โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง
มาแล้วครับ แฟนประจำซึ่งคอยแนะนำผมอยู่ตลอดเวลา
ท่านกริ๊งกร๊างมาว่า อย่าไปเคร่งเรื่องระเบียบวิธีการให้มันเสียเวลาอ่านไปเปล่าๆ ท่านหมายถึงการร้อนตัวของผม เรื่องการอ้างอิงเรื่องวิชาการ และการค้นคว้าของนักวิจัยต่างๆ ท่านว่าไม่จำเป็น
เอาละครับ ผมเข้าใจว่าแฟนไทยรัฐ ท่านชอบนั่งขัดสมาธิคุยกันอย่างไม่มีพิธีรีตอง มากกว่าจะใส่เสื้อนอกผูกเนกไท นั่งคุยกันบนเก้าอี้
ผมก็ชอบอย่างนั้นครับ ตกลง กลับมานั่งขัดสมาธิคุยกันต่อดีกว่า สองสามอาทิตย์มานี้ เป็นช่วงเวลาของเทศกาลฤดูร้อน มีทั้งพิธีการเกี่ยวกับการเดินทางทั้งของจีนและไทย อย่างเช่น งานเช็งเม้งและสงกรานต์ และยังมีของแถมงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ และงานกาชาดเข้าอีก คงจะทั้งกินและเที่ยวกันจนหมดแรงไปตามๆ กันแหละนะครับ
ช่วงนี้ผมเองก็ต้องเดินทางไปกับเขาด้วย ไปทั้งอีสานและภาคเหนือ ไปที่ไหนผมก็จะอดสังเกต เรื่องอาหารการกิน และวิธีกินของชาวบ้านไม่ได้ ผมได้พบว่ายังมีเรื่องที่น่าเป็นห่วง เกี่ยวกับการกินของชาวบ้าน ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด ก็คือเรื่องการกินเนื้อสัตว์ดิบๆ
เมื่อเร็วๆนี้ ผมได้คุยกับคุณหมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อาจารย์ด้านนิติเวช รพ.รามาธิบดี ท่านได้เล่าให้ฟังว่า ขณะนี้ได้พบกรณีคนไข้ที่เสียชีวิต จากพยาธิขึ้นสมองมากขึ้น ผมก็ยังทึกทักว่าคงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรนัก แต่พอกลับจากอีสานและภาคเหนือคราวนี้ผมรู้สึกว่าเรื่องพยาธินี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เสียแล้ว
เรายังนิยมกินเนื้อสัตว์ดิบๆ กันอยู่เลยครับ แหนมหรือหมูส้มดิบๆ ก็ยังนิยมกินกันอยู่ทั่วๆ ไป ร้านอาหารบางแห่งมีอาหารจานเด็ด คือลาบเลือดสดๆ หรือมิฉะนั้นก็เอาเนื้อหมูสดสับละเอียด ใส่หนังหมูและกระเทียมสับคลุกข้าวสุกลงไปด้วย ตามด้วยพริกขี้หนู หอม ผักชีขนาดหนัก บีบมะนาวเสียเปรี้ยวจี๊ด กินกับเหล้าอย่างเอร็ดอร่อย
แหนมหรือหมูส้มชนิดห่อ แม้ว่ามีการหมักดองแล้ว แต่ก็ต้องนับว่าเป็นของดิบเหมือนกันแหละครับ กินกันดิบๆที่ร้านอาหาร แล้วยังแถมซื้อมาเป็นของฝากที่กรุงเทพฯกันเยอะแยะ
ส้มฟักที่ทำจากปลา ก็ต้องถือว่าเป็นของดิบเหมือนกัน แม้ว่าจะเริ่มออกขายกันตามซุปเปอร์มาร์เกต แล้วแต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เป็นอาหารปลอดจากพยาธินะครับ เพราะมันก็ยังเป็นของดิบอยู่
นอกไปจากนั้นที่เป็นเนื้อหาสำคัญ ของอาหารดิบอีกอย่างหนึ่งก็คือ ของหมัก ดอง ประเภทปลาร้า ปลาเจ่า จะใส่ส้มตำ จะทำน้ำพริก หรือใส่ต้มแกงอะไรก็มักจะใส่กันดิบๆ ผมเคยถามคุณพี่ คุณอาเหล่านั้นว่าทำไมไม่ต้มให้สุกเสียก่อน แล้วค่อยใส่ในอาหาร แกก็ตอบซื่อๆ ว่า "มันบ่แซบ"
นี่แหละครับตัวสำคัญ พอมาถึงคำว่า "มันไม่อร่อย" ละก็ จะเอาเหตุผลข้ออ้างอย่างไร มาอธิบายก็ไม่มีใครอยากฟัง พูดมากไปก็จะกลายเป็นการทะเลาะกันเสียเปล่าๆ
แต่ที่ผมห่วงมากที่สุดก็คือ เรื่องพยาธิที่อยู่ในเนื้อสัตว์ดิบๆ
เท่าที่ทราบมา ปลาในหนองคลองบึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอ่างเก็บน้ำ หรือแม้แต่ที่หนองหารซึ่งขึ้นชื่อว่า อุดมไปด้วยปลาน้ำจืดนานาชนิดนั้น เดี๋ยวนี้ปลาเหล่านั้น เมื่อผ่าท้องออกมาดูก็จะเจอแต่พยาธิทั้งนั้น
เนื้อสัตว์ต่างๆ จากโรงฆ่าสัตว์ อาจจะปลอดภัยจากพยาธิ แต่เนื้อเถื่อนหรือเนื้อจากสัตว์ที่ฆ่ากันเองนี่ซิครับ จะทำอย่างไร
เอาละครับ ตอนนี้เรามาคุยกันก่อนดีกว่า สำหรับกลุ่มเพื่อนๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจจะกินเนื้อสัตว์ดิบๆ แต่เผลอกินเข้าไปแล้ว ระหว่างไปเที่ยวและร่วมงานฉลองเทศกาลต่างๆ ขณะนี้
ก่อนอื่นรู้จักพยาธิชนิดต่างๆ เสียหน่อยดีไหมครับ
พยาธิที่น่ากลัวที่สุดคือ พยาธิตัวกลมจากหมูที่เรียกกันว่า ทริคิโนซิซ (TRICHINOSIS) และพยาธิใบไม้ในตับ
พยาธิทริคิโนซิซนั้นมาจากการกินเนื้อหมูดิบๆ หรือเนื้อหมูซึ่งสุกไม่พอ อย่างเช่น พวกไส้กรอก และแฮม ขณะนี้เท่าที่ทราบพยาธิทริคิโนซิซนั้นสามารถจะควบคุมได้แล้ว เพราะเป็นพยาธิที่ร้ายแรงที่ทำให้ถึงตายได้ สัตวแพทย์ทั่วโลกได้ควบคุมเรื่องเลี้ยงหมูไว้ได้ดีพอสมควร
แต่ก็ไม่ควรประมาทนะครับ บางครั้งบางคราว เราจะได้ยินเรื่องพยาธิทริคิโนซิซโผล่ขึ้นที่โน่นที่นี่อยู่เสมอ ถ้ามีไข่พยาธิชนิดนี้อยู่ในเนื้อหมูดิบแม้แต่ฟองเดียว คุณกินเข้าไปภายใน 3 วัน มันก็จะเป็นพยาธิสมบูรณ์ แล้วมันก็จะขยายตัวอ่อนออกมาอีกมากมาย ภายใน 6 อาทิตย์ก็จะโตเต็มที่ แทรกเข้าไปในเนื้อของเรา เข้าไปในกระแสเลือด เราก็จะมีไข้ หนาวสั่น ตาบวม ปวดท้อง ปวดกล้ามเนื้อทั่วตัว ถ้าเป็นมากก็ถึงตาย
ส่วนพยาธิใบไม้ในตับมาจากปลาเข้าไปในตัวเรา แล้วก็จะไปที่ตับ โจมตีตับ เกิดเป็นโรคตับแข็ง หลังจากนั้นอีกระยะหนึ่ง ก็อาจจะเป็นมะเร็งตับได้ ถึงตายอีกเหมือนกัน
พยาธิอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งมาจากอาหารดิบๆ ก็คือ พยาธิตัวตืดซึ่งมาได้จากหมู เนื้อ และปลา พยาธิตัวตืดไม่ทำให้ถึงตายก็จริง แต่มันก็ทำให้ร่างกายอ่อนแอ ถ้ามีมากๆ ก็จะทำให้หมดเรี่ยวแรงพานให้เป็นโรคอื่นๆ ได้ง่าย ก็นับว่าร้ายเหมือนกัน
ส่วนโรคสมองอักเสบแบบญี่ปุ่น ซึ่งมาจากหมูนั้น ไม่ใช่มาจากการกินเนื้อหมูดิบนะครับ แต่มาจากไวรัสในตัวหมู แล้วยุงลายไปกัดหมูแล้วมากัดคนต่อ เริ่มระบาดที่มาเลเซียก่อน แต่เห็นเจ้าหน้าที่ท่านบอกว่า คงจะไม่มีทางระบาดมาถึงเมืองไทย เพราะได้มีการควบคุมที่ชายแดนอย่างเคร่งครัดแล้ว
ทีนี้สำหรับท่านที่คิดว่าเผลอไปกินเนื้อสัตว์ดิบเข้า และกลัวว่าจะเจอพยาธิเข้ามาอยู่ในตัว แล้วจะทำอย่างไรดี ก็อย่าเพิ่งตกใจนะครับ เพราะพยาธิเหล่านี้ต้องใช้เวลาฟักตัว เพราะฉะนั้นถ้าคุณจะใช้เวลาตอนนี้พักเต็มที่แล้ว ลองใช้วิธีของนายแพทย์คลิฟฟอร์ด แอนเดอร์สัน ซึ่งได้แนะนำไว้ในหนังสือ "MODERN WAYS TO HEALTH" ว่ารีบกินยาถ่ายพยาธิเสียก่อน ในกรณีที่คิดว่าคงจะมีพยาธิแน่ ท่านแนะให้ใช้ดื่มน้ำมากๆ แล้วถ่ายพยาธิ และให้สวนทวารหนักด้วย
แต่ถ้าเป็นพยาธิใบไม้ในตับ ต้องติดต่อกับแพทย์นะครับ เพราะยาขับพยาธิใบไม้ในตับ จะไปหาซื้อเอาเองคงไม่ได้
ในขณะเดียวกัน ควรจะรู้จักพยาธิอื่นๆ ด้วย เพราะถึงแม้พยาธิเหล่านี้ ไม่ได้เกิดจากกินอาหารประเภทเนื้อไม่สุก แต่ถ้าคุณมีพยาธิเหล่านี้ อยู่ในตัวการกินยาถ่ายพยาธิรวม ก็จะช่วยให้กำจัดพยาธิต่างๆ ไปได้พร้อมกัน
พยาธิปากขอ พยาธิเส้นด้าย พยาธิตัวกลม (ยาวตั้งแต่ 6 นิ้วถึง 15 นิ้ว) พยาธิเหล่านี้จะเกิดจากดินสกปรก มีอุจจาระปนอยู่ หรือเกิดจากรากของผักซึ่งล้างไม่สะอาด หรือเกิดจากน้ำสกปรก หรือมือไปจับต้องของสกปรกแล้วใส่ปาก
วิธีป้องกันคือล้างมือให้สะอาด อาจจะมีสถานที่หลายแห่ง ซึ่งดินและน้ำสกปรก และอาจจะเป็นแหล่งซึ่งมีพยาธิชุกชุม ถ้าสงสัยอย่างนั้น คุณต้องระวังเป็นพิเศษ อะไรที่จะเข้าปากต้องให้สะอาดไว้ก่อน
แต่ถึงอย่างไร ก็เลิกกินเนื้อสัตว์ดิบๆไว้ก่อนดีไหมครับ.
สาทิส อินทรกำแหง
main |