คนสมถะ
พรอันประเสริฐที่พระเจ้ามอบให้คู่สมรสคือ การมีพยานรัก
หลังจากทั้งสองฝ่ายคือ ทั้งสามีและภรรยาพยายามออกแรงรักกัน
จนเหงื่อตก... สาบานได้ว่า ไม่ได้จะเขียนสัปดน
แต่สัปดาห์นี้ขอพูดถึงหัวอกคนมีลูกแล้ว ยังต้องมาเผชิญกับปัญหา
ท้าทายกระเป๋าดีกว่า นัยว่าหยิบเรื่องนี้มาเขียนแล้วเจ็บใจดี
เพราะภาวะเศรษฐกิจซึ่งยังต้วมเตี้ยม มันอำนวยให้การมีลูก
กลายเป็นภาระทางการเงินอย่างใหญ่หลวง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ไหนจะค่านม ค่าขนม และค่าเล่าเรียน ยังไม่นับแป๊ะเจี๊ยะ, ค่ารักษาพยาบาล (ซึ่งเด็กทารกมักไม่สบายบ่อยมาก) และรายจ่ายอะไรต่อมิอะไรอีกจิปาถะ
ดังนั้น ผู้ประสงค์จะเป็นพ่อคนแม่คน จึงควรวางแผนทางการเงิน
รองรับอภิชาตบุตรเสียแต่เนิ่นๆ
จะว่าไป การมีลูกก็เป็นเรื่องธรรมชาติ เหมือนการมีคู่ครอง
และครอบครัว ต่อให้การมีลูกหมายถึงเงินที่ต้องไหลออกไป
จากกระเป๋าแค่ไหน หากมีแล้วก็ควรเลี้ยงดูเขาอย่างสุดชีวิต อย่างน้อยก็จะได้เกิดความภาคภูมิขึ้นมาหน่อยว่า
ได้สร้างสมาชิกน้อยๆ ที่ดีให้กับสังคม
การเลี้ยงเด็กจึงไม่เหมือนการเลี้ยง (ลูก) บอล
จะได้เอาเท้าเขี่ยให้ไปตรงไหนก็ไป แต่ควรรู้จักทะนุถนอม
และมีจิตวิทยาในการเข้าหา ตลอดจนเอาใจใส่ด้วย
ใน The 4 Worst Ways to Motivate หรือ
4 วิธีเลวร้าย ซึ่งพ่อแม่ไม่ควรนำมาใช้เลี้ยงลูก
เพราะนอกจากจะเป็นการทำร้ายจิตใจกันมากกว่าจะแสดงออกว่า
รักแล้ว ยังอาจไปเบียดเบียนทำให้เด็กท้อถอยอีกต่างหาก
นิตยสาร Red Book ยังเตือนว่า ในบางกรณี
การอาศัยหลักรักวัวให้ผูกและรักลูกให้ตีแม้ยังใช้ได้อยู่ แต่ผู้ปกครองก็ควรปรับกรรมวิธีให้ทันยุคทันสมัยบ้าง เช่น
1. อย่าใช้วิธีบังคับหรือทำโทษ อย่าใช้วิธีสั่งให้พร่ำเพรื่อ
ยิ่งพูดทำนองว่า แม่ไม่สนหรอกว่าลูกจะชอบว่ายน้ำหรือไม่
แต่แม่จ่ายเงินไปแล้ว ลูกจึงต้องไป บังคับแบบนี้
แทนที่จะทำตามกลับต่อต้านไปเลย
2. ช่างเปรียบเทียบ ไม่ว่าจะเอาลูกเราไปเปรียบกับลูกคนอื่น หรือแม้แต่เปรียบกับบรรดาพี่น้องท้องเดียวกับลูกของเราเอง
ล้วนเป็นสิ่งไม่น่าฟังทั้งสิ้น
3. ห้ามเด็กเล่นเกมคอมพิวเตอร์
ซึ่งเป็นเหตุผลที่ห่วยมาก ควรมองกลับกันว่า
การให้เด็กใกล้ชิดกับเครื่องคอมฯ
น่าจะเป็นการกระตุ้นปัญญาอย่างหนึ่ง
4. วิพากษ์วิจารณ์เด็กในทางลบตลอดเวลา
ช่างช่วยบั่นทอนกำลังใจให้แก่กันดีแท้
อันที่จริงสิ่งที่เล่าให้ฟังสี่ข้อนี้ จะนำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตคู่ยังได้ เหตุนี้ต้องขอลาไปหาคู่ซ้อมก่อนล่ะ ขืนชักช้าเค้าไม่อยากซ้อมเราล่ะแย่เลย
|