โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง
ตอนนี้เรากำลังสำรวจตัวเองนะครับ จากบทความตอนที่แล้ว [ 2. สำรวจตัวเอง ] หลายท่านคงจะพบตัวเองแล้วว่า
|
เอาเพียงแค่นี้ก่อนนะครับ ถ้าเป็นอย่างนี้ คุณว่าคุณแก่ไหม อายุ 30 ดูเหมือนคนอายุ 50 ใช่ไหมครับ
ต้องปรับตัวใหม่แล้ว ปรับปรุงเหมือนกับเราเอารถเข้าอู่ ยกเครื่องใหม่
ถึงแม้จะเป็นรถใช้แล้ว แต่เรายกเครื่องใหม่ รถเราจะต้องมีกำลัง วิ่งฉิวได้เหมือนรถใหม่
เราจะกลายเป็นคนมีเรี่ยวมีแรง ทำงานอย่างแข็งแรง ทรหดอดทน ไม่เหนื่อย ไม่เพลีย
เมื่อเรามีเรี่ยวมีแรง ทำงานได้ทรหดอดทน ไม่เหนื่อย ไม่เพลียแล้ว เราอายุ 30 อย่างน้อย เราก็จะดูหนุ่ม ดูราวเหมือนคนอายุ 30 ไม่ใช่อายุ 50 เหมือน อย่างที่แล้วๆมา
และที่ดียิ่งขึ้นไปกว่านั้น เราจะลดอายุจริงของเรา ให้หนุ่มให้สาวกว่าเดิมสัก 10 ปี นั่นคือเมื่อเราดูเหมือนคนอายุ 30 ตามอายุจริงแล้ว ต่อไปเราจะต้องทำตัวให้ดูหนุ่มสาวเหมือนคนอายุ 20 ให้ได้
ทำได้จริงหรือครับ ผมว่าเราทำได้ ถ้าคุณอยากจะทำ คุณมีความตั้งใจจริง และคุณมีระเบียบวินัยสำหรับตัวเองด้วย
เมื่อครั้งที่แล้ว เราทิ้งท้ายไว้ว่า เราจะเริ่มด้วยการกินใช่ไหมครับ
การกินที่ถูกนี่แหละ จะช่วยให้เราเป็นหนุ่มเป็นสาวได้
การกินก็คือเรื่องของอาหาร เราแบ่งอาหารออกเป็นสองตอน
ตนแรกคือตอนที่อาหารยังไม่ได้เข้าปากเรา อย่าง เช่น ข้าว ปลา น้ำพริก ผัก เป็นต้น ตอนที่ยังไม่ได้เข้าปากเรา ข้าวก็ยังเป็นข้าว ปลาก็ยังเป็นปลา น้ำพริกและผัก ก็ยังคงสภาพเดิมของมันอยู่
แต่พอเข้าปากเราเข้าไปแล้วข้าวไม่ใช่ข้าว ปลาก็ไม่ใช่ปลาอีกต่อไป
เพราะเมื่ออาหารเข้าปาก มันจะต้องเปลี่ยนรูป มันจะต้องถูกเคี้ยว ต้องถูกย่อย มันจะเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นสารอาหาร (NUTRIENT) มันไม่ใช่ข้าว ไม่ใช่ปลาอีกต่อไป
เมื่อกลายเป็นนิวเทรียนท์แล้ว หน้าที่ของมันมีอยู่ 3 อย่าง คือ
|
เห็นไหมครับว่า อาหารเป็นของวิเศษ มหาวิเศษเพียงไร มันช่วยให้คุณเจริญเติบโต ช่วยซ่อมแซมสิ่งสึกหรอของร่างกาย เช่น สมมติว่า คุณเดินลงกระไดบ้านมาดีๆ เกิดหกล้ม ขาแพลงกระดูกเท้าแตก คุณนอนอยู่เฉยๆไปไหนไม่ได้ ไม่ช้าหรอก ร่างกายจะเริ่มซ่อมแซมตัวของมันเอง กระดูกที่แตกจะเริ่มต่อกันเอง จะมีแคลเซียมจากอาหารมาซ่อมกระดูกนั้นๆ
คุณถูกมีดบาดเป็นแผล ร่างกายจะทำให้เลือดหยุด และไม่ช้าแผลนั้นก็จะเริ่มติดกัน เป็นแผลตกสะเก็ดและแผลหายไปในที่สุด
นี่คือการซ่อมแซมของร่างกาย โดยใช้อาหารที่เรากินเข้าไปมาซ่อม
และนี่ดียิ่งขึ้นไปกว่านั้น อาหารยังเป็นยาได้
เวลาคุณท้องอืดท้องเฟ้อ คุณกินอาหารที่เป็นสมุนไพร เช่น ใบกะเพรา ตะไคร้ ขิงข่า พวกนี้ทำให้ท้องคุณหายอืดได้
หรือ (นี่เป็นตัวอย่างนะครับ) ถ้าคุณความดันโลหิตสูง คุณก็จะปวดหัวได้ง่าย อาหารที่จะช่วยลดความดันโลหิต และแก้ปวดหัวก็อย่างเช่น หัวหอม กระเทียม ขึ้นฉ่าย เซลเลอรี่ (ขึ้นฉ่ายฝรั่ง) 2 ก้านใหญ่ ผักชีสด 5 ต้น หั่นเป็นกำๆ ต้มในน้ำเดือดประมาณครึ่งลิตร เคี่ยวต่อไปประมาณ 20 นาที เสร็จแล้วกรองเอาแต่น้ำดื่มตลอดวัน
เป็นอาหารอย่างดี ช่วยลดความดันโลหิต และบรรเทาอาการปวดหัวได้ด้วย
อย่าลืมผสมด้วยการกดจุดหว่างคิ้ว แล้วรีดไปเหนือคิ้ว จนจดขมับสองข้างด้วย
นี่เป็นตัวอย่างนะครับว่า เราใช้อาหารทำประโยชน์ แก่ร่างกายได้ครบ 3 หน้าที่ คือ ช่วยบำรุงร่างกาย ช่วยซ่อมแซมสิ่งสึกหรอ และเป็นยาได้ด้วย
แต่การกินอาหารให้ได้ประโยชน์ครบสามอย่างนี้ เราจะกินอาหารตามใจปาก ตามใจท้อง คือกินโดยยึดเอาความอร่อยเป็นที่ตั้งอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องมีสูตรครับ สูตรของเราก็วางไว้ง่ายๆ คือ
|
เบ็ดเตล็ด เช่น สาหร่ายทะเล เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฝักทอง ผลไม้ซึ่งไม่หวาน ปริมาณ 10% ทั้งหมดนี้เป็นสูตรกลางๆ เราจะพูดถึงวิธีกินและวิธีทำให้อร่อย และน่ากินในคราวต่อไป และทุกครั้งของบทความนี้ ผมจะแถมเรื่องวิตามินจากอาหารไว้ทุกตอนนะครับ.
main |