โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง
เงียบไปเลยครับ เป็นเวลาเกือบเดือนไม่มีการติดต่อจากท่านผู้อ่านหรือเพื่อน ๆ ใด ๆ ทั้งสิ้น ผมก็นึกว่าความฝันของผมคงเป็นหมันไปแล้ว แต่แล้วจู่ ๆ การติดต่อสอบถามก็เกิดขึ้น เหมือนทำนบพัง จดหมายและโทรศัพท์ติดต่อมามากมายจนผมตกใจ
ความคิดที่พรั่งพรูมาสู่ผมในตอนนี้ ก็คือว่า เป็นการตั้งต้นที่ดี และนี่เป็นลางดี ที่จะต้องช่วยกันสร้างแนวร่วม สร้างกลุ่มที่สนใจในเรื่องสุขภาพในแนวธรรมชาติให้ได้ ขอถือโอกาอธิบายสักนิดนะครับว่า เราตั้งใจทำอะไร
เรื่องแรก ก็คือ เรื่องของอาหารซึ่งมีข้าวเป็นตัวสำคัญ และข้าวนั้นจะต้องเป็นข้าวซ้อมมือ และที่ดีที่สุดข้าวซ้อมมือ ถ้าได้ข้าวซึ่งปลอดสารพิษ ก็จะเป็นกุศลสูงสุดสำหรับคนไทย ซึ่งบริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก
แต่ข้าวปลอดสารพิษนั้น ต้องอาศัยชาวนาซึ่งจะต้องร่วมใจกันเพาะปลูกข้าวแบบธรรมชาติ ใช้ปุ๋ยธรรมชาติ และใช้ยาฆ่าแมลงแบบธรรมชาติ คือ ไม่ใช่ยาเคมี
เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งค่อนข้างจะอยู่เหนืออำนาจของพวกเราซึ่งเป็นผู้บริโภคข้าว จะต้องอาศัยโครงการใหญ่ในเรื่องการปลูกพืชปลอดสารพิษ เป็นเรื่องนโยบายจากรัฐบาล เรื่องของกระทรวง เรื่องของพ่อค้าปุ๋ย และเรื่องของชาวนา
เราผู้บริโภคจะต้องรอการปฏิบัติของรัฐบาล และหน่วยราชการ ซึ่งเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เพราฉะนั้น สิ่งที่พวกเราผู้บริโภคจะทำอะไรได้สำหรับตัวเองขณะนี้ ก็คือ ช่วยกันสีข้าวสำหรับพวกเราเองก่อน
ที่เราช่วยกันคิดว่าจะร่วมกันอย่างไรนั้นมีดังนี้
1. เราจะร่วมกลุ่มกันในด้าน การใช้ชีวิตให้เป็นไปตามธรรมชาติ โดยใช้เรื่องข้าวซ้อมมือ เป็นตัวนำ ที่จะใช้ข้าวเป็นตัวนำนี้ ก็เพราะชีวิตความเป็นอยู่สมัยปู่ยาตายายของเรานั้น ขึ้นอยู่กับข้าวมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เราปลูกข้าวกินเอง ตำข้าวกินเอง เราเรียกข้าวว่า แม่โพสพ และก็ถือว่าข้าวเป็นแม่ เราเป็นลูกของแม่คนเดียวกันหมด เราเป็นพี่เป็นน้องท้องเดียวกันหมด
ชีวิตอย่างนั้นไม่มีแล้ว ในขณะนี้เราจึงต้องรวมตัวกันช่วยกันนำชีวิตสมัยปู่ย่าตายายของเรา กลับมาอีก เมื่อรวมตัวกันด้วยข้าวแล้ว วิถีชีวิตแบบต่าง ๆ ของเรา ชีวิตที่เรียบง่าย มีความพอดีก็จะกลับมาอีกไม่ยาก 2. เราจะเริ่มต้นโดยแบ่งออกเป็นชมรมสีข้าวเล็ก ๆ เสียก่อน รวมตัวกัน โดยแบ่งออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 10 ครอบครัว แต่ละกลุ่มจะต้องมีครอบครัวหนึ่ง เป็นแกนกลางสีข้าว แล้วแจกให้ครอบครัวสมาชิกอื่น ๆ อีก 9 ครอบครัว ไม่ใช่เป็นการหากำไร แต่เป็นการช่วยเหลือกัน และเฉลี่ยรายจ่ายให้เท่าเทียมกัน
วิธีสีข้าวแบบเฉลี่ยค่าใช้จ่ายกันนี้ ผมได้ความคิดมาจากท่านอาจารย์สุธรรม เจ้าอาวาสวัดป่าหนองไผ่ จังหวัดสกลนคร ท่านเจ้าอาวาสได้ให้ผมดูเครื่องสีข้าวเล็ก ๆ ราคาประมาณ หมื่นกว่าบาท ถ้าในครอบครัวมีคนประมาณ 20 คน ก็จะใช้เครื่องสีข้าวกินกันเองเพียงอาทิตย์ละ 2-3 ชั่วโมง ก็จะได้ข้าวพอกินกันแล้ว
และยังได้ข้าวซ้อมมืออย่างดีกินกันในราคาถูกด้วย คือ ราคาต้นทุนทั้งหมดประมาณกิโลละ 10 บาท เท่านั้นเอง ในขณะที่ราคาข้าวซ้อมมือในตลาดขายกันถึงกิโลละ 27 บาท (ขูดเลือดกันชัด ๆ เป็นไปได้อย่างไร ที่ราคาข้าวซ้อมมือแพงกว่าข้าวขาวถึงเท่าตัว)
สิ่งที่พวกเราชาวชีวจิตกำลังทำอยู่เดี๋ยวนี้ก็คือ ได้ไปเสาะหาเครื่องสีข้าวขนาดเล็ก (เล็กมากจนขนาดที่สะพายบ่าขึ้นมอเตอร์ไซค์มาส่งได้) ได้เครื่องสีข้าวหลายยี่ห้อแล้ว ขณะนี้กำลังเปรียบเทียบราคา และคุณภาพกันอยู่ เราจะพยายามเลือกเครื่องที่ดีที่สุด ถูกที่สุด และทนที่สุด
ราคาเท่าที่สอบถามมาอยู่ในราคาเครื่องละประมาณ 13,000-15,000 บาท ซึ่งอยู่ในระดับที่กลุ่ม หรือชมรมจะเฉลี่ยกันออกได้อย่างสบาย ๆ คือ ประมาณครอบครัวละพันกว่าบาท คิดว่าคงจะไม่มีใครเดือดร้อนในเรื่องนี้
อีกอย่างหนึ่งซึ่งเรากำลังทำอยู่ก็คือ ไปหาแหล่งข้าวเปลือก และเราพยายามที่สุดที่ จะทำให้ข้าวเปลือกปลอดสารพิษ และเป็นข้าวเปลือกหอมมะลิเสียด้วย ราคาตกประมาณกิโลละ 7-8 บาท เท่านั้นเอง
ขณะนี้ทำได้แล้ว ข้าวเปลือกหอมมะลิปลอดสารพิษ แต่ปัญหาก็คือ ข้าวผลิตได้น้อยเหลือเกิน ไม่พอแจกจ่ายสำหรับสมาชิกทุกคน เพราะฉะนั้น จะต้องเสาะหาชาวนา ที่จะปลูกข้าวเปลือกหอมมะลิปลอดสารพิษ เพิ่มขึ้นอีก
ในขณะนี้ผมก็จะรวบรวมครอบครัวสมาชิกชมรมสีข้าวต่อไป เพราะฉะนั้น ผมขอความกรุณาให้ท่านส่งรายชื่อของท่านมาให้ผม โดยระบุว่า ท่านสนใจที่จะเป็น แกนกลางในชมรมสีข้าว หรือท่านเพียงแต่ต้องการเป็นสมาชิกร่วมในชมรมเท่านั้น
ถ้าท่านสนใจที่จะเป็นแกนกลาง ท่านจะต้องลองคุยกับเพื่อน ๆ ในที่ทำงาน หรือเพื่อน ๆ ในหมู่บ้านของท่านดู รวบรวมเพื่อนของท่านให้ได้สักสิบคน หรือสิบครอบครัว โดยมีข้อตกลงว่า ทุกคนจะต้องร่วมมือช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการสีข้าวซ้อมมือ โดยมีตัวท่านเองเป็น แกนกลางในการสีข้าวซ้อมมือนี้ และทุกคนจะช่วยกัน เฉลี่ยค่าใช้จ่ายในกลุ่มของพวกคุณเอง
รับรองว่าถ้าทำได้ตามนี้ คุณจะได้กินข้าวซ้อมมือราคาถูก ข้าวสะอาด และเป็นประโยชน์ ครบถ้วนทุกประการ
สำหรับตัวผมเองและกลุ่มชีวจิต จะเป็นตัวกลางช่วยประสานในการหาเครื่องสีข้าว และหาข้าวเปลือกซ้อมมือในราคาถูก ให้แก่ท่านและจะเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำ ในการที่แต่ละชมรมอาจจะมีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น
และก็ขอเรียนอีกครั้งหนึ่งนะครับว่า เราทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้มาหากิน หาเงินหาทองในเรื่องนี้ เราต้องการแต่เพียงเห็นชมรมที่ทำประโยชน์เพื่อสมาชิกเกิดขึ้น และอยากเห็นกลุ่มคนไทยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่เล็กเพียงใดก็ตาม ได้มีวิถีชีวจิตที่ถูกต้อง และเป็นไปตามธรรมชาติเท่านั้น
หวังว่าพวกปากหอยปากปู และพวกมือถือสากปากถือศีล จะไม่เอาเรื่องของผม และชีวิจิตไปบิดเบือน กล่าวร้ายป้ายขวัญกันอีกต่อไป
สำหรับท่านที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นแกนกลาง หรือเป็นสมาชิกเฉย ๆ กรุณาส่งจดหมายไปที่ผม ตามที่อยู่ดังนี้
หรือถ้าจะให้สะดวก หรือเร็วกว่านี้ ก็กรุณาส่งเป็นแฟกซ์ก็ได้ครับ เบอร์แฟกซ์ (02) 570-8237
สำหรับท่านที่จดหมาย หรือโทรศัพท์มาแล้ว ขอความกรุณาติดต่อมาซ้ำอีกครั้งได้ไหมครับ หลายท่านไม่ได้ให้ที่อยู่มา และหลายท่านให้เบอร์โทรศัพท์มาแล้ว แต่ติดต่อกลับไม่ได้ ขอความกรุณาติดต่อมาอีกครั้งครับ
main |