โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง
เอ!เรื่องกินเหล้ากลายเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าจะหยุดไม่ได้เสียแล้วซีครับ ผมถูกถามมามากเหลือเกิน ข้อสำคัญบางท่านจะเข้าใจผิดหรือเปล่า ก็ไม่ทราบ หรือว่าท่านจะล้อเล่นก็ไม่รู้ซี ท่านถามผมว่าผมนึกยังไง ถึงได้สนับสนุนให้คนกินเหล้า
ท่านอ่านดูที่ผมเขียนไปแล้วดีๆ หน่อยนะครับ แล้วท่านจะเห็นเองว่า ผมไม่ได้สนับสนุนให้คนกินเหล้า แท้ที่จริงนั้นผมอยากจะห้ามไม่ให้คนกินเหล้าเลยด้วยซ้ำ แต่ท่านผู้อ่านแทบจะทุกคนก็คงทราบดีอยู่แล้วว่า คนไทยเรานั้นกินเหล้ากันหนักหนาเพียงไร และที่กินเหล้ากันจนติดก็มากมาย ในงานทุกงานไม่ว่าจะเป็นงานอะไร งานมงคลและแม้แต่ในงานศพก็ยังกินเหล้ากัน
คนไทยเรากินเหล้ากันเยอะ และกินเหล้ากันไม่เป็น เหล้าจึงทำลายคนและทำลายสังคมไทย ไปอย่างน่าเสียดายและน่าตกใจยิ่ง
เมื่อสังคมไทยกินเหล้าและติดเหล้ากันอย่างนี้ ผมเป็นใครมาจากไหนเล่าครับ จะไปห้ามนักกินเหล้าทั้งหลายไม่ให้กินเหล้าได้
ผมเห็นพฤติกรรมของสังคมไทยเป็นอย่างนี้ ผมรู้ตัวดีว่าผมห้ามเพื่อนคนไทยของเราไม่ได้แน่ ผมไม่ได้ตำหนิท่านที่กินเหล้าเหล่านั้น ผมเข้าใจนิสัยใจคอของคนกินเหล้าเป็นอย่างดี เพราะผมเองก็เคยเป็นคนกินเหล้าอย่างหนักมาแล้วเหมือนกัน
ผมจึงมาคิดว่า แทนที่เราจะไปห้ามเขาไม่ให้กินเหล้า เรามากินเหล้ากันแต่พอควร กินเหล้าให้เป็น อย่ากินเหล้าให้เป็นโทษ อย่าให้มันทำลายตัวเอง และทำลายชีวิตของคุณทั้งหลาย
ความจริงเหล้าก็มีประโยชน์อยู่บ้าง ถ้าคุณกินเหล้าให้เป็น กินเหล้าให้เป็นยา เหล้าก็จะกลายเป็นสิ่งที่มีประโยชน์เสียด้วยซ้ำ
เคยมีการสำรวจพฤติกรรมของประชาชนแถบเมดิเตอร์เรเนียน เกี่ยวกับการกินอาหารว่ากินอาหารอย่างใด สูตรใด จึงจะเป็นประโยชน์แก่ร่างกายและแก่ สุขภาพของประชาชน
ปรากฏว่า อาหารสูตรของเมดิเตอร์เรเนียน เมื่อเทียบกับอาหารของชาวอเมริกัน และเทียบกับชาวยุโรปทั่วๆ ไปแล้ว อาหารเมดิเตอร์เรเนียนทำให้คนมีอายุยืนกว่า แข็งแรงกว่า และมีสุขภาพดีกว่า
สูตรอาหารของเมดิเตอร์เรเนียนนั้น จะมีอาหารพวกหมู พวกเนื้อสัตว์อื่นๆ น้อย ถ้าจะกินเนื้อ จะเป็นเนื้อไก่ และเนื้อกระต่ายเสียเป็นส่วนมาก แถมด้วยผักและผลไม้เป็นจำนวนมาก
ที่สำคัญก็คือ สูตรอาหารเมดิเตอร์เรเนียนนี้ อนุญาตให้กินเหล้าได้ด้วย และพวกเหล้านี้จะเป็นไวน์เสียเป็นส่วนมาก
อนุญาตให้กินไวน์ครั้งละ 2-3 แก้ว
และก็สูตรอาหารและเหล้าแบบเมดิเตอร์เรเนียน ที่ทำให้คนอายุยืนนี่เองก็ประกาศไปทั่วโลก คนก็เลยเห่อกินเหล้า-กินไวน์กันเป็นการใหญ่ (ไม่เห็นเห่ออาหารเนื้อน้อยกันเท่าไหร่นัก)
เมืองไทยเราก็เห่อไวน์กันเป็นการใหญ่ ก็เพราะเรื่องสูตรอาหารเมดิเตอร์เรเนียนนี่แหละครับ เพิ่งจะมาค่อยซาลงก็สมัย IMF นี่แหละ ที่ซาลงก็เพราะไวน์มันแพงขึ้นหลายเท่าตัว
การกินเหล้าเพราะความเห่อนี่แหละครับ ที่ผมอยากจะแก้ไข เพราะกินเหล้าอย่างนั้น กินกันแบบหลับหูหลับตากิน เห่อกินเหล้าไวน์ เหล้าฝรั่งโดยที่ไม่เข้าใจ ไม่รู้รสชาติ และไม่ได้มีพิธีรีตองเกี่ยวกับการกินเหล้ากินไวน์กันเลย
ฝรั่งกินเหล้าเพราะความหนาว ของภูมิประเทศอย่างหนึ่ง และเพราะเป็นพิธีประจำปี ประจำฤดูกาลอีกอย่างหนึ่ง
การกินตามพิธีนั้นก็อย่างเช่น ตอนคริสต์มาส และอย่างพิธีพาสโอเวอร์ของอเมริกันยิว เป็นต้น กินอย่างนี้ก็กินกันตามพิธีไม่ได้กินจนเมามาย พอจะอนุโลมเป็นการกินอย่างมีเหตุผลได้
แต่การกินเหล้าฝรั่งและไวน์ ตามความเห่อเป็นแฟชั่นนั้น ผมไม่เห็นว่ามันมีเหตุผลอย่างไร มีแต่เหตุผลว่าต้องกินเหล้าแพงๆ อวดหน้าอวดตากันไปเท่านั้นเอง
ส่วนการกินไวน์ ก็มีผู้อ้างกันว่าได้มีการศึกษากันแล้ว ปรากฏว่าในไวน์มีตัวยาแก้โรคหัวใจได้ ก็เลยมีผู้อ้างกันว่า กินไวน์ เพื่อจะแก้โรคหัวใจ
แต่จริงๆนั้นตัวยาก็มีอยู่บ้าง คือสารที่เราเรียกกันว่า "เควเซติน" และมันก็เป็นสารที่มีอยู่ในไวน์แดงเท่านั้น ไวน์ขาวไม่เกี่ยว
และมันก็ไม่ได้มีอยู่แต่ในไวน์แดงเพียงอย่างเดียว ในอาหารอื่นๆ ก็ยังมี ในผักบางชนิด เช่น บร็อคเคอรี่ หรือ กะหล่ำปลี ก็ยังมี
เพราะถ้าอยากจะหาตัวยาก็กินจากผัก หรืออาหารอย่างอื่นก็ยังได้ ไม่จำเป็นจะต้องตั้งหน้าตั้งตากินไวน์ แล้วก็อ้างว่ากินเพื่อรักษาโรคหัวใจ
กินแบบหลับหูหลับตาด้วยความเห่ออย่างนั้น ดีไม่ดีอาจจะตายด้วยโรคหัวใจเอาด้วยซ้ำ
โดยเหตุนี้ สิ่งที่ผมอยากจะเตือนเรื่องการกินเหล้า ถ้าจะกินเหล้าก็กินแต่พอดี กินให้มันเป็นประโยชน์ และกินแต่พอดีเถอะครับ
อย่ากินให้ถึงกับเมามาย กินแล้วก็ทำลายตัวเอง ทำลายชีวิตและอนาคตของคุณ
และสิ่งสำคัญข้อหนึ่ง ซึ่งผมได้เตือนไว้แล้วในฉบับอาทิตย์ที่แล้วก็คือ คุณวัยรุ่นทั้งหลายอย่าได้ริกินเหล้าผสมกัญชาหรือยาเสพย์ติดเป็น อันขาด อย่าได้ลอง หรืออย่าได้เสาะหาเพราะเป็นแฟชั่นโก้ๆ ตามกลุ่มของคุณ
ขอเตือนซ้ำอีกครั้งนะ ครับ คุณลองเพียงครั้งเดียวเท่ากับคุณฆ่าตัวเอง เท่ากับคุณตายทั้งเป็น ทั้งๆ .ที่อนาคตของคุณยังรอคุณอยู่
และข้อสำคัญ ซึ่งขอเตือนซ้ำอีกครั้งหนึ่งก็คือ กินเหล้าแล้วอย่าขับรถ หรือถ้าจะขับรถก็อย่ากินเหล้า
ตอนนี้กำลังเริ่มหน้าร้อน คนเริ่มออกเที่ยวกันเยอะแล้ว ลองไปแถวชายทะเล แถวบางแสน พัทยากันนี่แหละ ตามร้านอาหารและร้านเหล้า ไม่ได้มีแต่ฝรั่งอย่างแต่ก่อน แต่คนไทยโดยเฉพาะพ่อหนุ่มวัยรุ่นของเรานี่แหละ ไปนั่งกินเหล้ากันอยู่
พ่อหนุ่มเหล่านี้ก็ขับรถกันไปทั้งนั้น เมาด้วยขับรถเร็วด้วย มีอะไรนิดหน่อยก็ไม่เหลือแหละครับ ตายกันทั้งนั้น
ต้องขอแถมกันอีกสักนิดนะครับ เรื่อง เหล้าขาวที่ผมบอกมีอันตรายน้อยกว่าเหล้าผสมนั้น ไม่ได้หมายความว่า ผมสนับสนุนให้กินเหล้าขาวนะครับ เป็นแต่ผมอยากจะแยกแยะออกมาให้เห็นว่า ระหว่างเหล้าซึ่งเป็นอันตรายเหมือนกันทั้งนั้น คือทำให้เมานั้น เหล้าผสมมีอันตรายแก่สุขภาพ มากกว่าเหล้าขาว
แต่เหล้าขาวของไทยบางอย่าง ก็เป็นอันตรายมากเหมือนกัน คือเหล้าที่เป็นหางเหล้าและดีกรีต่ำ อย่างเช่น เหล้าโรง เป็นต้น เหล้าประเภทนี้ถ้าลองดมดู จะมีกลิ่นบูดแบบละมุดสุก นั่นเป็นเพราะมีสารจากหางเหล้าที่เราเรียกกันว่า FUSEL OIL
สารพวกนี้อยู่ในกลุ่ม BUTANOL และ ISO AMYL ALCOHOL มีกลิ่นบูดๆ และเมื่อมันอยู่ในเหล้าขาวแบบเหล้าโรง กินเข้าไปมาก ขี้ตาแฉะ และหน้าจะบวมฉุ และก็แน่นอน จะเป็นสารที่เป็นอันตรายต่อตับและไตด้วย
อันตรายครับ ขอแนะนำด้วยความหวังดีว่าอย่าไปยุ่งกับมันดีกว่า
เอาละครับ อีกข้อหนึ่ง ถ้าจะกินเหล้าขาว กินให้มันเป็นยาได้ไหมล่ะครับ คือเอายาแช่เข้าไปด้วย ตัวยาก็มี เหล้าขาว (หัวเหล้าดีกรีสูง) 1 ขวด ลูกจันทร์ 5 หัว กานพลู 30 ก้าน ผักชีลาว (ใบริมหยักๆ มีหนาม) ตากแห้ง 3 ต้น หัวโสมเกาหลี 1 หัว หั่นเป็นแว่นๆ ต้นข้าวโอ๊ตแห้ง (ภาคเหนือปลูกข้าวโอ๊ตได้) 1 ต้น สับเป็นท่อนๆ เซลเลอรี่แห้ง (ขึ้นฉ่ายฝรั่ง) 1 ต้น สับเป็นท่อน
ห่อผ้าขาวบางแล้วแช่เหล้าขาว 1 เดือน รับประทานบำรุงประสาท ระบบเลือดดี สดชื่นแข็งแรง
รับได้เพียงอาทิตย์ 2 จอก วันละ 1 จอก 2 วันต่อ 1 อาทิตย์ละ (1 จอก 4 ช้อนโต๊ะ)
รับเป็นยานะครับ รับได้เพียงอาทิตย์ละ 2 จอกเท่านั้น ถ้ากินเกินกว่านั้น เลิกคบกันเลยนะครับ.
main |