โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง
เรื่องสีข้าวกินเองกำลังฮิตจริงๆ ครับ มีผู้สนใจถามไถ่มากมาย และที่ผมทราบมาอีกก็คือว่า หลวงพ่อ หรือท่านอาจารย์สุธรรม ท่านเจ้าอาวาสวัดป่าหนองไผ่ ท่านกำลังเดือดร้อน ท่านผู้สนใจไปถามท่านเป็นการใหญ่ รวมทั้งขอให้ท่านสีข้าวให้ดูด้วย ระวังนะครับ ถ้าเครื่องสีข้าวของท่านพังไป บาปกรรมนะครับ และบาปก็จะมาตกที่ผมด้วย เพราะฉะนั้นอย่าไปกวนท่านนัก
สำหรับที่เราจะตั้งกลุ่มของเราขึ้นนั้น ผมขอเวลาอีก 3 อาทิตย์ เมื่อได้จดหมายมาครบแล้ว ได้เครื่องสีข้าว และข้าวเปลือกเรียบร้อย ผมจะเชิญท่านมารวมกัน สีข้าวให้ดู ปรึกษาหารือกันว่า เราจะรวมกลุ่มกันอย่างไร และช่วยเหลือกันเองอย่างไร
เจอะกันอีก 3 อาทิตย์นะครับ
อาทิตย์นี้ขอพูดเรื่องเก่าอีกครั้ง คือเรื่องการทำดีท็อกซ์ จดหมายท่านผู้อ่านอีกหลายท่าน รวมทั้งคำถามเวลาที่ผมไปพูดที่ไหน มักจะถามเป็นเสียงเดียวกันว่า "จะทำดีท็อกซ์ได้ไหม" "ต้องทำนานเท่าไร"
คำถามนี้จะถามกันซ้ำๆ จนกระทั่งผมจับความสำคัญได้ว่า หลายคนเข้าใจในเรื่องชีวจิตผิดๆ เพราะเขาเข้าใจว่า ชีวจิตคือการดีท็อกซ์เท่านั้น บางคนไปไกลถึงกับว่า ดีท็อกซ์รักษามะเร็งได้ ด้วยซ้ำ
ขอตอบและย้ำเป็นข้อแรกเลยนะครับ เราไม่แนะนำให้คุณทำดีท็อกซ์ และดีท็อกซ์ไม่ใช่การรักษามะเร็ง
คุณควรจะทำดีท็อกซ์หรือไม่ คำตอบไม่ได้อยู่ที่เพราะคุณป่วย หรือเพราะคุณเป็นมะเร็ง แต่คำตอบจะขึ้นอยู่ที่ว่า คุณมีท็อกซิน (TOXIN) อยู่ในตัวมากหรือไม่
ท็อกซิน ก็คือพิษ แต่ไม่ใช่ยาพิษ พิษที่เกิดจากปฏิกิริยาทางเคมีในร่างกายของคุณเอง คุณกินอะไรผิดๆ (ส่วนมากก็จะเป็นอาหารดีๆ อร่อยๆ แต่ไม่มีประโยชน์) ก็จะเกิดท็อกซินขึ้นในตัวคุณ คุณอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ผิดๆ มีมลพิษมาก ท็อกซินก็สะสมอยู่ในตัวคุณ คุณกินยาหลายต่อหลายขนานเป็นประจำ ผลข้างเคียงจากยาเหล่านั้น ก็จะกลายเป็นพิษอยู่ในตัวคุณ
จะเห็นว่าท็อกซิน หรือพิษเกิดขึ้นได้ทุกขณะ และมันก็จะทำให้คุณรู้สึกไม่สบาย จะปวด จะเมื่อย จะเดินจะเหินมันหนืดๆ ไปหมดสิ้น
ลองดูสภาพนอกกายของคุณ ดูตามีรอยแดงช้ำ อักเสบ แสบจมูกแสบคอ ดูในปากในคอแดง-ร้อน ลิ้นสีแดงช้ำๆ ดูตามเนื้อตามตัวมันอืดมันหนัก ปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัว
อย่างนี้คุณอาจจะมีท็อกซินในตัวมาก ถ้าอย่างนี้ อาจจะลองทำดีท็อกซ์ดู
ผมใช้คำว่าลองนะครับ การทำดีท็อกซ์ ก็คือการสวนท้องธรรมดาๆ ถ้าคุณหรือใครสักคนในครอบครัวคุณท้องผูก ก็คงเคยไปซื้อยาสวนมาสวนกันเองอยู่แล้ว หรือบางคนก็อาจจะใช้กระเป๋าสวน หรือหม้อสวนใส่น้ำอุ่น หรือน้ำสบู่อ่อนๆ สวนท้องมาแล้วก็เป็นได้
การทำดีท็อกซ์ก็เหมือนกัน เป็นแต่เพียงว่า แทนที่คุณจะใช้น้ำอุ่น หรือน้ำสบู่ คุณก็ใช้ น้ำกาแฟ หรือน้ำมะนาว หรือน้ำส้มมะขามต้มสวนแทนเท่านั้นเอง
สูตรน้ำกาแฟ เป็นสูตรของนายแพทย์แม็กซ์ เกอร์ลิน จากสหรัฐอเมริกา ใช้น้ำกาแฟ 2 ช้อนโต๊ะ ต้มกับน้ำครึ่งลิตรให้เดือด แล้วกรองผงกาแฟออก ผสมกับน้ำเย็นพออุ่นประมาณ อุณหภูมิเท่ากับร่างกาย อุ่นน้อยๆ อย่าให้ร้อนเป็นอันขาด ใช้น้ำทั้งหมดประมาณ 1,000 ซีซี ถึง 1,300 ซีซี แล้วแต่ขนาดของร่างกายของคุณ ถ้าเป็นผู้หญิงควรเริ่มด้วย 1,000 ซีซี ก่อน (หนึ่งพันซีซี ก็คือน้ำหนึ่งลิตรนั่นเอง) ผู้ชายก็เริ่ม 1,200 ซีซี หรือ 1,300 ซีซี แล้วแต่ขนาดของร่างกาย
ผู้ที่ผ่าตัดไส้ติ่ง หรือผ่าตัดลำไส้ใหญ่ มาแล้วไม่ควรทำดีท็อกซ์
ถ้าคุณไม่ชอบกาแฟ จะใช้น้ำมะนาว ก็ใช้มะนาวประมาณ 4 ลูก บีบน้ำผสมกับน้ำอุ่น
ถ้าใช้ส้มมะขาม ก็ใช้ส้มมะขามหนึ่งกำมือต้มกับนํ้าจนเดือด กรองเนื้อมะขามออก ผสมนํ้าให้อุ่นพอดี
เวลาจะสวนให้นอนตะแคงขวา ปลายท่อสายยางที่จะใส่ทวารหนัก ต้องทาวาสลิน ให้ลื่นมากๆ ใส่สายยางเข้าไป แล้วปล่อยนํ้าช้าๆ เมื่อหมดถุงแล้ว นอนนวดท้องประมาณ 5 นาที แล้วจึงไปถ่าย
ขอให้ลองทำดูเพียงครั้งเดียวนะครับ แล้วสังเกตดูว่าคุณรู้สึกดีหรือเปล่า
รู้สึกดีก็คือว่าคุณรู้สึกเบาเนื้อเบาตัว ตามีแวว ปากคอหายร้อน ถ้าอย่างนี้ ก็แสดงว่าดี คุณอาจจะลองทำต่อไปอีกได้
แต่ถ้าไม่ดี ทำแล้วก็ยังงั้นๆ ไม่มีผลอะไรเลย หรือบางคนอาจจะมีอาการอึดอัดเพิ่มขึ้นด้วย ถ้าอย่างนี้ก็เลิกทำต่อไปได้เลย ดีท็อกซ์ไม่เหมาะกับคุณแน่ๆ
ที่ต้องบอกอย่างนี้ก็เพราะว่า มีบางท่านได้ร้องเรียนมาว่า ทำแล้วไม่สบาย บางท่านบอกว่า ทำแล้วมีเลือดหยดออกมา ผมก็ตกใจ ถามไปว่าใครเป็นคนบอกให้คุณทำดีท็อกซ์ เขาก็บอกว่า เขาลองทำเองไม่มีใครบอก
ถ้าอย่างนั้นก็ต้องมีอะไรผิดพลาด เพราะการสวนท้อง ก็เหมือนการสวนท้องธรรมดา ไม่มีข้อยุ่งยากพลิกแพลงลึกซึ้งอะไร จะมีก็แต่เฉพาะข้อกล่าวหาของแพทย์บางคน ที่กล่าวหาบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างสกปรกที่สุดว่า การทำดีท็อกซ์ ทำให้ลำไส้ และกระเพาะ ทะลุ คุณไปเอาหลักฐานที่ไหนมายกเมฆไม่ทราบครับ คุณหมอ ไม่ละอายวิชาชีพ ของตัวเองบ้างหรือไง
สำหรับท่านที่มีปัญหานั้น ผมคิดว่าคงมีอะไรผิดพลาด ก็คือ คุณไม่ได้ทาวาสลิน หรือนํ้ามันหล่อลื่นที่ปลายสายยาง หรือคุณอาจจะเป็นริดสีดวงทวารหนัก บางท่านบอกว่าท่านไม่เคยเป็นริดสีดวง แต่ริดสีดวงมีหลายแบบนะครับ บางแบบยื่นออกมาข้างนอกมองเห็นได้ หรือเอามือคลำได้ บางแบบอยู่ข้างใน คุณมองไม่เห็น หรือถ้าไม่มีอะไรไปกระทบก็ไม่มีอาการ ถ้ามีเลือดออกมาอย่างนั้น ผมว่าเป็นโอกาสดีที่คุณควรจะไปหาหมอตรวจดูให้ละเอียดแล้วล่ะครับ
แต่อย่างไรก็ตาม อย่าทำดีท็อกซ์ต่อไปเป็นอันขาด เลิกได้แล้วครับ
สำหรับคุณที่ทำครั้งแรกแล้วรู้สึกดี ก็ควรจะทำต่อไป แต่ควรจะทำเป็นโปรแกรมครับ โปรแกรมนั้น ก็คือ การจัดระบบต่างๆ ของร่างกายให้ดีขึ้น
อย่าลืมนะครับ ผมขอยํ้าอีกครั้งหนึ่งว่า ทำดีท็อกซ์ไม่ใช่เพื่อรักษามะเร็ง แต่เพื่อล้างท็อกซิน และไม่ใช่ว่าใครนึกอยากจะทำก็ทำได้ คุณต้องรู้เสียก่อนว่า คุณอยากจะทำเพื่ออะไร และหากจะทำแล้ว ก็ต้องลองดูเสียก่อนว่า ทำครั้งแรกเหมาะกับคุณหรือไม่
และสำหรับบางคน หรือบางร้านขายของ ที่เขียนใบปลิวชักชวน ให้คนทำดีท็อกซ์ ว่ารักษาโรคนั้นได้โรคนี้ได้อย่าไปเชื่อนะครับ เดี๋ยวนี้คนที่แอบอ้างไปหากินมีมากเหลือเกิน และที่ถึงขั้นไปหลอกลวงลูกค้า ว่าเป็นร้านชีวจิต หรือเป็นตัวแทนของผมนั้น ระวังด้วยนะครับ ใครก็ตามเห็นประกาศชักชวน หรืออวดอ้างเช่นว่านี้ ขอให้หลีกเลี่ยง เลิกเข้าร้าน หรืออุดหนุนร้านนั้นโดยเด็ดขาด ผมไม่เคยเขียน หรือประกาศชักชวนใครให้กินให้ใช้ หรือให้ดีท็อกซ์ทั้งสิ้น ไม่เคยขายของ ขายสินค้าใดๆ ทั้งสิ้น ใครที่เอาชื่อผมไปหากิน คนนั้นหลอกลวง อย่าไปอุดหนุนเป็นอันขาด.
main |