มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://geocities.datacellar.net/Tokyo/Harbor/2093/

[ จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันอาทิตย์ เริ่ม อาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2541 ]

ปั้นชีวิตใหม่ด้วยชีวจิต

โดย ดร. สาทิส อินทรกำแหง


8 โครงการพัฒนาระบบทางเลือกใหม่ ในการดูแลสุขภาพ

มื่ออาทิตย์ที่แล้ว (วันที่ 12-14 ตุลาคม) ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลฯ จัดให้มีการประชุมสัมมนา "โครงการพัฒนาระบบทางเลือกใหม่ในการดูแลสุขภาพ"

ชื่อการประชุม อาจจะฟังดูยืดยาว และเป็นทางการไปนิดหนึ่ง แต่แท้ที่จริงนั้น ถ้าเราเอาให้สั้นและรวบรัดที่สุด การประชุมนี้ก็คือ การประชุมเรื่องชีวจิต นั่นเอง

ความต้องการของที่ประชุมมีอยู่ 3 ประการคือ

1. ที่ประชุมต้องการศึกษาเรื่องชีวจิต

2. ต้องการรู้ว่าการรักษาตามแนวชีวจิต จะเป็นส่วนหนึ่งของการแพทย์ทางเลือกได้หรือไม่

3. ถ้าเป็นส่วนหนึ่งของแพทย์ทางเลือก จะนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อคนไข้ และประชาชนทั่วไปอย่างไร

วิทยากรจากชีวจิตมีทั้งแพทย์ พยาบาล ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวทรีชั่น ผู้ป่วยและผู้ที่ปฏิบัติตัวตามแนวชีวจิตรวม 10 คน

ผู้เข้าร่วมสัมมนามีแพทย์ 33 คน ทันตแพทย์ 6 คน เภสัชกร 1 คน พยาบาล นักโภชนาการ นักวิชาการสาธารณสุข นักจิตวิทยา และนักกายภาพบำบัดอีก 91 คน แพทย์ พยาบาล และผู้ที่อยู่ในวงการบำบัดทั้งหมด 124 คน

และยังมีผู้ที่สนใจจากภายนอก เข้าร่วมสัมมนาทั้งหมดแล้วกว่า 200 คน

ผลของการประชุม คงจะมีการบันทึก และรายงานการประชุมออกมาในไม่ช้า แต่จากการสรุปในที่ประชุม ตอนบ่ายวันสุดท้ายนั้น ความต้องการ 2 ประการแรกของที่ประชุมได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดี

ที่ประชุมต้องการเรียนรู้เรื่องชีวจิต ที่ประชุมมองเห็นภาพชัดว่า ชีวจิตคืออะไร เห็นว่าชีวจิตคือ การแพทย์ทางเลือกแขนงหนึ่ง และเห็นได้ชัดยิ่งขึ้นว่า ชีวจิตจะช่วยให้สุขภาพทั่วไปของประชาชนดีขึ้น และมีวิถีชีวิตที่ถูกต้องมากขึ้น

สำหรับความต้องการข้อที่ 3 ที่เมื่อเห็นว่า ชีวจิตเป็นส่วนหนึ่งของการแพทย์ทางเลือกแล้ว จะนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อคนไข้และประชาชนทั่วไปอย่างไรนั้น คงจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งก่อนจะลงมือปฏิบัติได้

คงจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับการปฏิบัติของราชการ สิ่งใดที่เป็นของใหม่ ระเบียบ และกฎเกณฑ์ในการปฏิบัติตน จะต้องใช้เวลากลั่นกรอง ชี้แจง และต้องผ่านหน่วยงานต่างๆ อีกมากมาย

แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีผู้ใดในที่ประชุมเห็นว่าชีวจิตเอาไปใช้ในเรื่องการแพทย์แบบผสมผสานไม่ได้ มีแต่การเรียกร้องให้จัดการประชุมต่อไปอีก และเรียกร้องให้มีการฝึกอบรมในแขนงต่างๆให้ละเอียดและลึกกว่านี้

ในเรื่องชีวจิตเป็นวิทยาศาสตร์ เชื่อถือได้หรือไม่นั้น ไม่มีผู้ใดแสดงความสงสัย

และในเรื่องของการรักษาโรคหนึ่งโรคใดโดยเฉพาะนั้น ทางชีวจิตจะมองเรื่องการเจ็บป่วยเป็นแบบองค์รวม มากกว่าจะเป็นการรักษาเฉพาะอาการ

ที่ประชุมให้ความสนใจมาก

อย่างยกตัวอย่างง่ายๆ จะเป็นการปวดประจำเดือน (Dysmenorrhea) ซึ่งเป็นอาการประจำตัวของคุณผู้หญิงหลายๆ คน การรักษาโดยทั่วไป ก็คงจะให้กินยาแก้ปวด ซึ่งพออาการปวดหายไปแล้ว ก็แล้วไป

แต่พอถึงครั้งที่มีประจำเดือนครั้งต่อๆ ไป ก็จะปวดอีก ก็ต้องกินยาแก้ปวดอีก และครั้งต่อไปไม่ว่าจะกี่ครั้ง ก็คงจะแก้ด้วยการกินยาแก้ปวดอย่างเดียวเท่านั้น

แต่ในด้านชีวจิต เราพยายามจะดูให้หมดทั้งตัว การปวดประจำเดือน ไม่ได้หมายถึงการปวดท้องประจำเดือนอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องไปถึงความบกพร่องของร่างกายด้านอื่นๆ ด้วย

นอกไปจากนั้น การปวดท้องประจำเดือน ยังรวมไปถึงการปวดหลัง การเป็นตะคริว การเวียนปวดหัว การอาเจียน และความผิดปรกติทางฮอร์โมนด้วย

และบางครั้งอาการปวดนี้ ก็จะเป็นสาเหตุติดต่อไปถึงการเป็นเนื้องอก หรือก้อนเนื้อบริเวณมดลูก (Endometriosis) ด้วย ซึ่งถ้ามาถึงขั้นนี้ อาการปวดประจำเดือนธรรมดาๆ ก็กลายเป็นเรื่องไม่ธรรมดาไปเสียแล้ว

แถมเมื่อไม่ใช่เรื่องปวดประจำเดือนธรรมดาๆ กันแล้ว ยังมีเรื่องภายในครอบครัว หรือเรื่องลับๆ ภายในเข้าเกี่ยวข้องด้วย อย่างเรื่องของเพศสัมพันธ์ ระหว่างผัวเมียหรือระหว่างคู่รัก เป็นต้น บางครั้งก็มีการเจ็บปวดเข้ามาแทรก และก็เลยกลายเป็นปัญหาทางใจ หรือทางจิตระหว่างครอบครัวไป

แล้วชีวจิตดู หรือแก้กันอย่างไร ถ้าการเริ่มต้นด้วยการตรวจอย่างละเอียดทางการแพทย์แผนปัจจุบัน ผลของการตรวจนั้น จะช่วยให้สภาพของฮอร์โมนเป็นที่เข้าใจกันได้มากขึ้นว่า การปวดประจำเดือน หรืออาการประกอบอย่างอื่น เช่นการมีปัญหาเรื่องกระดูก หรือเรื่องของเนื้องอก หรือก้อนเนื้อบริเวณมดลูกนั้น มีที่มาที่ไปอย่างไรกัน

และการแก้พื้นฐานของชีวจิตก็คงอยู่ที่ว่า "คุณกินถูกแล้วหรือยัง"

และถ้าคุณคิดว่ากินถูกแล้ว แต่วิตามินอาจจะยังไม่พอ เราจะแนะนำให้ใช้วิตามินเสริม คือ วิตามินเอ วิตามินบี แพนโทเทนิค แอซิก และอาหารที่ใช้ปรุงนั้น ควรจะใช้นํ้ามันประเภทไม่อิ่มตัว เช่น นํ้ามันงา นํ้ามันถั่วเหลือง นํ้ามันมะกอก เป็นตัวช่วยในการประกอบอาหารด้วย

วิตามินและนํ้ามันประเภทไม่อิ่มตัวนั้น เป็นตัวช่วยสร้างฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรน ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน และความรู้สึกคึกคักทางเพศ (ทั้งหญิงและชาย) ด้วย

จะเห็นว่าถ้าจะเริ่มแก้ตามแนวชีวจิต การเริ่มต้นต้องแก้ด้วยการกินอาหารที่ถูก จะเป็นการป้องกันการเกิดการผิดปรกติ และถ้ามีอาการผิดปรกติอย่างอื่น การเสริมด้วยวิตามิน และแร่ธาตุ จะเป็นการแก้ซึ่งง่ายไม่ยุ่งยาก และยังเป็นการป้องกันเหตุต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้เกิดโรคภัยต่างๆ นั้นหมดไปด้วย

และผลพลอยได้อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งหลายคนคงจะพอใจก็คือ มีความสุขทางเพศในครอบครัวของตนเองมากขึ้น

นี่คือตัวอย่างซึ่งทางชีวจิตได้นำเสนอต่อที่ประชุม ว่าเป็นแนวทางแก้ไข หรือการรักษาแบบผสมผสาน ซึ่งพิสูจน์ได้ว่า

1. ไม่มีอันตรายใดๆ

2. เป็นวิทยาศาสตร์ซึ่งมีเหตุผล

3. ประชาชนส่วนมากจะช่วยตนเองได้เลือกวิธีรักษาได้ (สิทธิคนไข้ตามรัฐธรรมนูญใหม่) และราคาถูก

แต่สิ่งที่ผมสนใจมากที่สุดก็คือ ความสนใจและการสนับสนุนของฝ่ายมหาดไทย ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลฯ คุณศิวะ แสงมณี ได้ให้ความสนใจในเรื่องสุขภาพประชาชน และท่านได้สนับสนุนโครงการ ซึ่งท่านต้องการเห็นสุขภาพประชาชนว่า เป็นเรื่องสำคัญสูงสุดในชีวิตประจำวันของมนุษย์เรา

ท่านได้ชี้ให้เห็นว่า "เรื่องสุขภาพ ไม่ใช่เรื่องของสาธารณสุขแต่ฝ่ายเดียว แต่ยังเป็นเรื่องของมหาดไทยโดยตรงด้วย"

ขออนุญาต เขียนถึงความเห็นของท่านต่อไปในฉบับหน้าครับ (คอร์สที่จะจัดเดือน พ.ย. เต็มแล้ว).

สาทิส อินทรกำแหง


[กลับไปสารบัญชีวจิต]   [BACK TO LISTS - FOODS]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600
1