มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://geocities.datacellar.net/Tokyo/Harbor/2093/

[ จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันอาทิตย์ เริ่ม อาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2541 ]

ปั้นชีวิตใหม่ด้วยชีวจิต

โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง


7 ตอบจดหมาย

จม. จากคุณนุช (พรรณเพ็ญ)
1. ถ้าสนใจจะปฏิบัติตามแบบชีวจิตจะต้องทำอย่างไรบ้าง หมายถึงว่าไป ร่วมอยู่ปฏิบัติกับคนอื่น ๆ อย่างจริงจัง อย่าตอบว่าอ่านตามตำราของอาจารย์แล้วทำเอง นะคะ เพราะคงไม่มีความอดทนและวินัยเพียงพอ หนูเองมักจะท้องผูกทั้ง ๆ ที่กินผัก ผลไม้มากกว่าเนื้อสัตว์สี่ขา (90:10) อาจเป็นเพราะความเครียดที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว หรือเปล่า กลัวว่านาน ๆ ไปจะเกิดโรคอื่น ๆ ขึ้นมา
2. เราคนไทยจะป้องกันพิษภัยที่อาจจะเกิดขึ้นจากพวกพืชผักผลไม้ได้อย่างไร ล้างน้ำอย่างเดียวพอหรือไม่ เท่าที่ฟังจากนักวิชาการที่ใกล้ชิดจากการทำงานของหนู เขาบอกว่ามันมีสารตกค้างเยอะเหมือนกัน
นุช (พรรณเพ็ญ)

ตอบ จม.ของคุณเขียนมายาวน่าอ่านมาก ต้องขออนุญาตตัดตอนเอาแต่ที่เป็นคำถาม ล้วน ๆ ลงก่อน ขอบคุณครับที่ให้กำลังใจและบอกว่าติดตามผลงานของผมมานานแล้ว

1. เรื่องการปฏิบัติตัวแบบชีวจิต ถ้าอยากจะเข้ากลุ่ม เขามีกลุ่มซึ่งทำกิจกรรม กันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ เป็นการออกกำลังกาย เช่น ที่สวนลุมพินี หมู่บ้านปัญญา และที่สมุทรปราการหรือติดตามการสัมมนาที่ทางชมรมจัดเป็นครั้งคราว

ส่วนเรื่องคอร์สที่เราจะจัดขึ้นบางครั้งบางคราวนั้น ผมมีเวลาว่างเมื่อไหร่ ผมก็จะจัดขึ้นเอง ส่วนมากก็จะเป็นการจัดแบบกันเอง อย่างเช่นปลายเดือนพฤศจิกายน เราก็จะจัดอีก ครั้งหนึ่ง คือ สปาร์ตันแคมพ์ แต่จะเป็นการเข้าค่ายที่โหดมากนะครับ ต้องตื่นแต่ตีสี่ แล้ววิ่งไป-กลับ 6 กิโลเมตร วันสุดท้ายต้องวิ่งขึ้นเขาไป-กลับ 20 กิโลเมตร ต้องนอนเต็นท์ อาบน้ำเย็น

ถ้าคุณนุชคิดว่าทนชีวิตโหด ๆ ก็เชิญสมัครได้เลยครับ แต่ขอร้องให้รีบสมัคร เพราะคนจวนเต็มแล้ว สมัครโดยส่งแฟกซ์ 570-8273 ก็ได้ครับ

สำหรับเรื่องท้องผูกนั้น ว่ากันทีจริงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับทุกคนในเมืองหลวง และเมืองใหญ่ ๆ สาเหตุก็เพราะคนในเมืองใหญ่ ๆ เหล่านี้มักกินผิด ๆ และใช้ชีวิตประจำวันในลักษณะรีบร้อนสับสนทำให้พฤติกรรมในชีวิตประจำวันผิด และเครียดด้วย

ด้านสภาพของร่างกายก็มีส่วนสำคัญอยู่มากนะครับ คุณนุชลองสังเกตดูสักนิดว่า อาหารที่คุณนุชกินนั้นมันมีกากหรือเส้นใยพอเพียงหรือเปล่า และคุณนุชดื่มน้ำพอเพียงสักขนาดวันละ 4 แก้วได้เปล่า นอกไปจากนั้นถ้าเครียดหรือกังวลกับสิ่งใด ๆ มากก็ทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ บางคนคิดว่าจะต้องถ่ายทุกวันพอตัวเองไม่ถ่ายก็เกิดเป็นทุกข์ขึ้นมา ต้องกินยาถ่ายหรือยาระบายประจำ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ผิดมาก ๆ จนกระทั่งว่าจะกลายเป็นเจ็บป่วยมาก ๆ สักวันหนึ่งได้เลยนะครับ เพราะฉะนั้นอย่ากินยาถ่ายเป็นประจำเป็นอันขาด

ระบบย่อยของคนเราไม่เหมือนกัน บางคนย่อยช้า ก็อาจจะถ่าย 2 วันครั้งก็ไม่เป็นไร ถ้าการถ่ายนั้นเป็นไปตามปรกติ อุจจาระไม่ได้เป็นก้อนแข็ง หรือบางคนระบบย่อยทำงานดีย่อยได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งขึ้นอยู่กับอาหารที่กินด้วย ถ้าคุณชอบกินผักใบอ่อน เช่น ผักกาดหอม ผักกาดแก้ว และผลไม้มาก กินข้าวมากอย่างนี้คุณก็อาจจถ่ายวันละ 2-3 ครั้งได้ ชาวหรรษาที่อายุยืนกว่า 100 ปี นั้นถ่ายวันละ 2-3 ครั้ง เป็นประจำ และเขาชอบกินผักผลไม้มาก

คำถามอีกข้อหนึ่งของคุณนุชก็คือ คุณนุชออกกำลังกายเป็นประจำหรือเปล่า ถ้าเผื่อไม่ออกกำลังกายเลย นั่งอยุ่ในออฟฟิศเป็นประจำ กินอาหารถุงหรืออาหารแดกด่วนทุกวัน แถมยังเครียดด้วย ท้องก็ผูกแหง ๆ และก็เป็นอาการซึ่งควรจะแก้ไขด่วนเลยนะครับ

อ้อ อีกคำถามหนึ่งครับ คุณนุชกินยาประเภทฮอร์โมน (เช่นยาคุม) ยาประเภทสเตียรอยด์ หรือยาแก้ปวดเป็นประจำหรือเปล่า ยาเหล่านี้ทำให้ท้องผูกได้เหมือนกัน

ที่สำคัญที่สุดคือ ไม่ใช้ท้องผูกอย่างเดียวแต่ถ่ายออกมาเป็นเลือด หรือเวลาถ่ายปวดท้องเป็นประจำ อย่างนี้อย่าปล่อยไว้นะครับ รีบหาหมอตรวจให้ละเอียดสักทีเถอะ

ทีนี้พูดถึงเรื่องวิธีแก้ทั่ว ๆ ไป ขอเริ่มด้วยการกินก่อน ขอให้ใช้อาหารสูตรชีวจิตนะครับ (ได้บอกสูตรไว้ในตอนที่ 3 แล้ว) สูตรอาหารชีวจิตเป็นสูตรที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์สำหรับคนไทยทั่วไป คือเรากินข้าวซ้อมมือหรือข้าวแดงเป็นหลัก มีผักสดและผักสุก และมีโปรตีนจากพืช เช่น ถั่วต่าง ๆ ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วเหลือง และมีกลุ่มเบ็ดเตล็ด ซึ่งทั้งหมดมีอาหารครบหมู่ มีกากใยมาก และมีวิตามินและแร่ธาตุครบ

แต่ถ้าคุณต้องการกากใยมากเป็นพิเศษ ก็ใช้ผักพวก ผักบุ้ง คะน้า บล็อกเคอรี่ กะหล่ำปลี หัวปลี ผักตำลึงมาก ๆ พวกนี้มีกากใยมาก

และควรจะเพิ่มพวกกากที่ช่วยหล่อลื่น เช่น มันต่าง ๆ มันฝรั่ง มันเทศ เผือก และกล้วยน้ำหว้า ได้ทั้งนั้นครับข้อสำคัญเวลาคุณกิน ต้องเคี้ยวช้า ๆ นะครับ อย่ารีบกิน เคี้ยวอาหารสักคำละ 30 ครั้งจะดีที่สุด อาหารย่อยได้ละเอียด และกินอาหารได้รสอร่อยเต็มที่ด้วย

ควรจะเพิ่มจมูกข้าว งาคั่วป่น รำข้าวคั่ว โรยไปในอาหารด้วย และถ้าอาจจะขาดวิตามินบางตัว ก็กินเป็นอาหารเสริมคือ วิตามินปี 1, บี 6, บี 12 อย่างละเม็ดสัก 2 อาทิตย์ก็พอครับ และอย่าเครียด อย่าลืมเรื่องออกกำลังกายเป็นประจำด้วยนะครับ

ลองงดของหวานจัด ๆ เช่น น้ำอัดลม ไอศกรีม ขนมเค้กต่าง ๆ เสียสักพัก ระบบประสาทคุณจะดีขึ้น หายปวดหัว หายเครียด และช่วยไม่ให้ท้องผูกด้วย

2. เรื่องสารพิษที่เกิดในพืชผักและอาหารนั้น เป็นเรื่องใหญ่มากนะครับ และเป็นเรื่อง เกี่ยวกับการเงินการลงทุนก้อนใหญ่มหาศาลเหลือประมาณ เงินก้อนใหญ่จนกลายเป็นเรื่องการเมืองและเรื่องคอรัปชั่นระดับชาติ เพราะฉะนั้น การที่คนตัวเล็ก ๆ อย่างเราจะไปแก้ปัญหาเรื่องปุ๋ยเคมี เรื่องสารพิษคงเป็นเรื่องยาก อย่างเหลือเกิน แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับตัวเราเองก็คงจะแก้ให้ตัวเราเองด้วยการ ผ่อนหนักเป็นเบาได้ อย่างเช่นการล้างผักหลาย ๆ ครั้ง ล้างด้วยน้ำพอจะช่วยได้บ้าง แต่สารพิษก็ออกไม่หมดหรอกครับ

ล้างด้วยน้ำโซดาช่วยได้บ้าง และใช้น้ำยาล้างผักที่เขาขายก็ช่วยได้บ้างเหมือนกัน แต่จะให้สารพิษหมดไปเลยคงเป็นไปไม่ได้ แต่คงผ่อนหนักเป็นเบาเท่านั้น

เรื่องสารพิษที่เกิดขึ้นจากปุ๋ยเคมี จากยาฆ่าแมลง ยาปราบศัตรูพืชนั้นเป็นปัญหาใหญ่ ระดับชาติ ดังที่ผมพูดแล้ว การแก้ไขจะต้องแก้จากระดับสูงสุด คือการเอาจริงเอาจัง จากภาครัฐบาล การปฏิบัติและการตรวจตราอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ต้องได้รับ ความร่วมมือจากพ่อค้า และที่สำคัญที่สุดต้องได้รับความร่วมมือหรือเรียกร้องอย่างจริงจัง จากประชาชนผู้บรโภคด้วย

คุณนุชกับผมก็เป็นประชาชนเหมือนกัน เรามาช่วยกันร่วมมืออย่างจริงจังก่อนดีไหมครับ ทางแก้อีกทางหนึ่งก็คือปลูกผักกินเอง หาที่แปลงเล็กขนาด 1x2 เมตร หว่านเมล็ดผักบุ้งจีนไว้สักพัก ผักบุ้งขึ้นแล้วก็ตัดกินได้ตลอดปี หรือถ้าไม่มีที่ก็เอาผักข้างรั้วก็ได้ครับ ผักตำลึงก็ปลูกได้ ถั่วพู ถั่วฝักยาว ก็ปลูกข้างรั้วได้ทั้งนั้นแหละครับ

ขอให้คุณนุชมีสุขภาพดี สบายกาย สบายใจ โล่งโถงไปหมด ตลอดหัวถึงเท้าเลยนะครับ

สาทิส อินทรกำแหง


[กลับไปสารบัญชีวจิต]   [BACK TO LISTS - FOODS]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600
1