มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://geocities.datacellar.net/Tokyo/Harbor/2093/

[ จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันอาทิตย์ เริ่ม อาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2541 ]

ปั้นชีวิตใหม่ด้วยชีวจิต

โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง


26 FASJAMM (9) คุณธรรมแห่งชีวิต

ราวนี้ก็มาถึงตัวสุดท้ายของ Fasjamm แล้วนะครับ คือ M=Morality ซึ่งหมายถึง คุณธรรม ศีลธรรม ความถูกต้อง

เรามี M สองตัวนะครับ M ตัวแรกคือเรื่องของความจำ และสมอง ซึ่งเราได้พูดถึงเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว

อาทิตย์นี้ M ตัวสุดท้าย คือ คุณธรรมนี้ จะเป็นตัวสรุป ตั้งแต่เราพูดกันถึง Fasjamm ตั้งแต่ต้นจนมาถึงบัดนี้ เป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้ว จะเห็นว่า 6 ตัวแรก F-A-S-J-A-M นั้น พูดถึงเรื่องของร่างกายเกือบทั้งหมด

มาถึง M ตัวสุดท้ายนี้นั่นแหละ จึงพูดกันถึงคุณธรรม ซึ่งออกจะเป็นสิ่งซึ่งจับต้องไม่ได้ มองไม่เห็นตัวตน

แต่ผมเห็นว่า M ตัวสุดท้าย ซึ่งหมายถึงคุณธรรมนี้แหละ จะเป็นตัวกำกับ ซึ่งทำให้เรา เป็นคนเต็มคนขึ้นมาได้

คงจะเคยเห็นตัวอย่าง มามากมายนะครับ ที่หลายๆ คนเอาใจใส่ดูแลร่างกายตัวเองดีอย่างเหลือเกิน รูปร่างหน้าตาของเขาดูดี สวยงามสมบูรณ์ไปหมดทุกอย่าง

แต่เมื่อดูความประพฤติ และนิสัยใจคอของเขา เราก็อาจจะประหลาดใจว่า
"เอ๊ะ เขาเป็นคนขึ้นมาได้อย่างไรนะ"

M ตัวสุดท้ายนี้จึงเป็นเครื่องบ่งชี้ หรือตัดสินได้ว่า เขาเป็นคนเต็มคนหรือไม่

คุณธรรมในที่นี้เป็นเครื่องชี้ ให้เห็นระหว่างความถูก ความผิด เป็นเครื่องตัดสินได้ว่า เราเป็นคนดี หรือคนชั่ว เป็นเครื่องซึ่งจะบอกได้ว่าคนนั้นเป็นคนใจงาม หรือใจร้าย

เรามีกรอบศีลธรรม เป็นเครื่องวัด เรามีศีล จะเป็นศีลขั้นต้นศาสนา เช่น ศีล 5 เป็นกรอบพื้นฐาน แล้วเรายังมีศีล 8 ศีล 10 และศีล 227 ซึ่งละเอียดอ่อน ชี้ให้เห็นได้ชัดว่า จิตใจของคนนั้นสูงส่งเพียงไร กับความเป็นคน (ถ้าปฏิบัติตามศีลนั้นๆ ได้)

นอกจากนั้นเรายังมีธรรม คือความรัก ความเมตตาปรานี ทุกศาสนาบ่งบอกไว้ตรงกันหมด ถ้าจะใช้ศาสนาพุทธของเราเป็นหลัก พรหมวิหารสี่นั่นแหละ ดว่าเราเป็นคนถึงขั้นไหนแล้ว

เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ไงล่ะครับ

ขอประทานโทษนะครับ ผมไม่ได้คิดอาจเอื้อมถึงกับจะขึ้นนั่งเทศน์ให้คนฟัง

แต่ผมอดคิดเศร้าๆ ของผมไม่ได้ว่า ทุกวันนี้คนไทยเราเป็นอะไรกันไปหมดหนอ บ้านเมือ งและสังคมไทยจึงได้วุ่นวายอลวน กันถึงป่านนี้

ทั้งพวกคนโกง คนกิน คนที่เป็นคนแต่ใจเหมือนสัตว์ ปล้น ฆ่า เป็นมือปืนรับจ้าง ข่มขืน อิจฉา ริษยา ให้ร้ายป้ายสีกันเต็มไปหมด

ผมอดห่วงไม่ได้ว่า เมื่อได้แนะนำการดูแลร่างกายตามหลักชีวิต ตั้งแต่ต้นจนมาถึงบัดนี้ และเมื่อเขาปฏิบัติตัวได้ดีแล้ว แต่ในด้านจิตใจเขาทำไม่ได้ หรือไม่สนใจไยดีแล้ว เขาจะเป็นอย่างไร

ตอบได้ตรง และสั้นที่สุดครับว่า เขาตายแน่ เพราะอะไร คนที่สนใจแต่เพียงอย่างเดียวว่า ร่างกายเขาจะต้องสมบูรณ์ ดูดี และสวยงาม แต่เพียงอย่างเดียวนั้น เขาต้องเป็นคนที่หลงตัวเองอย่างเหลือเกิน

เขาจะกลายเป็นคนที่รู้จัก แต่จะเอาตัวรอด คนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ช่าง ขอให้ตัวเองแข็งแรง มีกิน มีใช้ สบายไว้ก่อนเป็นพอ

แต่มันจะสบายคนเดียว ได้อย่างไรครับ คนที่หลงตัวเองนั้น จะสบายกายสบายใจได้ก็ต่อเมื่อ เขาเห็นว่าคนอื่นตํ่ากว่าเขาตลอดไปเท่านั้น

เขาจะต้องคอยคิดเปรียบเทียบตัวเขาเอง กับคนอื่นอยู่ตลอดเวลา

แล้วมีไหมครับ ที่เขาจะเด่นเหนือใครได้ตลอดเวลา

เมื่อเปรียบเทียบตัวเอง กับคนอื่นที่เขาเด่นกว่า ดีกว่า ก็จะเกิดความโกรธ ความอิจฉาริษยา

นั่นก็คือการฆ่าตัวเอง และทำร้ายตัวเอง

ความโกรธ ความเกลียด ความอิจฉาริษยา เหมือนมะเร็ง เกิดขึ้นแม้เพียงจุดนิดหนึ่งในร่างกาย มันก็จะกระจายขยายตัวต่อไปจนกินเราไปหมดทั้งตัว

ผมขอยืนยันว่า ความคิดในทางลบ ในทางชั่วร้าย นั่นคือการทำลายตัวเองอย่างแท้จริง

เราจึงต้องอาศัยความคิดในทางบวก มองโลก มองคนในด้านดี มาเป็นตัวพื้นฐาน ทางคุณธรรมของเรา

เมื่อผสมกับการมีศีล จะศีลขั้นพื้นฐานอย่างเช่น ศีล 5 หรือขั้นสูงขึ้นไปอย่างศีล 227 ของพระก็ตาม รวมทั้งการมีธรรม อย่างเช่น เมตตา กรุณา และการให้ความรัก เป็นต้น

คุณก็จะเป็นคนเต็มคน

และตัวคุณเองนั่นแหละครับ ก็จะเป็นสุข ผลที่ได้นั้นตกอยู่กับคุณเอง ไม่ได้ไปไหนเลย

ลองทำดูง่ายๆ นะครับ เช้าวันนี้ลองยิ้มให้แก่คนแปลกหน้าสักนิด พอเขายิ้มกลับให้คุณเท่านี้แหละ คุณก็จะมีความสุขไปตลอดวัน

สรุปสั้นๆ ตรงนี้นะครับ M ตัวสุดท้ายคือ Morality นี้ คุณปฏิบัติดูเถิด มันจะเป็นประโยชน์สำหรับตัวคุณเอง ไม่ใช่ใครอื่นเลย

พูดเรื่อง Fasjamm มาก็เป็นเวลานาน พอสมควรนะครับ ผมขอสรุปเป็นการรวบยอดอีกครั้งว่า Fasjamm จะเป็นเครื่องเตือนตัว คุณเองอยู่ตลอดเวลาว่า "อย่าประมาท" จะเป็นเครื่องช่วยให้คุณสำรวจตัวเองง่ายๆ ว่า คุณมีอะไรผิดปรกติหรือเปล่า สภาพทางร่างกายของคุณเป็นอย่างไร และสภาพจิตใจเป็นอย่างไร

ถ้าคุณได้สำรวจ Fasjamm ของคุณตลอดเวลาและสมํ่าเสมอ สุขภาพกายและใจของคุณก็จะสมบูรณ์และมีความสุขตลอดไป

ขอลงความหมายของ Fasjamm ทั้งหมดไว้อีกครั้งหนึ่งนะครับ

FASJAMM

F=FATIGUE คือความอ่อนเปลี้ยเพลียแรง โดยที่หาสาเหตุไม่ได้ วิธีแก้คือ กินอาหารตามสูตรให้ถูกต้อง นอนให้ถูกต้อง ออกกำลังกายที่ถูกต้อง (ทั้งหมดนี้ได้แนะวิธีปฏิบัติไว้หมดแล้ว)

A (ตัวแรก)=APPETITE ต้องมีความอยากอาหารตามธรรมชาติ และรวมไปถึงความอยากรู้อยากเห็นอื่นๆ ด้วย

S=SLEEP ต้องฝึกตัวเองให้นอนหลับสนิท หลับลึก ถ้าหลับได้อย่างนี้ นอนเพียง 6 ชั่วโมง ก็พอเพียงแล้ว ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ต้องนอนนานเท่าไหร่ แต่อยู่ที่นอนได้หลับสนิทหรือไม่ต่างหาก

J=JOY AND ALERT ต้องสดชื่นรื่นเริง ตื่นตัว กระฉับกระเฉงอยู่เสมอ

A (ตัวที่สอง)=ANGER แก้ความโกรธ และระงับความโกรธให้ได้

M (ตัวแรก)=MEMORY ความจำและการทำงานของสมอง มักจะคู่ไปกับ FATIGUE แก้เรื่องความเหนื่อยเปลี้ยให้ได้ แล้วจึงแก้ กระบวนการเกี่ยวกับความจำ จะแก้ได้ง่ายขึ้น

M (ตัวที่สอง)=MORALITY คือตัวสุดท้ายที่เราพูด กันถึงเมื่อครู่นี้เอง

สำรวจตัวเองให้ได้นะครับ แล้วก็แก้ไขตัวเอง จัดระบบใหม่ให้ตัวเอง คุณจะเป็นคนใหม่ที่มีความสุขได้แน่นอน

แก้ไขได้ผลอย่างไร จดหมายมาคุยกันบ้างนะครับ ส่ง FAX มาที่ 570-8273 ก็ได้.

สาทิส อินทรกำแหง


[กลับไปสารบัญชีวจิต]   [BACK TO LISTS - FOODS]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600
1