มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://geocities.datacellar.net/Tokyo/Harbor/2093/

[ คัดลอก จากนิตยสารใกล้หมอ ปีที่ 22 ฉบับที่ 5 พฤษภาคม 2541 ]

โรคโพรงอากาศอักเสบ (Sinusitis)

พญ.จันทรา เจณณวาสิน


ถ้าท่านมีอาการปวดหัวรอบกระบอกตา หน้าผาก รู้สึกแน่นในโพรงจมูก หายใจไม่สะดวกทางจมูก ขนาดต้องหายใจทางปาก เป็นหวัดเรื้อรังไม่หาย หรือทุเลาเกินเวลาสามสี่วัน ถ้าท่านมีน้ำมูกไหลออกมาข้างนอก หรือตกลงไปข้างหลังคอ โดยเฉพาะเมื่อน้ำมูกมีสีเหลือง หรือแกมสีเขียว อาการดังกล่าวเกิดขึ้นตามฤดูกาล โดยเฉพาะช่วงที่มีฝุ่นละออง (pollen) มาก ในฤดูใบไม้ผลิ, ใบไม้ร่วง นั่นหมายถึง ว่าท่านคงมีปัญหาเกี่ยวกับโพรงอากาศบริเวณรอบจมูก เรียกกันว่า โรคไซนัส หรือโรคโพรงกระดูกอักเสบ (Sinusitis)

โพรงอากาศหรือโพรงกระดูก (Sinuses) คือ ช่องว่างในกระดูกกระโหลกศีรษะ มีอากาศบรรจุอยู่ เพื่อช่วยทำให้กระดูกกระโหลกศีรษะเบาขึ้น ส่วนอากาศที่อยู่ในโพรงจมูกและใบหน้า ช่วยในการ เปล่งเสียง โพรงอากาศเหล่านี้ บุด้วยเยื่อบุที่ผลิตน้ำเมือกเหนียวใส และมีท่อเปิดเข้าไปในโพรงจมูก ตามตำแหน่งต่าง ๆ ถ้าเกิดปัญหาใด ๆ ที่ทำให้น้ำเมือกเหนียวคั่งค้าง อยู่ในโพรงอากาศเหล่านี้ ย่อมก่อให้เกิดอาการไม่สบายดังกล่าวแล้ว ตามปกติเมื่อน้ำเหนียวไหลจากท่อของโพรงอากาศ เข้าสู่ช่องจมูกและเมือก ด้านหลังของลำคอ น้ำเมือกช่วยกวาดล้างฝุ่นและเชื้อโรคแบคทีเรีย ลงสู่กระเพาะอาหาร ซึ่งมีน้ำกรดคอยทำลายเชื้อโรคพวกนี้ อีกทอดหนึ่ง น้ำเมือกเหนียวนี้คือ น้ำมูก และส่วนประกอบของเสมหะด้วย

ปัญหาที่ก่อให้เกิดการอักเสบของโพรงอากาศ ได้แก่

โรคโพรงอากาศอักเสบ ที่เกิดขึ้นในระยะสั้นส่วนมากเกิดตามหลังโรคติดเชื้อในระบบ ทางเดินลมหายใจส่วนบน ที่พบบ่อย คือ โรคหวัดธรรมดานี่เอง เชื้อโรคทำให้ขน (Cilia) ที่อยู่ตามเยื่อบุไม่ทำหน้าที่โบกกวาดน้ำมูกน้ำเมือกออกจากโพรงอากาศ เข้าสู่ท่อ ไปยังด้านในของจมูกและด้านหลังของช่องปากตามปกติ แต่เมื่อเชื้อโรคถูกทำลายไป โดยการรักษาเยียวยาที่ถูกต้อง ขนในเยื่อบุเหล่านี้สามารถฟื้นคืนกลับมาทำหน้าที่ตามปกติได้ ยกเว้นกรณีเกิดการอักเสบเรื้อรัง หรือในโรคภูมิแพ้ระยะนานทำให้ขนเหล่านี้ถูกทำลาย เยื่อบุสูญเสียลักษณะประจำตัวในการผลิตน้ำมูกใส กลับกลายเป็นพังผืดหนาขึ้นมาแทนที่ ดังนั้น การรักษาโดยทันท่วงทีเป็นสิ่งสำคัญมาก ก่อนที่ถึงขั้นแก้ไม่ได้จนขนาดประสาทในการดมกลิ่น มีประสิทธิภาพของการทำงานลดลง และต้องหายใจทางปากหรือทางจมูกเพียงข้างเดียว

การป้องกันตนเองจากโรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ ป้องกันการบวมแดงของเยื่อบุโพรงอากาศ โพรงจมูก ที่เกิดจากการแพ้อากาศ มลพิษภาวะต่าง ๆ โดยยาที่ลดการบวมของเยื่อบุ (decongestant, antihistamines) ถ้ามีการติดเชื้อแบคทีเรีย นั่นหมายถึงการพึ่งยาปฏิชีวนะช่วยฆ่าเชื้อโรค นอกจากนี้ท่านควรช่วยดูแลตัวของท่านเองโดย

1. การดื่มน้ำมาก ๆ ประมาณหนึ่งแก้วทุกหนึ่งหรือสองชั่วโมง เพื่อช่วยให้น้ำมูกคลายความเหนียวลง จนไหลได้สะดวกขึ้น เครื่องพ่นไอน้ำเพิ่มความชื้นของอากาศในห้องที่พักอยู่ ช่วยร่วมกระบวนการ เดียวกัน
2. การใช้น้ำเกลือพ่นล้างในจมูก โดยใช้ลูกยางบีบน้ำเกลือผสมที่มีสัดส่วนดังนี้คือ เกลือหนึ่งในสี่ช้อนชาผสมกับ Baking Soda ในสัดส่วนเท่ากัน เจือด้วยน้ำอุ่นแปดออนซ์ การใช้ลูกยางบีบน้ำเกลือพ่นเข้าไปในรูจมูกวันละสองสามครั้งนี้ อาจใช้น้ำเกลือที่ผสมขาย ตามร้านขายยาได้
3. การใช้ความร้อนหรือความเย็น ช่วยประคบบริเวณใบหน้าแถบ โพรงอากาศที่มีน้ำมูก น้ำเมือกคั่งค้างอยู่ ช่วยลดอาการเจ็บปวดทรมาน

ในรายที่เกิดปัญหาเรื้อรัง อาจต้องใช้เครื่องมือส่องกล้อง (Endoseopic Surgery) เข้าไปเปิด ทางเดินเก่าดั้งเดิมของน้ำมูกหรือตัดเอาริดสีดวงจมูกออก บางรายอาจต้องทำการผ่าตัด เปิดทางเดินใหม่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์แต่ละกรณีไป

คนที่เกิดอาการของโพรงอากาศอักเสบ ย่อมรู้ซึ้งถึงความทรมานได้ดี ด้วยเหตุนี้ การป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด (และเป็นจุดประสงค์ในการที่ดิฉันเสนอบทความ ทางการแพทย์ต่อท่านผู้อ่าน) ท่านพึงระวังสุขภาพดูแลตัวของท่านเอง หลีกเหลี่ยงการติดโรคหวัด โรคหวัดใหญ่ และแก้ปัญหาโรคภูมิแพ้อากาศ ซึ่งเป็นต้นเหตุในการเกิดโรคโพรงอากาศอักเสบ ทั้งเฉียบพลันและเรื้อรัง เช่น นุ่งห่มให้ร่างกายอบอุ่น ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ เมื่อโรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ระบาด ท่านควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในกลุ่มชนที่แออัด และคนที่เป็นโรคนี้ ควรพยายามรักษาสุขภาพให้แข็งแรงโดยออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ นอนหลังพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้มาก เพื่อช่วยทำให้น้ำมูกเหลวลง เคลื่อนไหลออกจาก โพรงอากาศได้ง่าย ถ้าท่านใช้เครื่องพ่นไอน้ำควรตรวจดูเชื้อราที่อาจเกิดขึ้นในเครื่องได้ ท่านควรลดปริมาณการเสพกาแฟ หรือเครื่องดื่มมึนเมาซึ่งทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำได้ การสูบบุหรี่ เป็นการทำให้เยื่อบุจมูก และโพรงอากาศลดการผลิตเมือกน้ำมูกออกมา ซึ่งเป็นการลดกลไก ของการขับไล่เชื้อโรค ในขณะเดียวกันขนที่เยื่อบุทำงานลดลง เวลาที่ท่านขึ้นเครื่องบินเดินทางระยะยาว ท่านควรดื่มน้ำมากกว่าปกติ อาจจำเป็นต้องใช้น้ำเกลือพ่นในจมูก

บางคนที่มีอาการแพ้ ไอจามน้ำมูกไหล คัดจมูกควรได้รับการตรวจสอบว่า สารใด เช่น ผง ฝุ่นละอองเกสรดอกไม้ เชื้อราในอากาศ ทำให้เกิดอาการเช่นนั้นยามที่ต้องเผชิญกับฝุ่นละออง เช่น ขณะทำความสะอาดบ้านควรใช้ผ้าปิดปากปิดจมูก พยายามหลีกเลี่ยงอากาศนอกบ้าน ยามที่มีตัวการ ทำให้เกิดอากาศมาก เครื่องกรองอากาศ และเครื่องปรับอากาศที่มีเครื่องกรองอากาศอยู่ด้วย ช่วยลดจำนวนฝุ่นละออง แต่ตรวจเช็คดูส่วนที่ใช้ดักผงฝุ่นละอองฝนเครื่องเป็นประจำ

อย่างไรก็ตาม ถ้าท่านเกิดปัญหาโพรงอากาศอักเสบแล้ว ควรได้รับการดูแลจากแพทย์จนสบายดีหายใจได้สะดวก เพราะบางสาเหตุต้องใช้เวลานานในการเยียวยารักษา จนคนไข้เกิดอาการเอือมระอาในการไปหาแพทย์แต่ละครั้ง

พญ.จันทรา เจณณวาสิน


ขอบคุณนิตยสารใกล้หมอ ที่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600
1