คำว่า "Jeep" ถือกำเนิดขึ้นก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง โดยผู้ใช้คำว่า จี๊ป ก่อนคนอื่น คือ E.C. Segar *(1) (1894-1938) นักเขียนการ์ตูนผู้สร้างสรรค์ตัวการ์ตูนชื่อ "Eugene the Jeep" ให้เป็นจอมพลังเหนือผู้อื่น จนคำว่า "Jeep" เป็นคำสะแลงที่ทหารอเมริกันใช้เรียก คนตัวเล็กแต่แข็งแรง และต่อมาใช้เรียก ยานพาหนะขนาดเล็กแต่ทรงพลังจากอักษรย่อ "GP" ในหัวข้อนี้
ทำไมเราจึงนิยมรถจี๊ปที่รู้จักกันมานานตั้งแต่รุ่นต้นแบบ สีเขียวขี้ม้าที่ใช้ในงานทหาร ทั้งที่นั่งไม่สบาย, รูปทรงสี่เหลี่ยมเป็นกลักไม้ขีด, เปลืองเชื้อเพลิง, เสียงดัง และแล่นด้วย ความเร็วสูงสุดเพียง 65 ไมล์ หรือ 105 กม./ชม. (รวมถึง Jeepney*(2) ในกรุงมะนิลา ที่แม้จะตกแต่งสีสันสะดุดตาคล้ายรถตุ๊ก ๆ ในเมืองไทย)
เหตุผลแห่งความนิยม น่าจะเหมือนกับวัตถุประสงค์ของการสร้างรถรูปทรงนี้ขึ้นมาตั้งแต่ปี 1941 เพราะกองทัพอเมริกันต้องการสร้างรถอเนกประสงค์ (General Purpose Car) ขนาดเล็ก หนึ่งตันเศษ ที่มีสมรรถนะคล่องแคล่วในปฏิบัติการทุกภูมิประเทศ สามารถบรรทุกอาวุธเบา และพลประจำการ สองสามคน *(3) (1 1/4 reconnaissance and command vehicle) ปกติจะเปิดโล่งไม่มีหลังคา เพื่อความคล่องตัวในการใช้งาน และเป็นต้นแบบของรถขับเคลื่อนสี่ล้อ สำหรับทุกภูมิประเทศ (all-terrain *(4) WD vehicles) ที่ผลิตโดยหลายประเทศในยุคนี้
ตำนานว่าด้วยรถ "Jeep" มีอยู่สองสำนวนที่ล้วนมาจากอักษร G และ P ซึ่งหากอ่าน "จี" และ "พี" อย่างรวดเร็วจะออกเสียงกลายเป็น "จี๊ป" ไปเอง ตำนานสำนวนแรกกล่าวว่า G มาจากคำว่า Government(4) และ P เป็นรหัสของโรงงานผู้ผลิต ที่ใช้กับยานพาหนะลาดตระเวรขนาดเล็ก ที่มีช่วงกว้างของฐานล้อ 80 นิ้ว รถตันแบบพัฒนาขึ้น เพื่อการทหาร โดยหน่วยพลาธิการ กองทัพบกสหรัฐฯ (U.S. Army Quartermaster Corps) ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อส่งไปช่วยสหภาพโซเวียตและพันธมิตรชาติอื่น ๆ ในแนวรบยุโรป โดยมีโรงงานหลายแห่ง ที่ผลิตตามต้นแบบให้กองทัพอเมริกัน แต่รายแรกคือ American Motors Corporation (AMC) แห่งเมือง Southfield รัฐมิชิแกน โดยใช้ชื่อแรกเริ่มว่า "Willys-Overland" (วิลลี่ส-โอเวอร์แลนด์) และยังมีรถจี๊ป "วิลลี่ส์" สีเขียวขี้ม้าแล่นอยู่ในเมืองไทยมากมายในทุกวันนี้
อีกสำนวนหนึ่งซึ่งมีผู้รับรู้กว้างขวางมากกว่าสำนวนแรก กล่าวว่า GP ย่อมาจาก General Purpose (อเนกประสงค์) เนื่องจากยานพาหนะทางทหารขนาดเบาชนิดนี้ ได้ปฏิบัติภารกิจอย่างโชกโชน ตลอดสงครามโลกครั้งที่สอง ทั้งในสมรภูมิยุโรปและเกาหลี โดยได้ประกอบวีรกรรมไว้มากมาย จนเป็นตำนาน นอกจากจะใช้ลำเลียงยุทโธปกรณ์น้ำหนักเบาและใช้เป็นรถพยาบาลฉุกเฉินแล้ว ยังใช้ติดตั้งปืนต่อสู้อากาศยาน (ปตอ.) หนัก 800 ปอนด์ (360 กิโลกรัม), เป็นรถอุปกรณ์สื่อสาร, ยานแผ้วถางทาง และชักลากปืนใหญ่ต่อต้านรถถัง, ขนสัมภาระทำครัว และดัดแปลงตัวถังกันน้ำ กลายเป็นยานสะเทิ้นน้ำ-สะเทิ้นบกขนาดเล็ก (amphibious landing craft) ได้ด้วย
ปัจจุบันเหลือผู้ผลิต "Jeep" เพียงรายเดียวในโลกที่มีลิขสิทธิ์ในการใช้คำว่า "Jeep"
เป็นเครื่องหมายการค้า นั่นคือ แผนกรถจี๊ปเก๋งขับเคลื่อนสี่ล้อของ Chrysler Corporation
(Cherokee รุ่นต่าง ๆ) แต่ "jeep" ก็กลายเป็นคำสามัญไปแล้ว สำหรับผู้ผลิตยานพาหนะ ขับเคลื่อนสี่ล้อ หลายประเทศในปัจจุบัน ขณะที่คำอื่น ๆ ซึ่งย่อว่า "GP" อย่างแพร่หลายเช่นกัน*(5) กลับไม่มีใครเรียกว่าจี๊ป ทั้งนี้อาจเป็นเพราะความผูกพันรักใคร่ในรถทรงกลักไม้ขีดนี่เอง
หมายเหตุ
*(1). ผู้สร้างสรรค์ตัวการ์ตูน "Popeye the Sailor" ที่เริ่มปรากฏตัวในหนังสือพิมพ์เมื่อปี 1929
*(2). จากคำ jitney (รถโดยสารเล็ก) ผสมกับคำว่า jeep (เอารถจี๊ปมาวิ่งเป็นรถสองแถว รับส่งคนโดยสาร)
*(3). มรรยาททางทหารสำหรับรถจี๊ปคือ นายทหารจะนั่งข้างพลขับผิดกับรถเก๋งที่นายจะนั่งตอนหลัง
*(4). เหมือนคำว่า G.I. ที่มาจาก Government Issue (หมายเรียกเข้ารับการเกณฑ์ทหาร) และกลายเป็นคำเรียกทหารอเมริกันว่า จี.ไอ.
*(5). Geographical Position (พิกัดทางภูมิศาสตร์); General Practitioner (แพทย์รักษาโรคทั่วไป) ฯลฯ
จำนงค์ วัฒนเกส
main |