พ.ญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา
ในวัยแรกเกิดถึง 1 ปี ซึ่งเรียกว่าวัยทารกนั้น เป็นช่วงวัยที่มีความสำคัญ ต่อการวางรากฐาน พัฒนาการ ในด้านจิตใ จและสังคมที่ดี ให้แก่เด็ก ธรรมชาติของเด็กในช่วงวัยนี้ ต้องการ การเลี้ยงดู อย่างอบอุ่น ใกล้ชิด ต้องการให้พ่อแม่โอบอุ้ม โอบกอด และตอบสนอง ความต้องการ ของเด็กอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่เด็กจะสามารถ สร้างความมั่นใจว่าตนเอง จะได้รับความรัก และความช่วยเหลือ เมื่อต้องการ การให้ความรัก และการตอบสนอง ความต้องการของทารกนี้ เป็นการกระทำอย่างธรรมดาที่สุด ของแม่ทุกคน ที่ผ่านการเลี้ยงลูก ด้วยนมแม่
เมื่อทารกแรกเกิดหิวจะร้องไห้ เพื่อสื่อสารให้พ่อแม่รับรู้ เมื่อแม่ได้ยินเสียงลูกร้องไห้ ก็จะรีบวิ่งมาดูลูก อุ้มลูก ขึ้นมากอดกระชับแนบอก ให้ลูกดูดนม ลูกจะหยุดร้องทันที เมื่อดูดนมไปสักพัก ก็จะสบายกาย หายหิว ลูกจะเริ่มมองหน้าแม่ แม่ก็จะยิ้มพยักพเยิด สบตา หรือส่งเสียงคุยกับลูก ลูกก็เริ่มจะจำหน้าแม่ได้ ต่อไปก็จะเริ่มพัฒนาความรู้สึก และเรียนรู้ว่า เมื่อหิว หรือแม้ไม่สบายตัว เช่น ตัวเปียก ถ้าร้องไห้ ก็จะมีใครคนหนึ่ง ที่มีความนุ่มนวล มีอ้อมกอดกระชับ มาอุ้มโอบกอด ปลอบใจ ให้หายกลัว ให้กินอาหารจนอิ่ม ช่วยทำความสะอาด ที่เปียกชื้น จนสบาย ลูกก็จะเริ่มรู้สึกว่า ตัวเองมีคนรักใคร่ ห่วงใย มีที่พึ่ง ฉะนั้นเมื่อลูกร้องไห้ แม่จึงควรรีบมาดูในช่วงแรก ๆ ต่อไปเมื่อลูกได้ยินเสียงแม่ ก็จะหยุดรอคอย ด้วยความหวังว่า แม่จะมาหา การที่แม่ไม่ปล่อยให้ลูกรอนานเกินไป มาหาลูกอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เด็กมีความ เชื่อมั่น ในความรัก และความช่วยเหลือของแม่ เกิดความรักความผูกพันต่อแม่ และสามารถ สร้างความรัก ความผูกพันกับพ่อ และคนอื่น ๆ ในครอบครัวต่อไป
แม่บางคนคิดว่าถ้ารีบมาอุ้มทุกครั้งที่ลูกร้อง จะทำให้ลูกเอาแต่ใจตัว ถือเป็นความเชื่อที่ผิดมาก พ่อแม่ ไม่สามารถทำให้ลูกเสียนิสัย จาการอุ้มได้เลย เพราะการร้องไห้ของเด็ก ถือเป็นการ สื่อสารอย่างเดียว ในวัยแรกเกิด ที่เด็กจะบอกความต้องการ ให้แม่รู้ว่ าหนูหิว หนูเปียก หนูเปื้อน หรือหนูตกใจกลัว อยากให้แม่กอดหน่อย เพื่อจะได้อุ่นใจและอุ่นกาย
ในวัยทารกนี้ การพูดคุยกับลูก และเลียนเสียงที่ลูกเปล่งออกมา จะช่วยให้ลูกเข้าใจ และเรียนรู้ ได้ดีขึ้น ช่วงปลายขวบที่ 1 ควรหัดให้ลูกเชื่อฟัง โดยการห้าม ในสิ่งที่จะเป็นอันตราย และควรชมเชยเมื่อลูกทำตามคำสั่งได้ เด็กจะเรียนรู้ว่าสิ่งใดผิดสิ่งใดถูก สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ลูก มีการพัฒนา ในด้านจิตใจและสังคมที่ดีก็คือ การตอบสนองความต้องการอย่างสม่ำเสมอ คงเส้นคงวา สิ่งนี้ จะทำให้ลูก มีความมั่นใจในความรักของแม่ เกิดความรักความผูกพัน กับแม่ก่อน และเกิดความรัก ความผูกพันกับพ่อ และสมาชิกในครอบครัวตามมา เป็นพื้นฐาน ที่ดีในการสร้างความสัมพันธ์ ระหว่าบุคคล ของลูกต่อไปในอนาคต และจะช่วยให้ลูกมีความ มั่นใจที่จะสำรวจ และเรียนรู้สิ่งแวดล้อม ในวัยหัดเดินต่อไป
ในวัยทารกและวัยหัดเดินนี้ นอกจากการส่งเสริมการพัฒนาด้านต่าง ๆ ดังกล่าวแล้ว สิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกได้เรียนรู้ก็คือ การเล่นของเล่น และกิจกรรมระหว่างพ่อ-แม่-ลูก ไม่ว่าจะเป็นการเล่น หรือกิจกรรมประจำวัน เช่น การอาบน้ำ แต่งตัว ฯลฯ นอกจากนี้ การเจริญเติบโต และการพัฒนาของเด็กในช่วงนี้ ยังขึ้นอยู่กับอาหารที่ถูกต้องตามวัย การป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุ การรักษาสุขภาพอนามัยและความสะอาดส่วนบุคคล สิ่งของ เครื่องใช้ ที่อยู่อาศัย และสภาวะแวดล้อมให้ถูกต้องเหมาะสม รวมทั้งการป้องกันโรค โดยการฉีดวัคซีนตามวัย
อาหารในวัยทารกตั้งแต่ช่วงแรกเกิดไปจนถึงวัย 4 เดือน ควรเป็นนมแม่อย่างเดียว ต่อจากนั้น ค่อยหัดให้ลูกกินอาหารเสริมวันละครั้ง เมื่อลูกอายุ 8 เดือน ให้อาหารเสริมเป็น 2 มื้อ เพื่อให้ลูกได้หยิบอาหารเอง สนใจอาหาร และฝึกหัดการช่วยเหลือตนเอง เมื่อลูกอายุ 10 เดือน ให้อาหารเสริม เพิ่มเป็น 3 มื้อ โดยมีนมแม่เป็นอาหารสำคัญ การให้อาหารเสริม เป็นการหัด ให้ลูกกินอาหาร ที่ไม่ใช่น้ำ และหัดกินอาหาร จากช้อน จึงไม่ควรเอาอาหารเสริมใส่ขวด ให้ลูกดูด เมื่อลูกอายุ 8- 9 เดือน ควรหัดให้ลูก ดื่มน้ำ และอาหารเหลว (เครื่องดื่ม) จากถ้วย รวมทั้งหัดดื่มนมจากถ้วยแก้ว ลูกที่ดูดนมแม่ ไม่ต้องหัดให้ดูดนมขวด เพราะจะต้องมาเสียเวลา หัดเลิกดูดนมจากขวดอีก
นอกจากการเลี้ยงดูดังกล่าวแล้ว การดูแลให้เด็กในช่วงปฐมวัยนี้ ได้นอนหลับอย่างเพียงพอ ก็มีความสำคัญยิ่ง ทารกแรกเกิด จะนอนวันละ 16-1 8 ชั่วโมง โดยให้หลับและตื่น เป็นระยะๆ เพื่อดูดนม ทั้งในช่วงกลางวัน และกลางคืน เมื่ออายุได้ 3 เดือน เด็กจะนอนวันละประมาณ 15 ชั่วโมง และเมื่อเด็กมีอายุ ได้ 6- 12 เดือนจะนอนวันละ 13- 14 ชั่วโมง ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยจะนอนกลางวันน้อยลง อาจจะนอน ในช่วงเช้า และช่วงบ่าย มีเวลาตื่นกลางวันมากขึ้น ส่วนเวลากลางคืน ก็จะหลับได้นานขึ้น จวบจนเมื่อเด็ก อายุ 6 เดือนขึ้นไป เด็กส่วนมาก จะเลิกตื่น มาดูดนมช่วงกลางดึกแล้ว จะดูดนมก่อนนอน และหลับได้รวดเดียวถึงเช้า
การเลี้ยงดูลูกในช่วงปฐมวัยโดยการให้ความรัก ความอบอุ่น และให้ได้รับกับสิ่งที่เหมาะสม กับวัย จะช่วย ให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีจิตใจ ที่พร้อมจะให้ความรัก ความผูกพัน แก่คนในครอบครัว รวมทั้ง สร้างสัมพันธภาพที่ดี แก่บุคคลรอบข้าง ช่วยให้คนในสังคม มีความเอื้ออาทรต่อกัน และอยู่ร่วมกัน อย่างสงบสุขในสังคม
พ.ญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา
สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
main |