โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง
ฟังดูออกจะงงๆ นะครับ ขออนุญาตเปรียบเทียบกับการผสมปูนซีเมนต์
ก่อนอื่นเราต้องมี กรวด มี ทราย มีซีเมนต์ นั่นคือ กลุ่มแมคโคร
เสร็จแล้วเราต้องผสมกัน แล้วใส่นํ้าและอากาศ (ซึ่งมองไม่เห็นตัว) ลงไปผสม นี่ก็คือกลุ่มไมโคร
ซีเมนต์ กรวด ทราย จึงจะกลายเป็นปูนซีเมนต์แข็งขึ้นมาได้
จะเห็นได้ว่า กรวด ทราย และซีเมนต์นั้น มันจะเป็นตัวซีเมนต์แท้ๆ
เมื่ออยู่แยกกัน มันก็จะเป็นกรวด ทราย และซีเมนต์แยกกันอยู่อย่างนั้น
แต่พอได้ นํ้า-อากาศ (ซึ่งมองไม่เห็นตัว) ผสมกันมันก็จะกลายเป็นปูนซีเมนต์ เอาไปโบกอะไรก็ตามมันก็จะอยู่ตัว
พอเวลาผ่านไป นํ้าระเหยไปเรื่อยๆ มันก็จะกลายเป็น ซีเมนต์แข็งตัว
อาหารกลุ่มแมคโคร และไมโคร ก็เป็นคล้ายๆ อย่างนี้แหละครับ มีหน้าที่ต่างกัน แต่มันจะกลายเป็นพลังงาน
เป็นเลือดเป็นเนื้อของเราได้นั้น ต้องมี ไมโครเป็นตัวแปรสำคัญ จึงจะกลายเป็นเลือดเป็นเนื้อของเราขึ้นมาได้
แร่ธาตุ ซึ่งเป็นตัว แปรสำคัญที่จะทำให้อาหารกลายเป็นเลือด เนื้อของเราได้นั้น มีอยู่ 18 ชนิด
เป็นตัวสำคัญ (ESSENTIALS) ซึ่งเราขาดไม่ได้ ถ้าร่างกายขาด 18 ตัวนี้ เราก็จะป่วย
หมายความว่าร่างกายเรานั้นยังมีแร่ธาตุตัวอื่นๆอยู่อีก แต่พวกนั้นไม่ใช่ตัวที่ร่างกายต้องการ
บางตัวถ้าสะสมอยู่ในร่างกายของเรามากๆ จะทำให้เราป่วยและตายได้ด้วยซํ้า
กลุ่มแร่ธาตุ 18 ตัวนั้น ได้แก่ แคลเซียม (CALCIUM) คลอรีน (CHLORINE) โครเมียม (CHRO-MIUM) โคบอลท์
(COBALT) ทองแดง (COPPER) ฟลูออรีน (FLUORINE) ไอโอดีน (IODINE) เหล็ก (IRON) แมกนีเซียม
(MAGNESIUM) แมงกานีส (MANGANESE) โมลินดีนั่ม (MOLYDENUM) ฟอสฟอรัส (PHOSPHORUS)
โปแตสเซียม (POTAS-SIUM) ซีเลเนียม (SELENIUM) โซเดียม (SODIUM) กำมะถัน (SULFUR) วาเนเดียม
(VANADIUM) สังกะสี (ZINC)
ความสำคัญของแร่ธาตุ 18 ชนิด ก็คือ ร่างกายของเรา ต้องมีครบทุกตัว ขาดแม้แต่ตัวเดียวก็ไม่ได้
ถ้าขาดไปเราก็ป่วย
ความสำคัญข้อที่สองก็คือ เราต้องมีแร่ธาตุแต่ละอย่างให้ได้สัดส่วนพอดีกับตัวอื่นๆ ถ้ามีมากไปเราก็ป่วย
ถ้ามีน้อยไปเราก็ป่วยเช่นกัน อย่างเช่น ระหว่างแคลเซียมกับฟอสฟอรัส จะต้องมีอัตราส่วนระหว่างสองต่อหนึ่ง
หมายความว่า แคลเซียม 2 ส่วนต่อฟอสฟอรัส 1 ส่วน อย่างนี้เป็นต้น
ความสำคัญอีกอย่างหนึ่งของแร่ธาตุ 18 ชนิด ที่มีต่อร่างกายเราก็คือ แร่ธาตุเหล่านี้
จะทำหน้าที่เหมือนเป็นยารักษาโรคให้แก่ตัวเราด้วย
จะเห็นได้ว่าสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ยารักษาโรคแทบทุกอย่าง ผลิตมาจากแร่ธาตุแทบทั้งสิ้น
มาเมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่สองนี่แหละ เมื่อเราค้นพบจุลชีพแบบปฏิชีวนะเข้า จึงได้พลิกประวัติศาสตร์การใช้ยา
และรุ่นหลังๆ นี้อีกเหมือนกันที่เรามียาประเภทเคมี(CHEMO-THERO PEUTIC MEDICINE)มากขึ้น
แต่ถึงอย่างไรแร่ธาตุในอาหารและยา ซึ่งสกัดมาจากแร่ธาตุธรรมชาติ ก็ยังเป็นยาที่จำเป็นและเหมาะสมแก่ร่างกายมากกว่าอย่างอื่น สำหรับสูตรเรื่องแร่ธาตุซึ่งเป็นอาหารนั้น ก่อนจะไปถึงเรื่องอาหารเสริมนั้น ซึ่งสมัยนี้มีการผลิตวิตามิน และแร่ธาตุขึ้นเป็นอาหารเสริมนั้น ผมอยากจะให้เราหันมาดูแร่ธาตุ ซึ่งอยู่ในตัวเนื้ออาหารที่เรากินอยู่ทุกวันนั้น เป็นตัวสำคัญที่สุดในชีวิตประจำวันของเราเสียก่อน เพราะยาอายุวัฒนะที่ดีที่สุดนั้นอยู่ในอาหารนี่เอง และแร่ธาตุที่ว่ามีความสำคัญอย่างเหลือเกินต่อร่างกายนั้น ก็มีอยู่ในอาหารนั่นแหละ ยกตัวอย่างเช่น แคลเซียม ซึ่งในวงการโภชนาการและวงการแพทย์ ถือว่าเป็นแร่ธาตุที่สำคัญอย่างเหลือเกินนั้น เราก็มักจะมองข้ามความสำคัญของอาหารไป แต่กลับมาแนะนำให้กินแคลเซียมประเภทอาหารเสริม ซึ่งผลิตออกมาเป็นรูปของเม็ดยา ซึ่งในขณะนี้กำลังเป็นที่นิยมกันมาก แต่ผมอยากจะชักชวนว่าก่อนจะถึงอาหารเสริม หรือแร่ธาตุที่ออกมาในรูปของเม็ดยานั้น ขอให้กินอาหารให้ถูกต้องเสียก่อนดีกว่าครับ ในอาหารมีแคลเซียม เหลือเฟืออยู่แล้ว และเมื่อเรากินอาหารซึ่งมีแร่ธาตุแคลเซียมพอเพียง ก็จะกลายเป็นยาธรรมชาติที่แสนวิเศษสำหรับตัวเรา เป็นยาวิเศษซึ่งราคาถูก และเป็นขนานแท้จากธรรมชาติ ซึ่งให้แก่เราโดยตรงด้วย สูตรอาหารชีวจิตซึ่งผมเสนอแก่ท่าน ผู้อ่านเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนนั่นแหละครับ มีอาหารและยาครบถ้วนในตัวดีอยู่แล้ว.
main |