พญ.เยาวเรศ นาคแจ้ง
ปัจจุบันคนไทยอายุยืนขึ้นมากกว่าเดิม โดยเฉลี่ยผู้หญิงจะมีอายุยืนถึง 75 ปี ส่วนชายไทย อายุยืนน้อยกว่าหญิง คือเฉลี่ยประมาณ 70 ปี ทั้งนี้เพราะชายชอบใช้ชีวิตโลดโผน เช่น ชอบเดินทางไกล ชอบขับรถเร็ว ซิ่งมอเตอร์ไซค์ เที่ยวเตร่สถานเริงรมย์ และสำส่อนทางเพศ เป็นเหตุที่เสี่ยง ต่อการติดเชื้อ HIV ดื่มเหล้าทำให้ตับเสื่อมสมรรถภาพ สูบบุหรี่มาก ก่อให้เกิดมะเร็งปอด เป็นต้น เมื่อคนไทยอายุมากขึ้น และจะถึงแก่ความตายช้านั้น ทางการได้สรุปรวมไว้ว่า สาเหตุที่ทำให้คนไทย ถึงแก่ความตายบ่อยที่สุด 3 อย่างแรก เรียงตามลำดับคือ อุบัติเหตุรถยนต์ มะเร็ง และโรคหัวใจ
เรื่องอุบัติเหตุรถยนต์ นั้น ป้องกันได้ค่อนข้างแน่นอน โดยไม่ขับรถเร็ว ไม่ขับผิดกฎจราจร เหนื่อยต้องพัก เช่นต้องหยุดพักการขับรถทุก 11/2-2 ชั่วโมง ไม่เมาเหล้าขณะขับรถ ขี่มอเตอร์ไซค์ควรสวมหมวกกันน๊อค คาดเข็มขัดนิรภัยเสมอเมื่อขับรถยนต์ ส่วนมะเร็งนั้น มีหลายองค์ประกอบที่จะลดอัตราการตายลงได้บ้าง
มะเร็ง เป็นโรคที่พบมากในคนสูงอายุ เกิดจาการที่เซลล์ของร่างกายแบ่งตัวเร็วกว่าปกติ และอยู่นอกเหนือการควบคุม ทำให้ตรงนั้นมีเซลล์เพิ่มจำนวน จึงมองเห็นเป็นก้อน เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นมะเร็งที่ภายนอกร่างกาย เช่น ศีรษะ คอ นม แขน ขา เท้า เราก็จะมองเห็นได้ง่าย จึงรีบไปหาแพทย์รีบรักษาตั้งแต่ก้อนเล็ก ๆ โอกาสหายก็มีมาก จึงไม่ถึงแก่ความตาย
ส่วนมะเร็งที่ตับ ไต ลำไส้ ปอด หรือมดลูก นั้นเรามองไม่เห็น และคนไข้เองก็ไม่รู้ ว่าเป็นมะเร็ง จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปเป็นปีจึงปรากฏอาการ เช่น มะเร็งตับ จะแน่นท้อง มะเร็งปอด จะไอมากจนมีเลือดออก ถ้าคนไข้ไหวตัวทัน กับอาการที่ผิดปกติเหล่านี้ และไปพบแพทย์ ก็มีโอกาสรักษาเร็ว มีโอกาสหายขาดได้ แต่ถ้าเพิกเฉยไม่สนใจ กับอาการดังกล่าว ซึ่งคนไทยส่วนมากจะเป็นเช่นนี้ คือปล่อยให้มีอาการถึง 2-3 ปี นั่นก็คือมะเร็งก้อนโตมาก และเซลล์มะเร็งกระจายทั่วตัวแล้วถึงจะไปหาหมอ แต่หมอก็สุดจะเยียวยา จึงถึงแก่กรรมในที่สุด จึงเป็นสาเหตุหนึ่งของการตายจากโรคมะเร็ง
นอกจากนี้ การเป็นมะเร็ง เราไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง แม้วงการแพทย์ และนักวิทยาศาสตร์ จะค้นคว้ามาโดยตลอด ก็ทราบแต่เพียงสาเหตุกระตุ้นให้เกิดมะเร็ง เริ่มตั้งแต่ พันธุกรรม ยีนส์ก่อมะเร็ง สารก่อมะเร็ง ประเภทอาหารปิ้งจนไหม้เกรียม อาหารหมักดอง การสูบบุหรี่จัด การดื่มสุราจัด ความต้านทานของร่างกายเสียไป ในคนที่เป็น HIV ภาวะเครียดจัดติดต่อกัน เป็นเวลานาน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เข้าใจว่าทำให้เกิดมะเร็งได้ เมื่อไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง ของการเกิดมะเร็ง สงสัยแต่สาเหตุกระตุ้น ทำให้การป้องกันและรักษา เป็นไปได้ด้วยความลำบาก
การรักษามะเร็ง เริ่มด้วยการตัดก้อนมะเร็งออกไปให้หมด เป็นการทำลายให้สิ้นซาก แต่จริง ๆ แล้วไม่ง่าย เพราะคนไข้มาหา เมื่อเซลล์มะเร็งจะกระจายไปตาม ตับ ไต ไส้พุง แล้วดังนั้นเมื่อตัดออกแล้ว แพทย์ยังต้องให้ยาซึ่งเรียกรวมว่า เคมีบำบัด เพื่อหยุดยั้ง ไม่ให้เซลล์มะเร็งแบ่งตัว หรือยาฆ่าเซลล์มะเร็งได้ยิ่งดี แต่เคมีบำบัดนั้นก็มีผลข้างเคียงมาก เช่น ทำให้อ่อนเพลีย คลื่นไส้ เบื่ออาหาร เม็ดเลือดต่ำ ภูมิต้านทานต่ำจนติดเชื้อไวรัสต่าง ๆ จนอาจถึงตายได้ แพทย์จึงต้องให้เคมีบำบัดอย่างระวัง ให้มากไม่ได้ ผลก็คือเซลล์มะเร็งตายไม่หมด และกระจายต่อไปอีก ทำให้คนไข้ตายในที่สุด
วิธีป้องกันมะเร็งนั้น ทำได้ยาก แต่ควรปฏิบัติตนดังนี้
|
อาจพอสรุปได้ว่า ที่สถิติการเป็นมะเร็ง แล้วเสียชีวิตยังมีมากนัก เพราะเราขาดความรู้ ทั้งสองข้อ ประกอบกับการใช้ยาฆ่าเซลล์ที่ได้ผล มักมีผลข้างเคียงกับร่างกายคนมากมาย จึงได้ยาขนาดต่ำ ทำให้เซลล์มะเร็งไม่ตาย ที่สำคัญคือ คนไทยอายุยืนมากขึ้น แม้เป็นโรคอื่น ๆ ก็รักษาด้วยยาได้ จึงทำให้รอดชีวิตจนมีอายุมากพอที่จะเกิดมะเร็ง และถึงแก่กรรมในที่สุด
พญ.เยาวเรศ นาคแจ้ง
main |