เรียน คุณวรพล สิงห์เขียวพงษ์ สุรศักดิ์/หลักสี่ |
ตอบ
ตลาดรถยนต์ซบเซาจริง แต่ไม่มีวันตายครับ และจะค่อย ๆ ฟื้นตัวช้า ๆ ถึงช้ามาก แต่ฟื้นแน่ ไม่ต้องกังวลมากครับ เพราะไม่มีประวัติว่าประเทศใด ๆ ในโลกนี้ ไม่มีการจำหน่าย รถยนต์ และในประเทศที่ระบบขนส่งมวลชนล้มเหลวอย่างเมืองไทย อย่างไรก็ตาม ผู้คนก็ต้องดิ้นรนหาซื้อรถยนต์เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง
ส่วนปัญหาเรื่องโช้กอัพที่ถามมาไล่ลำดับตอบได้ดังนี้ครับ
อายุการใช้งาน
แม้มีมาตรฐานของอายุการใช้งานโดยประมาณแต่ในการใช้งานจริงจะยืดหยุ่น มากน้อยตามคุณภาพของโช้กอัพ ลักษณะการขับและสภาพถนน เช่น ถ้าถนนแย่ ขรุขระมาก ก็หมดสภาพเร็วหน่อย
โดยเฉลี่ยอายุการใช้งานของโช้กอัพอยู่ที่ 50,000-100,000 กิโลเมตร ประสิทธิภาพของโช้กอัพจะลดลงเรื่อย ๆ ตามอายุการใช้งานที่ผ่านไป ส่วนจะลดลงเร็วหรือน้อยก็แตกต่างกันออกไป แต่ลดลง เรื่อย ๆ แน่นอน และผู้ขับก็ไม่ค่อยทราบเพราะความเคยชิน การเสื่อมสภาพของโช้กอัพ ไม่จำเป็นต้องแตกหรือรั่วเท่านั้นยังต้องตรวจสอบด้วยวิธีอื่นด้วย เช่น จอดรถยนต์นิ่ง ใช้น้ำหนักร่างกายกดขย่มลงบนเหนือตัวถังใกล้กับล้อของโช้กอัพตัวที่ต้องการตรวจสอบ (ระวังตัวถังบุบไว้ด้วย) เมื่อขย่มลงไปสัก 5 ครั้ง แล้วปล่อย ถ้าโช้กอัพยังดี ตัวรถยนต์ต้องขยับขึ้นลงอีก 1-3 ครั้ง แสดงว่าโช้กอัพยังควบคุมความยืดหยุ่นไว้ได้ แต่ถ้าตัวรถยนต์ยังขยับขึ้นลงมากกว่า 3 ครั้ง แสดงว่าโช้กอัพหมดความหนืด ไม่สามารถควบคุมความยืดหยุ่นไว้ได้
หากกดแทบไม่ลง หรือเมื่อปล่อยตัวออกมาแล้วตัวรถยนต์หยุดนิ่งในเกือบจะทันที หรือทันที แสดงว่าโช้กอัพตาย ไม่สามารถยืดยุบตัวได้ตามปกติ การทดสอบขณะรถยนต์จอดนิ่ง เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการทดสอบเท่านั้น ต้องประกอบกับการขับเคลื่อนจริงด้วย โดยให้พยายามจับอาการในการขับด้วยว่า มีอาการกระด้างมากขึ้น หรือยวบยวบมากขึ้นไหม แต่ก็ไม่ง่ายนัก เพราะอาจมีการเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนอื่น เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
การเสื่อมสภาพของโช้กอัพมักเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป จึงเกิดความคุ้นเคย จนจับอาการผิดปกติได้ยาก ถ้าไม่แน่ใจว่าโช้กอัพหมดอายุหรือยัง เมื่อใช้งานเกิน 80,000-100,000 กิโลเมตร (โดยทั่วไป 50,000 กิโลเมตร ก็เสื่อมสภาพลงมากแล้ว) หรือ 5 ปี ให้ตัดสินใจเปลี่ยนโช้กอัพไปเลย
เลือกเปลี่ยนอย่างไร
ก่อนอื่นต้องถามตัวเองก่อนว่าพึงพอใจกับประสิทธิภาพของโช้กอัพชุดเดิมไหม แข็งหรือนิ่มไปไหม
รถยนต์ส่วนใหญ่มักเลือกใช้โช้กอัพที่ไม่แข็งมากเป็นมาตรฐาน เพราะต้องการให้ในความเร็วต่ำ-ปานกลาง ซึ่งเป็นการใช้งานส่วนใหญ่ มีความนุ่มนวล ส่วนในช่วงความเร็วสูงที่ถูกใช้ไม่บ่อย และมีผู้ใช้เท้าหนักไม่มากนัก ถือเป็นเรื่องรองลงไป มักไม่ค่อยมีกรณีที่ผู้ใช้ไม่พึงพอใจโช้กอัพชุดเดิมว่าแข็งเกินไป เพราะมักเน้นความนุ่มนวลเป็นหลักอยู่แล้ว หากชอบความเร็ว มักจะต้องการโช้กอัพที่แข็งขึ้นมากบ้างน้อยบ้าง แต่ต้องยอมได้อย่างเสียอย่าง หนึบในช่วงความเร็วสูง แต่กระด้างบ้างในช่วงความเร็วต่ำ
อยากเปลี่ยนโช้กอัพเทียบเท่ามาตรฐานเดิม
มีหลายทางเลือก
เริ่มจาการหายี่ห้อของโช้กอัพซึ่งมักถูกปั๊มไว้บนตัวโช้กอัพเดิม การเทียบซื้อโช้กอัพใช้ ให้ตรงกับรุ่นและยี่ห้อเดิม มีราคาถูกกว่าในคุณภาพใกล้เคียงกัน แต่ก็ไม่แน่ว่า จะมีให้เลือกตรงรุ่นเดิมเป๊ะเสมอไป และขาดความสะดวกกว่าการเข้าศูนย์บริการ
นอกจากนี้ยังมีผู้ผลิตรายย่อยที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ผลิตโช้กอัพ คุณภาพหลากหลายออกมา ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความแข็ง-อ่อน ของโช้กอัพ ต่างจากมาตรฐานเดิม
อีกเหตุผลหนึ่ง ที่โช้กอัพเซียงกงสร้างความคุ้มค่าได้มาก สำหรับระบบช่วงล่าง แบบแม็คเฟอร์สันสตัทรที่นิยมใช้กัน เป็นเพราะโช้กอัพถูกร้อยด้วยสปริง และยางเบ้าโช้กอัพด้านบนมาพร้อมกัน ซื้อแค่ 1 แต่ได้ถึง 3
วรพล สิงห์เขียวพงษ์
main |