นพ.นริศ เจนวิริยะ

ท่านผู้อ่าน ๆ ชื่อเรื่องแล้วอาจจะคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นวันวาเลนไทน์ แต่ที่จริงแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องของเชื้อสุจิในผู้ชายทั่วโลก ที่กำลังจะลดจำนวนลงไป ซึ่งน่าเป็นห่วง เป็นอย่างยิ่ง

ปกติเชื้อสุจิถูกผลิตที่อัณฑะของชายแล้ว ส่งไปเก็บที่กระเปาะที่เรียกว่า semimal vessicle ซึ่งอยู่ภายในช่องท้อง เมื่อเวลาคนเราร่วมเพศจนถึงจุดสุดยอดแล้ว เชื้ออสุจิก็จะถูกฉีด เข้าไปผสมกับไข่ของฝ่ายหญิง มันเป็นเรื่องจริงที่ควรรู้ว่า ระบบการสืบพันธุ์ของเรา มันมีประสิทธิภาพน้อยเอามาก ๆ ที่ว่าอย่างนี้ เพราะในการสังวาสแต่ละครั้ง ผู้ชายต้อง ฉีดเชื้ออสุจิเข้าไปผสมกับไข่ตั้งแต่ 40 ถึง 120 ล้านตัว เพราะว่าในน้ำอสุจิที่ฉีดออกมา แต่ละครั้งมันมีเชื้ออสุจิมากอย่างนั้น แล้วก็ในจำนวนมากมายอย่างนั้น ก็มีอยู่ตัวเดียวโด่เด่ เท่านั้น ที่เข้าผสมกับไข่ได้ และถ้าเกิดจำนวนเชื้ออสุจิของใครมีน้อยกว่า 20 ล้านตัวละก็ จะเกิดปัญหาเรื่องทำท้องทันที นอกจากนี้ การที่เชื้ออสุจิจะผสมกับไข่ได้ผลเป็นการตั้งท้อง นั้นเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยจังหวะของการตกไข่ของฝ่ายหญิงอยู่มาก อัตราการตั้งท้องที่สูงสุด เกิดเมื่อสังวาสในวันที่ไข่ตก รองลงไปคือวันก่อนหน้าไข่ตก และถ้าก่อนหน้านั้นไปอีก ก็ยิ่งมีอัตราประสบความสำเร็จน้อยลงไปเรื่อย ๆ สำหรับวันหลังไข่ตก ยิ่งได้ผลน้อยมาก จนแทบจะหมดหวัง และเนื่องจากคนทั่วไป ไม่รู้ว่าไข่ตกวันใด การตั้งท้องจึงฟลุ๊กเสียมาก หรือว่าต้องขยันทำท้องกันถี่มากจึงจะเกิด ที่ว่ามานี้จะเห็นว่าระบบการสืบพันธุ์ของเรามีประสิทธิภาพน้อยมากเพียงไร

ปัจจุบันนี้นักวิจัยได้พบว่าจำนวนเชื้ออสุจิของผู้ชายในโลกนี้ลดลงอย่างน่าเป็นห่วง เมื่อไม่นานมานี้ มีการวิจัยที่สก๊อตแลนด์ แล้วรายงานใน บริติช เม็ดดิคัลเจอร์นัล ว่าได้ทำการศึกษาชายที่เกิดหลังปี ค.ศ. 1950 พบว่ามีจำนวนเชื้ออสุจิน้อยลง 25% เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่เกิดก่อน 1989 เมื่อคิดเป็นอัตราการลดแล้วพบว่าลดลง 2.1% ต่อปี คนฝรั่งเศสก็มีความวิตกกังวลในเรื่องนี้ และได้ทำการศึกษาชายฝรั่งเศสดูเหมือนกัน และพบว่าชายฝรั่งเศสมีอัตราการลดลงของเชื้ออสุจิ 2.1% เหมือนกันในช่วง 20 ปี ที่เขาทำการศึกษา อีกการศึกษาหนึ่งที่ทำโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวสวีเดน ซึ่งเป็นการศึกษา ที่น่าทึ่งที่สุด เนื่องจากเป็นการศึกษาชายถึง 15,000 คนใน 21 ประเทศ สิ่งที่เขาพบ ทำให้ผู้ชายหลายคนวิตก กลัวเกรงว่าตัวกูของกูนี้ อาจจะสูญพันธุ์เหมือนไดโนเสาร์ คือเขาพบว่าในห้วงเวลา 50 ปีที่ผ่านมามีอัตราการลดลงของจำนวนอสุจิถึง 50%

ผลการศึกษาอย่างที่ว่านี้ก็ใช่ว่าจะมีคนเห็นด้วยไปหมด มีนักวิจัยบางคนทำการวิจัยแล้ว ไม่พบการลดลงอย่างว่า แต่การศึกษาอย่างดังกล่าวข้างบน ไม่ได้พบเฉพาะการลดลง ของจำนวนเชื้ออสุจิแต่อย่างเดียวที่ทำให้เกิดความวิตกกังวลในผู้ชาย แต่พบว่าคุณภาพ ของเชื้อสุจิก็พลอยลดน้อยถอยลงไปด้วย คือปกติเชื้ออสุจิที่ดีต้องแข็งแรง เคลื่อนไหว ไปมาได้เหมือนลูกอ๊อด เขาพบว่าในระยะหลังนี้คุณภาพของเชื้ออสุจิก็ลดลงด้วย นอกจากนี้เขายังพบว่าผู้ชายที่น่าสงสารทั้งหลายก็มีปัญหาอื่นเพิ่มขึ้นอีกคือมีอัตราการเกิด มะเร็งอัณฑะและไข่ไม่ลงถุงอัณฑะเพิ่มมากขึ้นและขนาดอัณฑะเล็กลงด้วย

ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้เป็นผลทำให้ความสามารถในการเจริญแพร่พันธุ์ของชายทั้งโลก มันลดน้อยถอยลงไป จากประสบการณ์ของหมอผู้เชี่ยวชาญเรื่องการเจริญพันธุ์คนหนึ่ง ในนครนิวยอร์กกล่าวว่าในช่วงปี 1980 กว่า ๆ มีคนมาปรึกษาเรื่องไม่มีลูกแค่ 8% แต่ปัจจุบันนี้มีมากถึง 40% ทำให้เขารู้สึกเป็นห่วงมาก เนื่องจากยังหาสาเหตุไม่ได้ชัดเจน ว่าอะไรเป็นสาเหตุกันแน่ จะว่าเป็นเพราะความเครียด การสูบบุหรี่ หรือการใช้ยา อย่างหนึ่งอย่างใดซึ่งล้วนมีผลต่อการเสื่อมสมรรถภาพทำท้องก็เป็นไปได้ หรืออาจจะเป็น เพราะว่าคนปัจจุบันนี้เลือกที่จะมีลูกกันตอนที่อายุมากซึ่งเป็นตอนที่จำนวนเชื้ออสุจิ มันลดลงโดยธรรมชาติอยู่แล้วก็เป็นได้อีกเหมือนกัน นอกจากนี้คนในปัจจุบันมีชีวิต ความเป็นอยู่ความมีเสรีภาพในทางเพศก็มีมากขึ้นเป็นผลให้มีการติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์ มากขึ้น จึงทำให้เกิดการเป็นหมันได้มากขึ้นเป็นเงาตามตัวก็เป็นสาเหตุได้อีก และบางรายงานยังศึกษาพบว่าการนิยมนุ่งกางเกงลิงแบบบิกินี (ไม่ใช่แบบถุงบะหมี่) ซึ่งรัดรังอวัยวะเพศ การอาบน้ำร้อนแบบซาวน์นา ก็มีส่วนทำให้มีการผลิตเชื้ออสุจิ ของอัณฑะลดน้อยถอยลงได้เช่นกัน

เมื่อไม่นานมานี้มีหนังสือออกมาเล่มหนึ่งชื่อ Our Stolen Future โดย Dotton กล่าวว่า การที่ความสามารถในการแพร่พันธุ์ของคนเราลดลงเนื่องมาจากมลพิษในสิ่งแวดล้อม
เช่นจาก ดีดีที สารไดออกซินบางรูปแบบ สารพีซีบี หรือสารสังเคราะห์อย่างอื่น เขากล่าวว่าการมีความสามารถในการสืบพันธุ์ของคนเราลดลงเป็นเพียงอาการอย่างหนึ่ง ของผลเสียของมลพิษในสิ่งแวดล้อม ผลเสียอย่างอื่นก็มี การเพิ่มขึ้นของมะเร็งเต้านม หรือมะเร็งอย่างอื่นในมนุษย์ หรือการวิกลรูปแต่กำเนิดของสัตว์พร้อมกับการเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมการสืบพันธุ์ของสัตว์ด้วย เช่นจรเข้ที่ฟลอริดาที่อยู่ในหนองที่แปดเปื้อน ยาฆ่าแมลง ทำให้ลึงค์มีขนาดเล็กลงมากเป็นต้น (อุตสาหกรรมสารเคมีดังกล่าวออกมา ปฏิเสธตามฟอร์ม)

นักวิจัยกล่าวว่าการแปดเปื้อนสารเคมีที่เป็นมลพิษเกิดขึ้นทั่วโลกไม่มากก็น้อย และสารเคมี เป็นที่รู้กันว่าเมื่อมันเข้าร่างกายแล้วมีฤทธิ์ไปจับกับฮอร์โมนเพศที่มีอิทธิพลต่อการสืบพันธุ์ มีผลให้การทำงานของอวัยวะเพศผิดเพี้ยนไปได้ ดังเช่นที่เกิดขึ้นในสัตว์ทดลองที่มลพิษ จากสารเคมีสามารถทำให้สัตว์เพศผู้เป็นตัวเมียได้โดยการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ

ที่กล่าวมานี้อาจจะทำให้ผู้อ่านที่เป็นชายชาตรีทั้งหลายเกิดความวิตกกังวล โดยเฉพาะท่าน ที่อยู่หรือทำงานแถวคลองเตยซึ่งกำลังได้ชื่อว่าเป็นที่ทิ้งขยะเคมีของโลกคงจะกังวลมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามชายไทยก็คงจะเบาใจได้ว่า เราไม่ได้เป็นมนุษย์โลกที่น่าสงสาร เพราะกลัว เรื่องนี้มากที่สุด ยังมีมนุษย์ผู้ชายตาดำ ๆ ที่มีความวิตกกังวลเรื่องนี้มากกว่าเรา คือชายที่ประเทศกานา แอฟริกาตะวันตกที่อยู่ในสภาพเลวร้ายกว่าเรามาก คือเมื่อเร็ว ๆนี้
(19 ม.ค. 1995) ที่นั่นมีเหตุการณ์โกลาหลจลาจลม็อบจับพ่อมด 7 คนแขวนคอเนื่องจาก สงสัยว่าพ่อมดพวกนี้ชอบใช้มนต์ไสยเสกเป่ามือแตะเป้าเอาพวงสวรรค์ของพวกเขา ไปกักไว้เรียกค่าไถ่ มีคนสองคนอ้างว่าไข่หายไปจึงทำให้เกิดเรื่องม็อบขึ้น จนร้อนถึงตำรวจจราจรต้องออกมาป้องกันเหตุ ผู้บริหารประเทศถึงกับให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าจำเป็นอาจจะต้องเอากองทหารออกมารักษาความสงบเรียบร้อย
เรื่องอสุจิหายไปจึงไม่ใช่เรื่องเล็กเรื่องน้อยเรื่องกระจอกงอกง่อย แต่กลายเป็น เรื่องที่น่าเป็นห่วงไปทั่วโลกแล้วนะครับ

นพ.นริศ เจนวิริยะ

main