นพ.ปรารพ ประภายสาธก
Seaweed หรือสาหร่ายทะเล หลายท่านอาจจะสงสัยนะครับว่า มีการนำเอาสาหร่ายทะเล มาใช้ในทาง cosmetics ด้วยหรือ เพราะส่วนมากก็คงเข้าใจว่า สาหร่ายทะเลนั้น ก็นำไปใช้ ในการปรุงอาหารซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ความจริงแล้วในปัจจุบันนี้ก็มีการนำเอาสาหร่ายทะเลมาใช้กันในเชิง cosmetics ด้วย บางท่านอาจจะยังมองไม่เห็นว่าสาหร่ายทะเลนั้นมีประโยชน์อย่างไร ยกตัวอย่างง่าย ๆ นะครับ เช่น ประเทสอิสราเอล ทั้ง ๆ ที่เป็นทะเลทราย แต่ทำไม่ถึงทำการเพาะปลูกได้ ก็เนื่องจากมีการนำเอาสาหร่ายทะเลมาใช้ไงล่ะครับ
ความจริงแล้วในทางการแพทย์ เราก็มีการนำเอาสาหร่ายทะเลมาใช้กันนานพอสมควรแล้ว ตั้งแต่สมัยโรมัน ต่อมาในปี ค.ศ.1896 แพทย์ชาวฝรั่งเศสชื่อ Dr.Rene Quinton Quote ได้บัญญัติคำว่า "Thalassotherapy" ซึ่งมีความหมายว่า "The usage of seaweed and sea water for the therapeutic and preventative measures" ซึ่งตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็ทำให้มีกลุ่มคนบางกลุ่ม ได้เริ่มให้ความสนใจและศึกษาเกี่ยวกับคุณประโยชน์ ของสาหร่ายทะเล
สาหร่ายทะเลจัดว่าเป็นพืชที่เกิดมาพร้อม ๆ กับโลก และจัดเป็นสิ่งแรกที่เริ่ม สังเคราะห์แสงได้ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสาหร่ายเป็นแหล่งผลิตก๊าซออกซิเจนให้กับโลกของเราถึง 70% เลยทีเดียว นอกจากจะสร้างอาหารโดยการสังเคราะห์แสงแล้ว สาหร่ายทะเลก็สามารถ สร้างอาหารโดยการดูดซึม (osmosis) เอาแร่ธาตุและสิ่งมีประโยชน์ทั้งหลายโดยตรง มาจากทะเลด้วย ดังนั้นคุณค่า และคุณประโยชน์ของสาหร่ายนั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของ น้ำทะเลเป็นสำคัญ แหล่งที่เก็บเกี่ยวสาหร่ายจึงจัดว่า มีความสำคัญอย่างมาก ในการพิจารณาถึงคุณประโยชน์ของสาหร่ายด้วย
ปัจจุบันมีการค้นพบว่ามีสาหร่ายอยู่ถึงประมาณ 20,000 ชนิดทั่วโลก ซึ่งก็พอจะแบ่งออก เป็นกลุ่มดังนี้
คุณประโยชน์ของสาหร่ายทะเลที่มีต่อผิวหนัง |
|
ส่วนประกอบในสาหร่ายที่ให้คุณค่าดังกล่าว คือ |
|
อย่างไรก็ตามถึงแม้สาหร่ายทะเลจะมีคุณค่าต่าง ๆ มากมาย แต่การเลือกผลิตภัณฑ์ ที่มีสาหร่ายเป็นส่วนประกอบนั้นก็มีความสำคัญ เพราะยังมีองค์ประกอบอีกหลายอย่าง ที่มีผลต่อคุณค่าของสาหร่ายรวมถึงผลิตภัณฑ์นั้น ๆ เช่น
- น่านน้ำที่เป็นแหล่งที่มาของสาหร่าย ถ้าเก็บเกี่ยวสาหร่ายมาจากน่านน้ำที่มีมลพิษสูง ก็จะได้สาหร่ายที่คุณค่าต่ำ
- การเก็บเกี่ยว สาหร่ายที่ทรงคุณค่ามากที่สุดคือ สาหร่ายที่ได้เก็บเกี่ยวจาก ท้องทะเลลึกโดยตรง ซึ่งจะเป็นสาหร่ายที่มีคุณค่ามากกว่าสาหร่ายที่ถูกพัดปลิว มาที่ชายฝั่ง (wreck seaweed) หรือสาหร่ายที่ขึ้นอยู่ตามชายหาด (shore seaweed)
- ขบวนการผลิต ถ้าเป็นสาหร่ายที่ได้มาจากการอบแห้งโดยใช้ความร้อน หรือจากการ ตากแดดให้แห้ง จะมีคุณค่าน้อยกว่าสาหร่ายที่ได้จากขบวนการแปรรูป จากความเย็น (cryocrushing)
- และข้อสุดท้ายก็คือ ผลิตภัณฑ์บางชนิด อ้างว่ามีสาหร่ายเป็นส่วนประกอบ แต่จะมีอยู่ในปริมาณค่อนข้างน้อยมาก ๆ ซึ่งทำให้เราไม่สามารถได้คุณประโยชน์ จากสาหร่ายได้อย่างเต็มที่
คราวนี้ลองมาดูถึงชนิดของสาหร่ายบางชนิดที่มีประโยชน์และนำมาใช้ในการผลิต เครื่องสำอาง เช่น
Enteromorpha compressa
มีคุณสมบัติในการ regeneration(งอก) และ healing properties(สมานแผล) ซึ่งเป็นผลมาจาก การมี ส่วนประกอบของวิตามินค่อนข้างสูง นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติ ในการช่วยเร่ง การไหลเวียนของ เส้นเลือดฝอย ซึ่งจะช่วยลดอาการช้ำและอาการบวมได้ สาหร่ายชนิดนี้ในปัจจุบันมีการนำมาใช้ในการผลิตเครื่องสำอางประเภท concealer ดังนั้น concealer ที่มีส่วนประกอบของสาหร่ายดังกล่าว จึงค่อนข้างจะมีประโยชน์ว่า concealer ทั่วไป (ในปัจจุบันเครื่องสำอางในกลุ่ม make up ที่มีส่วนผสมของ สาหร่ายทะเล มีเพียงยี่ห้อเดียว เท่านั้น คือ Repechage)
Codium corallina
เป็น red seaweed ที่มีส่วนประกอบของ calcium และ magnesium ในปริมาณค่อนข้างสูง (ซึ่งเชื่อว่ามีสัดส่วนค่อนข้างใกล้เคียงกับองค์ประกอบ ในร่างกายมนุษย์) สาหร่ายชนิดนี้ส่วนมากจะนำมาใช้ในการผลิต make up ประเภท powder based products เช่น pressed powder, eyeshadow, blushon ซึ่งคุณสมบัติของสาหร่ายชนิดนี้ ก็ช่วยป้องกันผิว จากแสงแดด (ultraviolet และ Infraredrays ) นอกจากนั้นแล้ว A, E และ C ที่เป็น ส่วนประกอบหนึ่งก็ยังทำหน้าที่เป็น antioxidant ช่วยต้านการทำลายผิวหนังจาก free radical ด้วย และคุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งคือ สาหร่ายชนิดนี้มีความสามารถจะอุ้มน้ำไว้ใน molecules ของตัวมันเอง (humectant) ดังนั้นจึงก่อให้เกิดความชุ่มชื้นแก่ผิวด้วย
Fucus vesiculosus
เป็น green seaweed ที่มีคุณสมบัติในการอุ้มความชื้นให้แก่ผิวหนังและยังมีฤิทธิ์ Bacteriacidal effect ด้วย สำหรับสาหร่ายชนิดนี้ก็มีการนำมาใช้เป็นส่วนผสมใน eye defining pencil และ lip defining pencil
Ascophyllum Nodosum
เป็น brown seaweed ซึ่งจัดว่าเป็นสาหร่ายที่มีคุณค่ามากที่สุดเพราะมีส่วนประกอบของ amino acids, vitamins และ minerals มากที่สุด ดังนั้น สาหร่ายชนิดนี้ จึงมักจะนำมาใช้ในการ ผลิตเครื่องสำอางประเภทถนอมผิวและบำรุงผิว
Laminaria Digitata
เป็น green seaweed อีกชนิดหนึ่งซึ่งมีคุณสมบัติค่อนข้างใกล้เคียงกับ brown seaweed ดังนั้นจึงนำมาใช้ในการผลิตเครื่องสำอางประเภทถนอนผิว และบำรุงผิวเช่นกัน
Aosa
จัดเป็นสารในกลุ่ม protein ที่เป็นองค์ประกอบในสาหร่ายบางชนิด มีคุณสมบัติในการ ยับยั้งการสร้าง elastase (ซึ่งเป็น enzyme ที่มาทำลาย elastin) ดังนั้น Aosa จึงมีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มปริมาณของ elastin ในผิวหนังนั่งเอง
เอาล่ะครับตอนนี้หลาย ๆ ท่านที่อ่านก็คงจะรู้จัก "seaweed" หรือสาหร่ายทะเล มากขึ้นนะครับ ว่านอกจากจะใช้มาเป็นส่วนประกอบในการทำอาหาร และในทางเกษตรกรรม ในปัจจุบันนี้ยังมีการนำเอามาใช้ในขบวนการผลิต เครื่องสำอางด้วย ซึ่งถ้าเราเลือกใช้ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สาหร่ายที่มีคุณภาพดี เราก็จะได้ประโยชน์กันอย่างเต็มที่จากสาหร่ายทะเล นะครับ
นพ.ปรารพ ประภายสาธก
main |