เรียบเรียงโดย เภสัชกรหญิง ธิดา นิงสานนท์
เรื่องสวยๆงามๆ" เป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนพึงปรารถนา ขนาดผู้หญิงที่สวยระดับนางงามจักรวาล หรือดาราฮอลลี่วู๊ด ยังต้องเสริมความงามให้มกาขึ้นเป็นทวีคูณ บ้างก็ลงทุน ศัลยกรรมความงามกันยกใหญ่ บ้างก็เพียงแค่ แต่งแต้มเครื่องสำอางสีสวย
แน่นอนว่า เครื่องสำอาง ช่วยบันดาลความงามให้กับผู้หญิง แต่บางที เครื่องสำอาง อาจแฝงไปด้วยอันตราย ที่คุณมองไม่เห็น ก็เป็นได้ โดยเฉพาะคนที่ชอบซื้อเครื่องสำอาง จากคำบอกเล่า ของเพื่อน หรือคำเชิญชวน จากคนขาย ทั้งนี้ก็เพราะ ผิวของคนเรา ไม่เหมือนกัน
ฉะนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อ เครื่องสำอางมาใช้ ต้องแน่ใจว่า เครื่องสำอางนั้น จะไม่ทำให้ หน้าคุณพัง
โดยมีหลักการเลือกซื้อเครื่องสำอางดังนี้
ควรเลือกซื้อเครื่องสำอางตามความเหมาะสมกับตนเอง อย่าซื้อตามคนอื่น หรือซื้อเพราะเพื่อนแนะนำ เพื่อความแน่ใจ คุณอาจต้องทดลองใช้ก่อน โดยการทาเครื่องสำอาง บริเวณท้องแขน หรือหลังใบหูเช้า-เย็น โดยไม่ต้องเช็ดออก ประมาณ5-7 วัน ถ้าไม่มีอาการบวมแดง หรือเป็นผื่นคันๆ ก็หมายความว่า ใช้เครื่องสำอางนั้นได้ โดยไม่แพ้ บางคนใช้เครื่องสำอางที่เพื่อนๆบอกว่าดีเหลือเกิน แล้วกลับหน้าเห่อ ก็ยังดื้อ จะใช้ต่อไป เพราะเสียดาย ทำให้อาหการแพ้ ยิ่งมากขึ้น ทางที่ดี ควรหยุดใช้ทันที ที่มีอาการ ที่แสดงว่าแพ้
ควรเลือกซื้อเครื่องสำอาง จากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ มีชื่อผู้ผลิต และที่อยู่ พิมพ์ไว้ชัดเจนบนกล่องบรรจุ ไม่ควรซื้อเครื่องสำอาง ตามแผงลอย หรือหาบเร่ เพียงเพราะสีสวย ราคาถูก เพราะอาจได้เครื่องสำอางปลอม ที่ไม่ได้มาตรฐาน
ไม่ควรซื้อเครื่องสำอางครั้งละมากๆ เพื่อเก็บไว้ใช้นานๆ เนื่องจากเครื่องสำอาง ซื้อจากต่างประเทศ ราคาถูกกว่าในเมืองไทย หลายๆท่านจึงตุนเครื่องสำอาง โดยซื้อยกโหล ซึ่งอาจหมดอายุไปก่อน ที่จะมี โอกาส ได้ใช้ ถ้าจะซื้อครั้งละมากๆ ควรกะประมาณได้ว่า จะใช้หมดภายในเวลาเท่าใด อย่างมากไม่ควรเกิน 2 ปี การเก็บเครื่องสำอางก็มีความสำคัญ เพราะอุณหภูมิบ้านเรา สูงกว่าในต่างประเทศ เครื่องสำอาง ที่มี ส่วนผสม ของไขมัน และน้ำมันสูง อาจจะมีกลิ่นหืนได้ง่าย พวกโลชั่น หรือครีม ถ้าเก็บไม่ดี จะมีการแยก เป็นชั้นน้ำ และชั้นน้ำมัน กลิ่นก็จะเปลี่ยนไป จึงควรเก็บเครื่องสำอางไว้ในที่เย็น จะทำให้เก็บได้ทนนาน แต่ก็ไม่ควรเกิน 2 ปี
ไม่ควรซื้อเครื่องสำอางเก่า ก่อนซื้อเครื่องสำอางทุกครั้ง ต้องดูให้ดีก่อนว่า มีสี กลิ่น หรือความข้น เปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่
ภาชนะที่บรรจุเครื่องสำอางที่มีคุณภาพ ต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ บรรจุภัณฑ์ ไม่ฉีกขาดหรือแตก เพราะอาจมีสิ่งสกปรกปนเปื้อนได้
สิ่งสุดท้ายที่ต้องสังเกต คือฉลากเครื่องสำอาง ควรอยู่ในสภาพเรียบร้อย ไม่ฉีกขาด มีข้อความภาษาไทย ที่อ่านได้ชัดเจน มีรายละเอียด ชื่อชนิด เครื่องสำอาง ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต หรือผู้นำเข้า ครั้งที่ผลิต วันเดือนปี ที่ผลิต วิธีใช้ ปริมาณสุทธิ และคำเตือนในการใช้
เท่านี้คุณก็จะได้เครื่องสำอางที่เหมาะสมกับผิวของคุณเอง แถมยังเป็นเครื่องสำอางที่ได้มาตรฐานเสียด้วย
การทำความสะอาดใบหน้า ก่อนแต่งแต้มสีสัน ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไร เพียงแค่ล้างหน้าให้สะอาด ทาโลชั่น บำรุงผิว และครีมกันแดด ก่อนออกจากบ้าน ความยุ่งยากอยู่ที่ การล้างเครื่องสำอางออกต่างหาก คือ ต้องขจัด คราบเครื่องสำอาง ออกให้เกลี้ยงเกลา โดยเฉพาะรองพื้น แป้งผัดหน้า เพราะถ้าล้างออกไม่หมด มันจะอุด รูขุมขน ทำให้สิ่งสกปรก รวมทั้งไขมัน ตกค้างอยู่ใต้ผิวหนัง ดันผิวหนังบริเวณนั้น ให้โป่งเป็นเม็ดขึ้นมา ดังนั้นเมื่ออยากจะใช้เครื่องสำอาง ก็ต้องขยันทำความสะอาดใบหน้า ให้หมดจดด้วย
การแพ้เครื่องสำอาง
สารหลายชนิด ที่เป็นส่วนผสม ในเครื่องสำอาง เป็นตัวทำให้เกิดการแพ้ เช่น สารหล่อลื่น, ลาโนลิน, สีที่ใช้, ตลอดจนน้ำหอมที่ใช้แต่งกลิ่น หรือน้ำหอมที่ใช้ทาตามตัว ทำให้เกิดกลิ่นชวนดม ซึ่งบางคนใช้แล้ว เกิดจุดดำตรงบริเวณที่ใช้ เป็นต้น
การแพ้เครื่องสำอาง บางครั้งอาการไม่ปรากฏบริเวณที่ใช้ เช่น แพ้ยาทาเล็บ แต่อาการไปปรากฏที่เปลือกตา เนื่องจากเล็บที่ทาสีสวยนั้น ไปถูกเปลือกตา ทำให้บวมแดงและคัน เพราะผิวบริเวณเปลือกตา จะบางมาก ทำให้แพ้ได้ง่าย ยาย้อมผม หรือสเปรย์ฉีดผม ก็เช่นกัน ที่ทำให้อาการแพ้ไปปรากฏที่เปลือกตาได้
ข้อคำนึงในการใช้เครื่องสำอาง
main |