พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 5 นี้ได้อัญเชิญจากโรงหล่อส่วนปฏิมากรรม กรมศิลปากร เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน
2542
โดยผู้อำนวยการสุธน จุลโมกข์, พ.ต.อ.(พิเศษ)พลวุฒิ วิเศษสงวน นายกสมาคมผู้ปกครองและครูทวีธาภิเศก
พลเรือโทฉกรรจ์ สุวรรณเสนีย์ อุปนายกสมาคมศิษย์เก่าทวีธาภิเศก โดยผ่านมาทางถนนปิ่นเกล้านครไชยศรี
ขึ้นทางลอยฟ้าคู่ขนาน ผ่านไปข้ามสะพานพระปิ่นเกล้า ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปเลี้ยวกลับที่ลานพระบรมรูปทรงม้า
เพื่อเป็นความเป็นศิริมงคล
รูปแบบของพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
นั้นทางโรงเรียนทวีธาภิเศก เลือกจากต้นแบบพระบรมราชานุสาวรีย์หินอ่อน ที่นายเซซาเร
พันดาคิโอติ นายช่างชาวอิตาลี ที่แกะสลักขึ้น ในปี พ.ศ. 2440 ตอนที่พระองค์เสด็จประพาสยุโรปครั้งที่
1 และหลังจากนั้น 1 ปี พระองค์ก็พระราชทานกำเนิดโรงเรียนทวีธาภิเศก ในปี พ.ศ. 2441
ขนาดของพระบรมราชานุสาวรีย์ มีความสูง 172 เซ็นติเมตร
ส่วนที่แท่นฐาน นาวาเอกอาวุธ เงินชูกลิ่น ผู้เชี่ยวชาญพิเศษกรมศิลปากร เป็นผู้ออกแบบและหาสถานที่จัดตั้งให้เหมาะสม
ส่วนสัญลักษณ์สำคัญ 3 อย่าง
ปั้นโดย ว่าที่ร้อยตรีกฤษณศักดิ์ กัณฐสุทธิ์ เพื่อนำไปประดิษฐานบนฉากหลัง
พระบรมราชานุสาวรีย์เพื่อเป็นสัญลักษณ์ อันสำคัญยิ่งของพระบรมราชจักรีวงศ์
อันได้แก่ พระจุลมงกุฎ (พระราชสัญลักษณ์ รัชกาลที่ 5) , เครื่องหมายพระปฐมราชจักรีวงศ์
ครุฑยุดนาค (พระราชสัญลักษณ์ รัชกาลที่ 2) โดยปั้นหล่อจากโลหะขึ้นเป็น 2 ชุด โดยหนึ่งชุดเก็บรักษาไว้เพื่อการศึกษาในพิพิธภัณฑ์ของโรงเรียน
จึงใคร่ขอเชิญท่านได้ถวายราชสักการะ
พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ตลอดเวลา และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จเป็นประธานในพิธีเปิด
พระบรมราชานุสาวรีย์ ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2543 นี้