มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://geocities.datacellar.net/Tokyo/Harbor/2093/

[ คัดลอกโดยได้รับอนุญาต จากหนังสือนิตยสารใกล้หมอ ปีที่ 22 ฉบับที่ 8 สิงหาคม 2541]

ทำไมคนไทยจึงยังตายจากมะเร็งกันมาก

พญ.เยาวเรศ นาคแจ้ง


ปัจจุบันคนไทยอายุยืนขึ้นมากกว่าเดิม โดยเฉลี่ยผู้หญิงจะมีอายุยืนถึง 75 ปี ส่วนชายไทย อายุยืนน้อยกว่าหญิง คือเฉลี่ยประมาณ 70 ปี ทั้งนี้เพราะชายชอบใช้ชีวิตโลดโผน เช่น ชอบเดินทางไกล ชอบขับรถเร็ว ซิ่งมอเตอร์ไซค์ เที่ยวเตร่สถานเริงรมย์ และสำส่อนทางเพศ เป็นเหตุที่เสี่ยง ต่อการติดเชื้อ HIV ดื่มเหล้าทำให้ตับเสื่อมสมรรถภาพ สูบบุหรี่มาก ก่อให้เกิดมะเร็งปอด เป็นต้น เมื่อคนไทยอายุมากขึ้น และจะถึงแก่ความตายช้านั้น ทางการได้สรุปรวมไว้ว่า สาเหตุที่ทำให้คนไทย ถึงแก่ความตายบ่อยที่สุด 3 อย่างแรก เรียงตามลำดับคือ อุบัติเหตุรถยนต์ มะเร็ง และโรคหัวใจ

เรื่องอุบัติเหตุรถยนต์ นั้น ป้องกันได้ค่อนข้างแน่นอน โดยไม่ขับรถเร็ว ไม่ขับผิดกฎจราจร เหนื่อยต้องพัก เช่นต้องหยุดพักการขับรถทุก 11/2-2 ชั่วโมง ไม่เมาเหล้าขณะขับรถ ขี่มอเตอร์ไซค์ควรสวมหมวกกันน๊อค คาดเข็มขัดนิรภัยเสมอเมื่อขับรถยนต์ ส่วนมะเร็งนั้น มีหลายองค์ประกอบที่จะลดอัตราการตายลงได้บ้าง


มะเร็ง เป็นโรคที่พบมากในคนสูงอายุ เกิดจาการที่เซลล์ของร่างกายแบ่งตัวเร็วกว่าปกติ และอยู่นอกเหนือการควบคุม ทำให้ตรงนั้นมีเซลล์เพิ่มจำนวน จึงมองเห็นเป็นก้อน เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นมะเร็งที่ภายนอกร่างกาย เช่น ศีรษะ คอ นม แขน ขา เท้า เราก็จะมองเห็นได้ง่าย จึงรีบไปหาแพทย์รีบรักษาตั้งแต่ก้อนเล็ก ๆ โอกาสหายก็มีมาก จึงไม่ถึงแก่ความตาย

ส่วนมะเร็งที่ตับ ไต ลำไส้ ปอด หรือมดลูก นั้นเรามองไม่เห็น และคนไข้เองก็ไม่รู้ ว่าเป็นมะเร็ง จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปเป็นปีจึงปรากฏอาการ เช่น มะเร็งตับ จะแน่นท้อง มะเร็งปอด จะไอมากจนมีเลือดออก ถ้าคนไข้ไหวตัวทัน กับอาการที่ผิดปกติเหล่านี้ และไปพบแพทย์ ก็มีโอกาสรักษาเร็ว มีโอกาสหายขาดได้ แต่ถ้าเพิกเฉยไม่สนใจ กับอาการดังกล่าว ซึ่งคนไทยส่วนมากจะเป็นเช่นนี้ คือปล่อยให้มีอาการถึง 2-3 ปี นั่นก็คือมะเร็งก้อนโตมาก และเซลล์มะเร็งกระจายทั่วตัวแล้วถึงจะไปหาหมอ แต่หมอก็สุดจะเยียวยา จึงถึงแก่กรรมในที่สุด จึงเป็นสาเหตุหนึ่งของการตายจากโรคมะเร็ง

นอกจากนี้ การเป็นมะเร็ง เราไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง แม้วงการแพทย์ และนักวิทยาศาสตร์ จะค้นคว้ามาโดยตลอด ก็ทราบแต่เพียงสาเหตุกระตุ้นให้เกิดมะเร็ง เริ่มตั้งแต่ พันธุกรรม ยีนส์ก่อมะเร็ง สารก่อมะเร็ง ประเภทอาหารปิ้งจนไหม้เกรียม อาหารหมักดอง การสูบบุหรี่จัด การดื่มสุราจัด ความต้านทานของร่างกายเสียไป ในคนที่เป็น HIV ภาวะเครียดจัดติดต่อกัน เป็นเวลานาน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เข้าใจว่าทำให้เกิดมะเร็งได้ เมื่อไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง ของการเกิดมะเร็ง สงสัยแต่สาเหตุกระตุ้น ทำให้การป้องกันและรักษา เป็นไปได้ด้วยความลำบาก

การรักษามะเร็ง เริ่มด้วยการตัดก้อนมะเร็งออกไปให้หมด เป็นการทำลายให้สิ้นซาก แต่จริง ๆ แล้วไม่ง่าย เพราะคนไข้มาหา เมื่อเซลล์มะเร็งจะกระจายไปตาม ตับ ไต ไส้พุง แล้วดังนั้นเมื่อตัดออกแล้ว แพทย์ยังต้องให้ยาซึ่งเรียกรวมว่า เคมีบำบัด เพื่อหยุดยั้ง ไม่ให้เซลล์มะเร็งแบ่งตัว หรือยาฆ่าเซลล์มะเร็งได้ยิ่งดี แต่เคมีบำบัดนั้นก็มีผลข้างเคียงมาก เช่น ทำให้อ่อนเพลีย คลื่นไส้ เบื่ออาหาร เม็ดเลือดต่ำ ภูมิต้านทานต่ำจนติดเชื้อไวรัสต่าง ๆ จนอาจถึงตายได้ แพทย์จึงต้องให้เคมีบำบัดอย่างระวัง ให้มากไม่ได้ ผลก็คือเซลล์มะเร็งตายไม่หมด และกระจายต่อไปอีก ทำให้คนไข้ตายในที่สุด

วิธีป้องกันมะเร็งนั้น ทำได้ยาก แต่ควรปฏิบัติตนดังนี้

  1. หลีกเลี่ยงสารก่อมะเร็ง ได้แก่
    • ไม่รับประทานอาหารปิ้งไหม้เกรียม ของหมักดอง ซึ่งจะมีสาร nitrosamine เป็นสารก่อมะเร็ง
    • งดสูบบุหรี่ เพราะมีนิโคตินซึ่งก่อมะเร็งปอด
    • งดการดื่มสุรา เพราะทำให้เกิดอาการตับแข็ง จนถึงมะเร็งตับ
    • หลีกเลี่ยงการสูดดมผง Asbestos ซึ่งเกิดในโรงงานอุตสาหกรรม โดยการสวมหน้ากากขณะทำงาน
    • หลีกเลี่ยงการสูดดมกลิ่นยาฆ่าแมลง DDT โดยผลิตภัณฑ์อื่นทดแทน
    • ไม่รับประทานถั่วทุกชนิดที่เก่าเก็บ เพราะมีสาร aflatoxin ก่อมะเร็งได้
    • แต่ต้องรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์ antioxidant เพื่อป้องกันการเกิดมะเร็ง และทำให้อายุยืน ได้แก่ ผัก ผลไม้ วิตามินซี วิตามินอี และเบต้าแคโรทีนมาก สิ่งเหล่านี้มีในส้ม มะละกอสุก มะเขื่อเทศ แครอท แตงกวา ดอกกะหล่ำปลี
  2. เมื่ออายุเกิน 40 ปีขึ้นไป ควรตรวจเช็กร่างกายอย่างน้อยปีละครั้ง โดยเฉพาะหญิง ต้องเช็กมะเร็งปากมดลูก ทุก 6 เดือน ตรวจเต้านม โดยการ X-ray ทุก 1-2 ปี ทั้งชายและหญิงควร X-ray ปอด ตรวจเลือดเพื่อดูสมรรถภาพ ตับ ไต ตรวจหัวใจด้วยเครื่องไฟฟ้า ปีละครั้ง และถ้าแพทย์สงสัย จะตรวจต่อระบบอื่น ๆ ให้เอง
ถ้าทำตามนี้ได้แม้เป็นมะเร็ง แพทย์ก็จะพบเสียแต่เนิ่น ๆ ทำให้การรักษาได้อย่างรวดเร็ว เช่นอาจจะตัดออกได้หมดก่อนที่มะเร็งกระจายไปที่อื่น โอกาสรอดชีวิตก็มีมาก

อาจพอสรุปได้ว่า ที่สถิติการเป็นมะเร็ง แล้วเสียชีวิตยังมีมากนัก เพราะเราขาดความรู้ ทั้งสองข้อ ประกอบกับการใช้ยาฆ่าเซลล์ที่ได้ผล มักมีผลข้างเคียงกับร่างกายคนมากมาย จึงได้ยาขนาดต่ำ ทำให้เซลล์มะเร็งไม่ตาย ที่สำคัญคือ คนไทยอายุยืนมากขึ้น แม้เป็นโรคอื่น ๆ ก็รักษาด้วยยาได้ จึงทำให้รอดชีวิตจนมีอายุมากพอที่จะเกิดมะเร็ง และถึงแก่กรรมในที่สุด

พญ.เยาวเรศ นาคแจ้ง


[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600
1