E-LIB Health Library for Thai : มันมากับหน้าฝน [haemorrhagic fever]

มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://geocities.datacellar.net/Tokyo/Harbor/2093/

[ คัดลอก จากหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ.2541]

มันมากับหน้าฝน

บุญตา เจนสุขอุดม

พอย่างเข้าเดือนหก ฝนก็เริ่มตกโปรบปรายลงมา ทำให้พื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง และขาดแคลนน้ำ กลับชุ่มฉ่ำขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งยังก่อให้เกิดน้ำขัง ตามแหล่งต่าง ๆ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ซึ่งเป็นพาหะนำเชื้อไข้เลือดออกมาสู่คน

ในปีนี้ ไข้เลือดออกมีการระบาดนอกฤดูฝนมาตั้งแต่เดือนมกราคม และเมื่อเข้าสู่ฤดูฝน ก็มีแนวโน้มว่าจะระบาดเพิ่มมากขึ้น จากสถิติของกองระบาดวิทยา สำนักงานปลัดกระทรวง สาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 มีผู้ป่วยด้วยโรค ไข้เลือดออก จำนวน 23,162 ราย (สูงกว่าปี 2540 ในทุกจังหวัดตั้งแต่ 2- 35 เท่า พบว่า ภาคกลางมีอัตราป่วยสูงสุด รองลงไป คือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคใต้) ตาย 62 ราย โดยพบอัตราตายสูงสุด ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ ร้อยละ 70 อยู่ในกลุ่มวัยเรียน อายุ 5-14 ปี เด็กที่เป็นโรคนี้ มักมีอาการแทรกซ้อน และอาจเสียชีวิตได้ ถ้าไม่รีบรักษา

อาการต่าง ๆของโรคไข้เลือดออกที่พบเห็นคือ เป็นไข้ ตัวร้อน คล้ายเป็นหวัด หน้าแดง แต่ไม่เจ็บคอ ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก ไข้จะสูง 2-3 วัน ต่อมาไข้จะลดอย่างรวดเร็ว ระยะนี้จะมีเลือดออก ตามไรฟัน เลือดกำเดาออก จุดเลือดออกใต้ผิวหนัง ผู้ป่วยจะซีด มือเท้าเย็น หายใจหอบ ปวดท้อง และอาเจียน ถ้าไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที อาจมีเลือดออก ในระบบทางเดินอาหาร สังเกตได้จาก อุจจาระเป็นสีดำ หรืออาเจียนเป็นเลือด ทำให้เสียเลือดมาก และอาจเสียชีวิตได้ เมื่อสงสัย ว่าจะเป็นไข้เลือดออก ควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัว เพื่อลดไข้ อย่าใช้ยาลดไข้เอง ถ้าจำเป็นควรใช้ยา พาราเซตามอล ห้ามกินยาแอสไพริน เพราะมีผลทำให้เลือดออกง่ายขึ้น ถ้ามีอาการเพลีย ให้ดื่มน้ำผลไม้ หรือน้ำเกลือแร่บ่อย ๆ และควรรีบไปรับการรักษา ที่สถานพยาบาล ที่อยู่ใกล้ทันที ไม่ควรรักษาเองโดยเด็ดขาด

ไข้เลือดออก เป็นโรคที่ไม่มียารักษาเฉพาะ และไม่มีวัคซีนป้องกัน ผู้ที่เป็นแล้ว อาจเป็นซ้ำได้อีก ทุกคนไม่ควรประมาท ควรป้องกันบุตรหลานของท่าน และตัวท่านเอง ให้ปลอดภัย จากโรคนี้ได้โดย ระวังอย่าให้ยุงลายกัดตอนกลางวัน นอนในมุ้งหรือห้องที่ มีมุ้งลวด ไม่อยู่ในบริเวณที่มืด อับลม หรืออับชื้น เพราะเป็นแหล่งที่ยุงชอบหลบอยู่ กำจัดลูกน้ำ และแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดย

-ปิดฝาตุ่มน้ำให้มิดชิดถึง 2 ชั้น ชั้นในปิดรัดปากตุ่มด้วยผ้า หรือตาข่ายไนล่อน
-ใส่ปลาที่กินลูกน้ำเป็นอาหาร เพื่อกำจัดยุงลายในภาชนะเก็บน้ำที่ปิดฝาไม่ได้
-หมั่นเปลี่ยนน้ำในจานรองขาตู้กับข้าว หรือใส่สารป้องกันการเกิดลูกน้ำ เช่น เกลือ น้ำส้มสายชู เป็นต้น
-ใส่ทรายในจานรองกระถางต้นไม้ ประมาณ 3 ใน 4 ของความลึกของจานรอง ทรายจะดูดซึมน้ำส่วนที่เกินไว้ป้องกันมิให้น้ำขังอยู่ในจานรองกระถางต้นไม้
-หมั่นทำงานความสะอาดภาชนะเก็บน้ำในห้องน้ำและห้องส้วม โดยการจัดล้าง ถ่ายน้ำ
-หมั่นเปลี่ยนน้ำในขวดเลี้ยงต้นไม้ แจกันดอกไม้ หรือปิดปากภาชนะด้วยสำลี กระดาษนิ่มๆ เพื่อป้องกันยุง ไม่ให้เข้ามาวางไข่
- ดัดแปลงยางรถยนต์เก่าให้เป็นใช้ เพื่อไม่ให้มีน้ำขัง เช่น นำไปปลูกต้นไม้
-เก็บหรือทำลายที่ที่มีน้ำขัง ซึ่งเป็นภาชนะที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว โดยการขุดหลุมฝัง เผา หรือใส่ถังขยะ

ในปี 2541 นี้ คาดว่าไข้เลือดออกจะมีการระบาดใหญ่ หากไม่มีการป้องกัน และควบคุมเพียงพอ กระทรวงสาธารณสุข จึงได้จัดสัปดาห์รณรงค์ให้บ้าน ชุมชน และโรงเรียนปลอดยุงลาย พร้อมกันทั่วประเทศ ในระหว่างวันที่ 15-19 มิถุนายน 2541 โดยให้ทุกคน ได้ร่วมกันทำกิจกรรมควบคุม และกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ด้วยวิธีต่าง ๆ ทั้งในโรงเรียนทุกโรงเรียน ครัวเรือนทุกหลังคา วัด สวนสาธารณะ ตลาด เป็นต้น และจัดให้มีการเผยแพร่ความรู้เรื่องโรคไข้เลือดออก แก่ประชาชนทุกหมู่บ้าน และนักเรียนตามโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศ

ข้อมูลจาก : กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรคติดต่อ

บุญตา เจนสุขอุดม

[ BACK TO LIST]

main

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600