โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง
ลองสำรวจดูตัวคุณเองด้วยวิธีง่ายๆ (ต้องตอบด้วยความซื่อสัตย์และจริงใจด้วยนะครับ ถ้าคุณเข้าข้างตัวคุณเอง ยกตัวเอง ก็อย่าอ่านบทความต่อไปนี้เลย เสียเวลาเปล่า)
ถ้าคุณอายุ 20-60 (ว่ากันที่จริงก็อยากจะหมายรวมถึง คนไทยเกือบทั้งประเทศเลยนั่นแหละ)
1. คุณวิ่งสองกิโลได้ไหม และถ้าวิ่งได้คุณหอบแทบตายหรือเปล่า
2. คุณตื่นเช้าอย่างน้อย 05.00 น. ได้ไหม ถ้าตื่นได้ คุณตื่นเองหรือคุณใช้นาฬิกาปลุก หรือถ้าตื่นได้แล้ว คุณรู้สึกสดชื่นมีเรี่ยวมีแรงหรือเปล่า
3. ตลอดทั้งวันนี้ คุณทำงาน คุณง่วงเหงาหาวนอนบ้างหรือเปล่า คุณรู้สึกเพลียบ้างไหม รู้สึกเหมือนกับจะน็อกตัวเองบ้างไหม
4. อาหารการกินของคุณเป็นอย่างไร คุณทำอาหารกินเองหรือเปล่า ถ้าคุณซื้อกิน คุณใช้ชีวิตแบบนักบริหาร รีบเร่งหรือเปล่า อย่างเช่น ตอนเช้า กาแฟกับปาท่องโก๋ กลางวันเลี้ยงโต๊ะ+เหล้าเบียร์ ตอนเย็นอาหารใหญ่+เหล้าเบียร์+เที่ยวต่อ (ถึงว่าตอนนี้ IMF คุณทำไม่ได้ แต่ก่อนหน้านั้น คุณทำอย่างนี้หรือเปล่า)
5. คุณนอนหลับสนิทดีหรือไม่
6. คุณเบื่อทุกสิ่งทุกอย่าง หรือเบื่อชีวิตเส็งเคร็งทุกวันนี้หรือไม่
7. คุณหงุดหงิดและโกรธเกลียดอะไรง่ายๆหรือไม่
8. ความจำของคุณดีอยู่หรือ สมองมันซึมกะทือเบลอๆบ้างหรือเปล่า
9. ระยะ 6 เดือนที่แล้ว น้ำหนักคุณลดหรือขึ้นรวดเร็วหรือเปล่า (3 กก.ขึ้นไป)
10. มหาเศรษฐีทำเงินหล่นแสนบาท คุณเก็บได้จะเอาไปคืนเขาหรือไม่
คำถามเหล่านี้ไม่ใช่คำถามซึ่งตรงตามวิชาการนัก แต่เป็นการรวบรวมจากการสังเกตของผู้ป่วย และผู้ซึ่งสุขภาพไม่สมบูรณ์ในระยะเวลาเกือบ 15 ปี ที่ผมได้สัมผัสกับท่านเหล่านี้
เพื่อนของผมบางคนเป็นตัวอย่างอันดีนี้ น่าศึกษาทั้งในด้านสุขภาพทั่วไป และโรคภัยไข้เจ็บร้ายแรงท่านเป็นนายแพทย์ใหญ่ เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชน ท่านจบจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ซึ่งถือกันว่าเป็นยอดมหาวิทยาลัยหนึ่งในสี่ของอเมริกา ท่านมีฐานะร่ำรวยเป็นเศรษฐี มีภรรยาซึ่งเป็นแพทย์ด้วยกัน
ท่านป่วยเป็นมะเร็งที่ไตต้องตัดไตทิ้งข้างหนึ่ง แต่มะเร็งก็ไม่ยอมหยุดกระจายไปที่ไตอีกข้าง และไปที่ตับด้วย ใครๆก็เชื่อว่าท่านจะหาย เพราะท่านใช้ความสามารถของท่านเอง ร่วมกันกับเพื่อนแพทย์ผู้ใหญ่หลายคน แต่ผลสุดท้ายก็ไม่สำเร็จ
ท่านเจ็บมากขึ้นทุกที จนรู้สึกว่าจะไปไม่ไหวแล้ว ท่านจึงมาปรึกษากับผม เมื่อเราคุยกันแล้ว เราพบว่าปัญหาสำคัญที่สุด คือเรื่องความเครียด เครียดเรื่องเงินทอง เครียดเรื่องงาน ซึ่งหนักมาก ในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชน เงินทองของหุ้นส่วน ที่เอามาลง ในโรงพยาบาลนั้น มากมายมหาศาล ทำอย่างไรจึงจะไม่ขาดทุน จะสร้างโรงพยาบาล ให้ได้รับความสำเร็จ มีเงินมีทองพอเลี้ยงตัวได้นั้น เป็นเรื่องใหญ่มาก แต่นั่นก็ยังไม่พอ เรื่องเครียดของท่าน กลับมาหนักที่เรื่องครอบครัวอีก ภรรยาของท่าน เข้ากันกับครอบครัว พี่น้องของท่านไม่ดีนัก เมื่อปัญหาเรื่องเศรษฐกิจทางการงาน ทำท่าจะไม่ดี ภรรยาของท่าน ก็มาเคี่ยวเข็ญกับเพื่อนผมคนนี้ ให้จัดการเรื่องเงิน เรื่องมรดกเป็นสัดเป็นส่วน นั่นทำให้ เพื่อนผม เครียดถึงขีดสุด อาการป่วย ซึ่งเริ่มเป็นมานานแล้ว ออกมาเป็นผลิตผลชัดเจน ตอนนี้เอง นั่นคือ มะเร็ง
เมื่อท่านตกลงที่จะใช้วิธีบำบัดแบบชีวจิต ผมก็พาท่านเข้าป่าก็เพื่อจะตัดปัญหารบกวน เกี่ยวกับความเครียดทั้งมวล แล้วเราก็บำรุงท่านแทบจะทุกวิธีด้วยวิธีธรรมชาติ และท่านก็ดีขึ้น ดีขึ้นมากแทบจะทุกอย่าง รู้ว่าดีก็เพราะเราตรวจเลือดอีก ผลของเลือดครั้งหลัง ดีกว่าเก่าแทบทุกอย่าง
แต่แล้วท่านก็ต้องกลับไปรับเคมีบำบัดอีก และคราวนี้ ภรรยาของท่านไม่ยอมให้ท่าน กลับมาติดต่อกับชีวจิตอีกเลย และสุดท้ายท่านก็จากไป จากไปด้วยความเจ็บใจ และเสียใจ อย่างที่สุด ของผมและเพื่อนผมคนนี้
ถ้าคำถาม 10 คำถามข้างต้นกับเพื่อนคนนี้ คำตอบก็ออกมาเป็นผลลบหมด เรื่องเรี่ยวแรง เขาอ่อนเพลียมาตลอดเวลา อย่าว่าวิ่งแค่วิ่ง 2 กม.เลย วิ่ง 100 เมตร ก็ยังแทบไม่ไหว และก็หลับไม่เป็นเวลา กินก็ไม่ได้กินเป็นเวลา กินอาหารอย่างขยะ หงุดหงิด และเครียด อยู่ตลอดเวลา อาการทางลบเหล่านี้ เป็นมาหลายปี แล้วจนถึงจุดอิ่มตัว นั่นคือ มะเร็ง
สำหรับคุณผู้อ่านวันนี้ ลองตอบคำถาม 10 ข้อนี้ดู ถ้าออกมาในทางลบ ลองดูอาการของคุณ เหนื่อยเพลียโดยไม่รู้สาเหตุ กินไม่ถูกต้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อตลอดเวลา นอนไม่หลับสนิท เป็นโรคแพ้ (ไอ หอบ หืด ผิวหนังผื่นคัน ลมพิษ) เครียด เบื่อทุกอย่าง เครียดอะไร ต่ออะไรง่ายๆ
ถ้าเป็นอย่างนี้ เรามาเปลี่ยนชีวิตของเราให้มันดีขึ้นสักนิด น่าอภิรมย์สักหน่อย จะดีไหมครับ
เราทำตัวของเราให้เป็นคนใหม่ได้ ด้วยวิธีง่ายๆ
เริ่มด้วยการกินเสียก่อน กินให้ถูก
กินให้ถูกอย่างไร รอฉบับหน้าครับ.
main |