ง. ใบหน้าเฉลี่ยของผู้หญิง
ทั้งสวยและไม่สวย
จ. ใบหน้าเฉลี่ยของผู้หญิง ที่จัดว่าสวย
ฉ. ใบหน้าที่ได้รับการแปลงโฉม ด้วยคอมพิวเตอร์
|
|
คิดได้อย่างนี้แล้ว
เขาก็สุ่มเอาผู้หญิงอังกฤษ 60 คน
(อายุ 20-30 ปี)
มานั่งวางหน้าเรียบเฉยแล้วถ่ายรูป
จากนั้นจึงให้กรรมการชุดที่หนึ่ง
ซึ่งประกอบด้วย หญิง 26 คน
(อายุ 18-45 ปี)
และชาย 10 คน (อายุ 19-24 ปี)
ตัดสินความสวยของรูปถ่ายทั้ง 60 ใบ
โดยให้คะแนนจาก 1 (ไม่สวย)
ไปจนถึง 7 (สวยเริ่ด)
ต่อมาก็อาศัยวิชาวสถิติเข้าช่วย
เพื่อลดความลำเอียงในการแปลผล
เสร็จแล้วก็กำหนดตำแหน่งบนใบหน้าเป็น
224 ตำแหน่ง เช่น
ปลายจมูกเป็นตำแหน่งที่ 1
และสั่งให้โปรแกรมคอมพิวเตอร์
เฉลี่ยเอาลักษณะต่างๆ
บนใบหน้ามาวาดเป็นภาพสายเส้นดังรูป
ง. ข้างซ้ายนี้ จากนั้น
ก็รวบรวมข้อมูลจากใบหน้าของผู้หญิง
ที่กรรมการคัดแล้วว่าสวย (คะแนนสูงๆ)
จำนวน 15 คน
แล้วใช้วิธีเดียวกันให้ได้ภาพลายเส้น จ.
ส่วนภาพ ฉ. นั้น
เขาใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์
เป็นมีดผ่าตัดทำศัลยกรรม
ให้ลักษณะบางอย่างเปลี่ยนไป
เช่น สันจมูกโด่งขึ้น ตาโตขึ้น
อะไรทำนองนั้น ขั้นสุดท้าย
เราก็เติมสีสันให้ภาพลายเส้นทั้งสาม
มีผิวพรรณเป็นผู้คนอย่างที่คุณได้เห็นแล้ว
ในตอนต้นเรื่อง
(รูป ก. ข. และค.)
แล้วให้กรรมการชุดที่สองตัดสิน
กรรมการชุดหลังนี้เป็นชายและหญิง
อย่างละ 18 คน อายุระหว่าง 22-46 ปี
กรรมการแต่ละคนได้รับรูปเป็นคู่ๆ
เช่น ก. กับ ข.,ข. กับ ค., หรือ ก. กับ ค.
แล้วตัดสินว่ารูปไหนสวยกว่า
ถึงตอนนี้คุณคงอยากมั่งล่ะน่า
ว่าผลเป็นยังไง คำตอบก็คือ
กรรมการทั้งหญิงและชายชอบรูป ข.
มากกว่า ก. และชอบรูป ค. มากกว่า ข.
เท่านี้เอง เขาก็สรุปว่า
ความสวยไม่ใช่แค่ลักษณะเฉลี่ย
ของอวัยวะต่างๆ บนใบหน้าเท่านั้น
เพราะ
|