยชน์ให้ประเทศที่ตกเป็นเหยื่อกันแน่!!!
จากกรณีศึกษาในครั้งที่สหรัฐฯ รบแพ้อย่างไม่เป็นท่าในสงครามกลางเมืองในเวียดนาม ทำให้สหรัฐฯ ได้รับบทเรียนอันเจ็บปวดว่า การจะเอาชนะประเทศด้อยพัฒนา
เช่น เวียดนาม โดยใช้กำลังอาวุธนั้น จะทำให้คนทั้งประเทศรู้ตัว ซ้ำกลับทำให้เวียดนามเกิดภาวะกดดัน รวมใจกันลุกฮือขึ้น จนสหรัฐฯ ต้องพ่ายแพ้ไปในที่สุด
จากบทเรียนอันขมขื่นและการเสียหน้าครั้งใหญ่ในครั้งนั้น ยุทธศาสตร์ถูกปรับเปลี่ยนใหม่หมด โดยหันมาใช้วิธีเข้าแทรกแซง แทรกซึม โดยมิให้ประเทศเป้าหมายรู้ตัว
และทำการ
บ่อนทำลายให้มีความระส่ำระสาย และทำลายความมั่นคงของประเทศ โดยเริ่มรุกรานด้านเศรษฐกิจ
Globalization กำลังถูกตีแผ่ในอีกแง่มุมหนึ่ง เพื่อให้คนไทยได้ตัดสินใจได้ว่า คำนี้ กำลังนำความศิริไลซ์ไร้พรมแดนมาให้ หรือเป็นยุทธวิธีแอบแฝง เพื่อยึดครองประเทศกันแน่!
Globalization คุณประโยชน์ 4 ด้าน จริงหรือ?
Globalization ได้เข้ามามีผลเด่นชัดใน 4 ด้านหลักคือ ด้านเทคโนโลยี ด้านการค้า ด้านเงินทุน ด้านวัฒนธรรม และที่สังเกตได้เด่นชัดคือ ขบวนการนี้
เริ่มจากโจมตีค่าเงิน ใน
ประเทศต่าง ๆ แถบเอเซียเป็นลูกโซ่ ทำให้เศรษฐกิจในดินแดนแถบนี้ ทรุดตัวจนเกิดภาวะวิกฤต โดยมีประเทศไทยเป็นจุดเริ่มต้น จากนั้น ทำทีให้ความช่วยเหลือในรูปเงินกองทุน IMF (International Montaty Fund) โดยมียักษ์ใหญ่ สหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าของเงินทุน เข้าทำนองตบหัวแล้วลูบหลัง และยังพยายามผลักดันให้ประเทศต่างๆ เปิดการค้าเสรี (Free Trade) ในรูปแบบขององค์กรการค้าโลก WTO (World Trade Organization) จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา จะเห็นว่า ต่างชาติพยายามบีบให้ไทยเปิดการค้าเสรี
เพื่อนำสินค้า ที่ตน
ผลิตได้ในราคาต้นทุนที่ถูกกว่าเข้ามาขาย เพื่อจะได้เกิดการได้เปรียบทางการค้ากับไทย ดังนั้น ประเทศไทยจึงถูกบีบให้เป็นตลาดการค้าเสรี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 เป็นต้นมา
ผลที่เกิด ตามมาก็คือ เราขายข้าวส่งอเมริกาในราคาเกวียนละ 3,800 บาท แต่อเมริกาส่งคอมพิวเตอร์มาขายในราคาเครื่องละเป็นหมื่น นี่หรือคือ WTO ที่สหรัฐนำมาโอบอุ้มไทย?
การเป็นเจ้าแห่ง IT (Infornation Technology) โดยพยายามทำตัวเป็นศูนย์กลางข้อมูลทั้งหมด และเข้าแทรกแซงทางวัฒนธรรม โดยส่งสื่อเข้ามาในรูปแบบต่าง ๆ ตั้งแต่สินค้า การแต่งกาย ดังปรากฏได้ชัดจากค่านิยมการแต่งกายของวัยรุ่นไทยในปัจจุบัน (เช่นชุดสายเดี่ยว ชุดที่เปิดนั่นโชว์นี่ ฯลฯ) ซึ่งเมื่อสมัย ปู่ ย่า ตา ยาย จะถูกห้ามปรามและสิ่งนี้
จะเป็นการขัดต่อวัฒนธรรมไทย แต่สมัยนี้กลับกลายเป็นเรื่องธรรมดา ที่ทุกคนยอมรับ เพราะถ้าใครไม่ปฏิบัติ ก็จะถูกมองว่า เชย หรือ ล้าสมัยไป
เหตุใดอเมริกาจึงต้องการครองโลก
การมองการณ์ไกลของพญาอินทรีย์ เล็งเห็นแล้วว่า ภาวะปัจจุบันสหภาพยุโรป รวมตัวกันกำหนดนโยบายและมาตรการทางค้า ตลอดจนเงินสกุลใหม่ คือ เงินยูโร ซึ่งในอนาคตมีแนวโน้มว่า จะเป็นเงินที่แข็งที่สุด น่าเชื่อถือที่สุด ใหญ่ที่สุด และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ดอลล่าร์สหรัฐฯ ก็จะหมดความหมายทันที เงินจะไหลกลับคืนอเมริกาอีกครั้ง เกิดภาวะเงินเฟ้อขึ้น และในที่สุด ก็จะต้องหันกลับมายอมรับเงินสกุลใหม่ ถ้าเป็นเช่นนี้ อเมริกายอมได้หรือ?
จากเหตุผลนี้เอง ทำให้อเมริกาพยายามผลักดันเงินดอลล่าร์ให้ออกมามากสุด เปลี่ยนจากเงินปลอมเป็นเงินจริง โดยเปลี่ยนเป็นที่ดิน ยกเลิกระบบทองคำสำรอง หันมาใช้ระบบตระกร้างเน มีการค้าเงินเสรี เงินบาทลอยตัว คือขึ้นกับอัตราการขึ้นลงของเงินดอลล่าร์ ปั่นหุ้นให้เกิดภาพลวงตา ที่เรารู้จักกันในนามภาวะฟองสบู่นั่นเอง ตลอดจนทำแผนการยึดครองแหล่งทรัพยากรโลก ดังในประเทศไทย เหมืองแร่ หรือแหล่งน้ำมัน ได้ถูกต่างชาติสัมปทานไปเรียบร้อย สุดท้ายคือการสร้างอำนาจข่มขู่ โดยตัวเองมีอำนาจต่อรองที่เหนือกว่า
กลุ่มประเทศในยุโรปเป็นประเทศที่แข็ง จนสหรัฐฯ เข้าไปดำเนินแผนการดังกล่าวได้ยาก จึงมุ่งเป้ามาทางแถบเอเชีย เพราะมีภาวะเหมาะสมหลายประการคือ เป็นแหล่งทรัพยากร เป็นแหล่งอาหารของโลก เพราะเป็นผลสืบเนื่องมาจากปรากฏการเอลนีโญ่ ต่อไปจะเหลือแหล่งอาหารของโลกเพียง 5 แหล่งใหญ่เท่านั้นคือ ไทย เวียดนาม พม่า กัมพูชา และยูนนาน
นักวิชาการด้านอวกาศ (NASA) ของอเมริกา ยืนยันถึงผลกระทบต่อการเคลื่อนตัวของของเหลวภายในโลก การเรียงตัวของดาวาเคราะห์หลายดวง ซึ่งส่งผลให้แกนโลกเอียง อากาศหนาวลง เกิดการบีบตัวของผิวโลกอย่างรุนแรง (แผ่นดินไหวที่ไต้หวัน) การแยกตัวของผิวโลกบางส่วน (แผ่นดินถล่มที่ตุรกี) เกิดการไหลย้อนกลับของน้ำมันจากอินโดนีเซีย ไหลย้อนกลับมาโผล่ที่อ่าวไทย จึงมีแผนการจะดักขุดเจาะ ซึ่งปัจจุบันถูกสัมปทานไปเรียบร้อยแล้ว ผลการสำรวจจากดาวเทียมพบทองคำ เพชร ยูเรเนียม ปรากฏขึ้นในไทย ซึ่งเหมืองเพชรที่จังหวัดกระบี่ก็ได้ถูกอเมริกาสัมปทานไปเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
มาพูดถึงตำแหน่งที่ตั้งของประเทศไทย ถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดี ถ้าครองไทยได้ ก็จะคุมจีนได้ คุมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ อีกทั้งเป็นประตูเปิดไปสู่ญี่ปุ่น และเอเชียแปซิฟิค และยังเป็นจุดที่สามารถรับสัญญาณดาวเทียมได้ชัดเจนที่สุด ซึ่งไทยก็เป็นหนึ่งในจำนวน 2-3 จุดบนโลก
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่า อเมริการเข้าแทรกแซงไทยมานานแล้ว แต่กลับพบว่า หลังจากทำลายเศรษฐกิจและวัฒนธรรม จนย่อยยับไปแล้ว ไทยยังอยู่ได้ เพราะมีศาสนาพุทธ จึงหันมากระหน่ำในช่วง 3-5 ปีหลังนี้ โดยมุ่งทำลายพุทธศาสนาโดยตรง เพราะวิเคราะห์แล้วว่า สถาบันที่เป็นศูนย์รวมจิตใจคนไทยคือ สถาบันพุทธศาสนา ประกอบกับพบว่า ไทยยังมีทรัพย์สมบัติจำนวนหนึ่งที่มีค่ามหาศาล แต่อำนาจรัฐเอามาครอบครองไม่ได้ เนื่องจากเป็นของสงฆ์ (ทรัพย์สินของวัด 30,000 วัด ทั่วประเทศ มีประเทศ 4,000,000 ล้านบาท) การที่วัดต่างๆ ยังมีกิจกรรมทางศาสนาอย่างต่อเนื่อง เป็นการทำให้เงินตราไหลเวียนอยู่ในประเทศได้ จึงเท่ากับช่วยค้ำเศรษฐกิจไทยไว้ได้ทางหนึ่ง
การจะยึดเอาทรัพย์จำนวนนี้มาได้ ต้องเปลี่ยนแปลงกฎหมายว่าด้วย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ เสียใหม่ ให้ฆราวาสเป็นผู้ควบคุมกลไกต่าง ๆ (มีอำนาจเหนือพระ) จึงจำเป็นต้องใช้มือของนักการเมือง แก้ไข พ.ร.บ.สงฆ์ การจะแก้ไขได้ ก็ตอ้งทำให้ประชาชนชาวไทย เสื่อมศรัทธาในสงฆ์เสียก่อน จากนั้น เมื่อมีการดำเนินการใด ๆ ประชาชนก็จะไม่ลุกขึ้นมาปกป้องคณะสงฆ์ (อาจซวยซ้ำเติม เพราะความเข้าใจผิด) ทำให้ทำลายล้างได้อย่างง่ายดาย
โดยใช้แผนนารีพิฆาต แพร่ภาพพระเสพยาบ้า พระทำอนาจาร เณรย่างศพเด็ก ให้สื่อโหมกระหน่ำโจมตีมหาเถรสมาคม ใช้กรณีวัดพระธรรมกาย กดดันให้มหาเถรสมาคม เร่งรัดตัดสินใจ เมื่อทำช้าก็จี้ว่า มหาเถรสมาคมหย่อนยาน ปลดพระผู้ที่ใหญ่ที่ขัดขืน ออก พ.ร.บ.สงฆ์ใหม่ ทำให้คนสับสนในเรื่องพระนิพพาน สร้างกระแสให้ประชาชนไม่ยอมรับว่า นิพพานมีอยู่จริง เป็นการปฏิเสธเป้าหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา มอมเมาเยาวชนด้วยยาบ้า เหล้า สิ่งบันเทิง เพื่อไม่ให้เป็นกำลังของชาติได้ต่อไปในอนาคต
ขณะนี้เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ มาถึงจุดวิกฤตแล้ว คนไทยผู้เป็นเจ้าของประเทศ ยังมัวนิ่งนอนใจ ไม่ตระหนักถึงภัยที่มาคุกคาม ด้วยคิดว่า ไม่ใช่เรื่องของตน ไม่น่าจะร้ายแรงขนาดนั้น ถึงอย่างไรเราก็อยู่ได้ หรือขอเป็นผู้ติดตามดูอยู่ห่าง ๆ แล้วปล่อยให้กระบวนการทำลายล้างนั้น ดำเนินไปจนถึงปลายทางแล้ว ก็เป็นที่แน่นอนว่า ต่อไปข้างหน้า คนไทยจะไม่มีศูนย์รวมแห่งจิตใจ ให้ปฏิบัติอยู่ในครรลองคลองธรรม เราจะไม่มีพระเป็นครูสอน หรือเป็นต้นแบบในการทำความดี ไม่มีวัดไว้ให้ปฏิบัติธรรม ตลอดจนสูญสิ้นชาติไปได้ในที่สุด และเมื่อถึงขั้นนั้นแล้ว ใครเล่าจะดำรงอยู่ได้
ณ ตรงนี้ คุณตัดสินใจได้หรือยังว่า Globalization คือ ความศิริไลซ์ไร้พรมแดน หรือเป็นยุทธวิธีแอบแฝง เพื่อบ่อนทำลายประเทศ และพระพุทธศาสนา เพื่อยึดครองประเทศกันแน่?
อดีต NASA
ไอ้ทิด