มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://geocities.datacellar.net/Tokyo/Harbor/2093/

[ จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันอาทิตย์ เริ่ม อาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2541 ]

ปั้นชีวิตใหม่ด้วยชีวจิต

โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง


17 กระบวนการการกินข้าวซ้อมมือ

รื่องชมรมกินข้าวซ้อมมือของเราลงตัวแล้วนะครับ มีผู้สนใจที่จะเป็นแกนกลางหลายร้อยคน ผมได้ทดลองเครื่องสีข้าวหลายยี่ห้อ มีข้อมูลเรียบร้อย ได้ติดต่อเรื่องข้าวเปลือกราคาถูก มีผู้ที่อยู่ในวงการข้าวในกรุงเทพฯพร้อมที่จะช่วยเหลือ ขอย้ำว่าช่วยเหลือจริงๆนะครับ คิดว่าเป็นโครงการที่น่าชื่นใจมาก เพราะเป็นการทำงานเพื่อความร่วมมือร่วมใจกัน พร้อมที่จะช่วยเหลือกันเอง

ตกลงเราจะพบกันวันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม 2542 เวลา 08.00 นาฬิกา ที่ห้องประชุมอาคาร 6 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข นนทบุรี นะครับ (ห้องประชุมอาคาร 6 อยู่ใกล้กับกรมสุขภาพจิต)

ท่านที่ติดต่อส่งชื่อมาแล้ว เราได้จดหมายและโทรศัพท์นัดวันเวลา และบอกแผนที่สถานที่ ที่เราจะพบกัน เรียบร้อยแล้ว ท่านอื่นๆ ที่ยังสนใจอยู่ จะแจ้งชื่อมาอีกก็ได้นะครับ เราจะได้รีบติดต่อไปให้ทันเวลา

ขอเรียนย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า นี่เป็นโครงการร่วมมือร่วมใจของพวกเรากันเองนะครับ ไม่ใช่เป็นการค้าขาย ไม่ใช่เป็นการเอากำไรจากใครทั้งสิ้น วิธีการที่เราจะทำกันโดยคร่าวๆมีดังนี้ครับ

1. เราจะแบ่งกลุ่มของเราออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 10 ครอบครัว หรือกลุ่มละประมาณ 20-30 คน เราจะมีคนหนึ่งเป็นคนกลาง สีข้าวกินเอง แบ่งให้สมาชิก 20-30 คน อย่างทั่วถึงกันทุกคน

2. ผู้ประสานงานคือกลุ่มชมรมและมูลนิธิชีวจิต ได้สำรวจและทดลองเครื่องสีข้าวชนิดต่างๆ แล้ว มีข้อมูลละเอียดที่จะแนะนำกลุ่มชมรมสีข้าวว่า ใช้เครื่องสีข้าวชนิดใดจึงจะเหมาะสม กับความต้องการของกลุ่ม เราจะเป็นผู้ประสานงานเพื่อช่วยเหลือ กลุ่มชมรมสีข้าวของเรา ด้วยความบริสุทธิ์ใจ เราไม่ใช่คนขายเครื่องสีข้าว หรือไม่ได้เป็นตัวแทนผู้ขายเครื่องสีข้าว แต่ประการใดนะครับ

3. การนำข้าวเปลือกมาให้สมาชิก เพื่อสีข้าวของตัวเองนั้น เป็นเรื่องใหญ่และยุ่งยากอย่างยิ่ง ข้าวเปลือกจากแหล่งผลิต ในอีสานราคา กก.ละ 6-7.50 บาท จะนำข้าวเข้ากรุงเทพฯก็ต้องเสียค่าขนส่ง ซึ่งแพงมาก เมื่อคิดค่าใช้จ่ายของค่าขนส่ง และของพ่อค้าคนกลางแล้ว ราคาจึงสูงถึง กก.ละ 17-18 บาท

ผมเพิ่งจะเข้าใจถึงเรื่องราคาสินค้าที่สูงมาก เดี๋ยวนี้เองครับ (โง่มาเสียนาน)

แต่บัดนี้เราแก้ปัญหาได้แล้วครับ เรามีพ่อค้าข้าวซึ่งจะร่วมมือกับเรา ที่จะมอบข้าวให้ถึงเรา เรามีเพื่อนสมาชิกซึ่งจะช่วยเราขนข้าว และวิธีที่เราจะขนข้าวนั้น ทำกันน่ารักมากครับ คือสมาชิกแต่ละคนที่มีรถ ก็จะขนข้าวใส่หลังรถ มาคนละ 1-2 กระสอบ แล้วเอามาแจกเพื่อนสมาชิก ต่อไป

และนี่เองแหละครับ คือหัวใจของการทำงานแบบชีวจิต เราต้องการความร่วมมือร่วมใจ เห็นใจและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

รู้สึกไหมครับว่า เดี๋ยวนี้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยเปลี่ยนไปมาก เพื่อนบ้านไม่รู้จักกัน ทุกคนต่างคนต่างอยู่ ชีวิตคนไทยค่อนข้างจะอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว ตัวใครตัวมัน

ตอนนี้เราจะรู้จักกันโดยเริ่มต้นด้วยข้าวซ้อมมือ ผมดีใจอยู่อย่างหนึ่งว่า เมื่อเราแนะนำเรื่อง ข้าวซ้อมมือ เมื่อ 13-14 ปีก่อนนั้น ไม่มีใครสนใจ แต่เมื่อเรายังคงแนะนำและพูดอยู่เรื่อยๆ ตลอดเวลา คนก็สนใจ และมีข้าวซ้อมมือกินกันมากขึ้น จนกระทั่งในหลวงท่านรับสั่งว่า ท่านก็เสวยข้าวซ้อมมือด้วย คนก็ยิ่งสนใจข้าวซ้อมมือกันทั่วประเทศ

แต่ข้าวซ้อมมือก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับคนบางคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนจน เพราะข้าวซ้อมมือ ยังราคาสูงอยู่ และสูงอย่างชนิดเกินความจริงเสียด้วย

ผมจึงได้ตกลงใจว่า เราจะต้องทำเรื่องข้าวซ้อมมือให้เป็นเรื่องของคนไทย และเป็นเรื่องของชีวจิตความเป็นอยู่ ของคนไทยด้วยให้ได้

นั่นก็คือให้คนไทยทุกคนมีข้าวซ้อมมือมากิน ทำข้าวซ้อมมือกันเอง และข้อสำคัญให้ชาวนาของเรา มีข้าวซ้อมมือกินของตัวเองด้วย

เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อนะครับว่า ชาวนาที่ปลูกข้าว แต่ไม่มีข้าวซ้อมมือกินกัน ต้องกินข้าวขาว

มีชาวนาหลายท่านจากต่างจังหวัด จ.ม.มาบอกผมว่า ปลูกข้าวกินเอง แต่ทำข้าวซ้อมมือไม่ได้ เพราะเมื่อมีข้าวเปลือกแล้วก็ต้องไปจ้างโรงสีข้าว โรงสีก็จะไม่ยอมทำข้าวซ้อมมือให้ เพราะโรงสีไม่คิดค่าสีข้าว แต่จะสีข้าวเป็นข้าวขาว แล้วก็จะเอารำและแกลบ จากข้าวของชาวนานั่นแหละคิดเป็นค่าสีข้าว แล้วเขาก็เอารำเอาแกลบไปขาย ได้กำไรดีกว่าค่าสีข้าวโดยตรงด้วยซ้ำ

ชาวนาก็เลยไม่มีข้าวซ้อมมือกิน

เอาล่ะครับ ตอนนี้เรื่องการจัดการเรื่องข้าวซ้อมมือสำหรับพวกเรากันเอง กำลังได้เรื่องได้ราวแล้ว หน้ากระดาษที่เหลือนี้ ผมจะพูดถึงเรื่องวิธีกินข้าวซ้อมมือต่อสักนิด

หลายท่านที่ จ.ม.มาพูดถึงการกินข้าวซ้อมมือว่ากินไม่อร่อย ก็เลยขอถือโอกาสอธิบายสักนิดๆ หน่อยๆ เกี่ยวกับการกินข้าวซ้อมมือให้อร่อยและให้ได้ประโยชน์ด้วย

เคล็ดลับข้อแรก ก็คือก่อนจะหุงข้าวซ้อมมือ ขอให้แช่น้ำเสียก่อนสักชั่วโมงหรือสองชั่วโมง แล้วจึงเอาไปหุงข้าว และควรหุงแบบไม่เช็ดน้ำ

หรือว่าถ้าหากจะให้ข้าวนุ่มมากๆ จะแช่ไว้ค้างคืนก็ได้นะครับ แต่เวลาที่เอาไปหุง ต้องระวังหน่อย อย่าให้น้ำมากนัก เพราะข้าวจะแฉะ เวลาที่คุณแช่ข้าวไว้ค้างคืนนั้น ข้าวเม็ดจะบานมากแล้ว เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรใส่น้ำมาก เพียงน้ำพ้นข้าวประมาณครึ่งนิ้วก็พอแล้ว ภาษาไทยเก่าๆ ของเราว่าแค่องคุลีเดียว

ถ้าแช่น้ำไว้นานๆ รับรองครับว่าข้าวจะนุ่มและหอม แม้ว่าไม่ใช่ข้าวหอมมะลิ ข้าวเมื่อหุงแล้ว ก็จะหอมเหมือนกัน เพราะเคลือบข้าวซ้อมมือนั้น มีทั้งแร่ธาตุและวิตามิน เมื่อแช่น้ำไว้ก็จะพองตัวภายในเมื่อเวลาถูกความร้อน ตัวแป้งภายในจะพองตัวก่อน กลายเป็นตัวซึมซับวิตามิน และแร่ธาตุจากเคลือบข้างนอก มีกลิ่นหอมนวลๆ หวานๆ ดีครับ แต่ถ้าเป็นข้าวหอมมะลิก็ยิ่งแน่นอนว่า หอมตลบ อบอวลไปหมดทั้งบ้านเลย

เคล็ดลับข้อที่สอง ก็คือการเคี้ยว อยากจะขอแนะนำว่าให้เคี้ยวข้าวให้ละเอียด เคี้ยวช้าๆ อย่างน้อยขอให้ได้ 20-30 ครั้ง จะรู้สึกว่ายิ่งเคี้ยวยิ่งมัน และสักพักหนึ่งจะรู้สึกหวานในปาก

ที่รู้สึกหวานก็เพราะข้าวเมื่อเคี้ยวละเอียดช้าๆ นั้น ข้าวซึ่งคลุกเคล้ากับน้ำลาย ก็จะเปลี่ยนแป้งจากข้าวให้เป็นกลูโคส

น้ำลายนั้นเป็นตัวเร่งหรือตัวแปรที่เราเรียกว่า เอนไซม์ (ENZYME) ชื่อว่า PTYALIN เอนไซม์ตัวนี้เปลี่ยนแป้งให้เป็นน้ำตาลกลูโคสได้ครับ

เพราะฉะนั้น ข้าวซ้อมมือตอนแรกเคี้ยวจึงมัน พอเคี้ยวต่อไปก็หวาน ข้าวซ้อมมืออร่อยเพราะทั้งมันทั้งหวาน และยิ่งแช่น้ำนานๆ อย่างผมว่าแล้ว ก็ทั้งหอมและนุ่มและมันหวานอย่างนี้แหละ

คุณๆที่ไม่เคยกินข้าวซ้อมมือมาก่อน พอกินครั้งแรกเพียง 2-3 วัน โปรดสังเกตด้วยนะครับว่า คุณจะถ่ายคล่องสบายดี เพราะข้าวซ้อมมือจะมีกาก ช่วยให้การขับถ่ายเป็นไปได้ตามธรรมชาติ

ยิ่งถ้าคุณกินอาหารแบบชีวจิต คือเป็นข้าวปริมาณ 50% และเป็นผัก 25% โปรตีน 15% และเบ็ดเตล็ด 10% ด้วยแล้ว รับรองว่า การถ่ายของคุณจะเป็นไปอย่างสบายโล่ง โถงฟ้าโปร่งกันทีเดียวเลยล่ะครับ และอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อึดอัดในท้อง หายใจไม่ค่อยออกก็จะหายไปด้วย.

สาทิส อินทรกำแหง


[กลับไปสารบัญชีวจิต]   [BACK TO LISTS - FOODS]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด
มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ i.am/thaidoc ][ hey.to/yimyam ]


มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600
1