ตลอดปี 2541 ที่ผ่านมา คอลัมน์ "ภัยผู้หญิง" ซึ่งทำหน้าที่เป็นสื่อกลางรับเรื่องภัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเด็ก สตรี หรือแม้แต่ผู้ชายที่เจอะเจอเรื่องร้ายภยันตราย แต่ไม่รู้จะหาหนทางแก้ไข หรือให้หน่วยงานใด ช่วยเหลือรับผิดชอบ เสียงโทรศัพท์และจดหมายจากผู้อ่านที่ส่งเข้ามามากมาย แต่ละสาย แต่ละเรื่อง ล้วนแล้วแต่เป็น "อุทาหรณ์" ให้ประชาชนได้ระวังตัวเอง เอาตัวรอด ให้พ้นภัยจากพวกมิจฉาชีพ
ภัยโรคจิต
เรื่องที่ได้รับแจ้งมากที่สุด ยังคงเป็นเรื่องของคุณผู้หญิงที่ถูกพวกโรคจิตลวนลาม ไม่ว่าจะเป็น การลวนลามโดยการกระทำ ลวนลามด้วยคำพูด หรือแม้แต่กระทั่งการลวนลามด้วยสายตา ภัยประเภทนี้มักจะเกิดกับสาว ๆ วัยยี่สิบต้น ๆ สถานที่เกิดเหตุส่วนใหญ่ยังคงอยู่ตามซอยเปลี่ยว ๆ ป้ายรถเมล์ รวมทั้งที่ที่มีคนแออัดกันอยู่มาก ๆ
จากข้อมูลของผู้ที่แจ้งเข้ามา บริเวณอันตรายที่สาว ๆ มักจะโดนลวนลามประจำคือ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซอยบุญคุ้ม รังสิต บริเวณใต้สะพานลอยเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ภายในซอยวัดไผ่ตัน ฯลฯ
"ดิฉันทำงานห้างเลิกประมาณ 4 ทุ่ม ขากลับก็ไปโทรศัพท์ที่ตู้สาธารณะ พอโทร.เสร็จ เห็นวัยรุ่นผู้ชาย 3 คน ยืนขวางอยู่หน้าตู้ไม่ยอมให้ออก พร้อมทั้งส่งเสียงหยอกล้อ อย่างคึกคะนอง เดินวนกันรอบตู้ ตอนนั้น ใครที่ผ่านไปผ่านมาก็น้อย และไม่มีใครกล้าช่วย บางคนก็แกล้งเอามือมาจับที่ข้อเท้า แต่โชคดีที่สติยังดี และมีเศษตังค์เหลือ ก็เลยโทร.ไป 191 ขณะที่โทร.ก็พูดเสียงดัง จนวัยรุ่นกลุ่มนั้นได้ยิน พวกมันเลยหนีไป" นี่เป็นเพียง 1 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"วันนั้นขึ้นรถเมล์ ยืนอยู่ใกล้กับผู้ชายคนหนึ่ง ท่าทางเขามองอะไรอยู่ด้วยความตั้งใจ เราสงสัยก็มองดูตามสายตาเขา ปรากฏว่าผู้ชายคนนั้น กำลังก้มมองผู้หญิงใส่กระโปรงสั้นขับรถ แล้วกระโปรงเปิดขึ้นมาเห็นต้นขา ไอ้ผู้ชายโรคจิตคนนั้นมันก็ลุ้นว่าเมื่อไร จะเปิดขึ้นมาอีก ฟังแล้วรู้สึกทนไม่ได้ก็เลย อยากจะเตือนผู้หญิงที่นุ่งกระโปรงสั้นแล้วขับรถด้วย ว่าให้ระวังสายตาของผู้ชายโรคจิตด้วย" หญิงคนหนึ่งโทร.มาเล่าให้ฟัง
"หนูกับเพื่อนไปซื้อเสื้อผ้าที่สวนจัตุจักร ในร้านมีผู้ชายขายอยู่ 2-3 คน ลักษณะร้านก็เป็นช่องแคบๆ หนูไปชอบเสื้อกับกางเกง เจ้าของร้านที่เป็นผู้ชายก็บอกว่าให้ไปลองเพราะ มีห้องลองที่ใช้ผ้ากั้นอยู่ ถ้ามองจากภายนอกก็ดูมิดชิดดี อีกอย่างเพื่อนก็ยืนปิดประตูข้างนอกให้เลยไม่คิดว่าจะมีอะไร ถือเสื้อกับกางเกงไปลองจนเสร็จออกมา พอสักพักเพื่อนที่มาด้วยกันแต่เขาตามหลังมา เขาก็เดินไปซื้อเสื้อผ้าร้านนั้น ได้ยินคนขายผู้ชายคุยกันว่า ผู้หญิงที่มาลองเสื้อเมื่อครู่ขาวดี พูดแต่เรื่องสัปดน แต่ที่เพื่อนเอะใจก็คือ ลักษณะที่เขาพูดถึงมันคล้าย ๆ หนู รวมทั้งเรื่องชุดชั้นในเขารู้หมดเลย ด้วยความอาย แต่อยากรู้ว่าทำไมเขาถึงรู้ ก็เลยให้เพื่อนกลับไปที่ร้านนั้น ไปสังเกตดู ปรากฏว่า ด้านบนของเพดาน มีกระจกบานเล็กตั้งเอียง ๆ ออกไปมุมด้านนอก และที่บริเวณพื้นล่างก็มีอีก 1 บานตั้งอยู่ ถ้าไม่สังเกตจะไม่มีสิทธิรู้เลย เพราะมันมีผ้าบาง ๆ บังอยู่ เพื่อนหนูโกรธมาก ก็เลยแอบเอากระจกที่อยู่ข้าง ๆ ออก มันจะได้ไม่มีโอกาส มองใครอีก อยากเตือนสาว ๆ ที่ชอบลองเสื้อผ้าตามร้านก็ควรระมัดระวังตัวด้วย"
อีกรายคุณผู้หญิงทำงานกะดึก ขณะที่กำลังขึ้นสะพานลอยข้ามถนน ย่านแจ้งวัฒนะ ที่มีลักษณะทึบ ไม่มีแสงไฟ เจอผู้ชายสูงประมาณ 168 ซ.ม. ผิวขาว ร่างสันทัด เดินสวนกันบนสะพานลอย ท่าทางมีพิรุธ แล้วชายคนนั้นใช้มีดจี้คอ และกดลงกับพื้นปลดเอาสร้อยคอ สร้อยข้อมือพร้อมขู่จะฆ่า
เป็นข้อควรระวังอย่างมาก เพราะยังมีแหล่งอันตรายแบบนี้อีก ทั้งที่สะพานหน้าวัดเสมียนนารี หน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หน้าโรงเรียนสารินันท์ศึกษา หน้าโรงเรียนตำรวจนครบาล หน้าสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ หน้าวัดหลักสี่ และที่บริเวณโรงเรียนบ้านบางกะปิ ถนนสุขาภิบาล 1 มีชายหนุ่มเดินเข้ามาประชิดตัว แล้วเอามือตะปบจะดึงสร้อยที่ต้นคอ จากนั้นก็เอามือดึงกระโปรงและจับก้น
ส่วนภัยแบบนี้มาไม่รู้เนื้อรู้ตัว เดินอยู่ดี ๆ เจอมอเตอร์ไซค์ขับรถมาลวนลาม จับมาขย้ำหน้าอก จนตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก มีกว่า 4-5 ราย พอรู้ตัวโน่น มันขับหนีบึ่งไปไกลแล้ว
นี่ก็พวกอุบาทว์ แก๊งผู้ชาย 5 คนหน้าป้ายเซ็นทรัล ลาดพร้าว แกล้งหยอกล้อกัน แล้วเอียงมากลุ่มสาว ถือโอกาสจับหน้าอก จากนั้นก็เดินหนี และที่ข้างสะพานสาธร ฝั่งธนบุรี มีผู้ชายโรคจิต มาทำอนาจารถอดกางเกงสำเร็จความใคร่ให้นักเรียนสาว ๆ เห็นเสมอ ๆ
รายนี้แฝงตัวอยู่หน้าสะพานลอยแถว ๆ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า กับที่ย่านพระราม 4 ฝั่งบ่อนไก่ ที่ป้ายรถเมล์ตรงหน้าสะพานลอย เป็นผู้ชายชอบนั่งใต้สะพานลอย แอบดูผู้หญิง เวลาเดินขึ้นสะพานลอย
ใกล้ตึก ปตท. ถนนวิภาวดีรังสิต ผู้ชายผิวท้วม ผิวดำแดง หัวล้านอายุประมาณ 35 ปี ชอบเดินยิ้มอยู่ตลอดเวลา ชอบจับแขน จับก้นผู้หญิง บางคนโดนหนักขนาดโดนกอด
นี่เป็นเพียงตัวอย่างของเหตุการณ์ในรอบปี เกิดขึ้นเป็นประจำและหลายรูปแบบ
ภัยห้าง-ซูเปอร์มาเก็ต
รายแล้วรายเล่าที่เหล่า ผู้บริโภคซึ่งชีวิตผูกติดไว้กับห้างสรรพสินค้า ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ซูเปอร์มาเก็ต ไปซื้อของแล้วถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมย อย่างรายที่เกิดขึ้นที่เซ็นทรัลพระราม 3 คุณยายไปซื้อของที่ซูเปอร์มาเก็ต แล้วถูกหาว่าหยิบของห้างไม่จ่ายเงิน รปภ.ขอค้นตัว แล้วบอกจะปรับเงินท่าเดียว พอดีคุณยายทำใบเสร็จหายก็ยิ่งไปกันใหญ่ เลยต้องไปให้แคชเชียร์ยืนยันให้ ผลสุดท้ายก็ไม่ผิด
อีกรายเป็นข้าราชการระดับ 7 มีลูกคนหนึ่งอายุ 8 ขวบ เรียนอยู่ประถมปีที่ 2 สามคนพ่อแม่ลูก เหตุเกิดขึ้นที่ห้างเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ก่อนกลับบ้าน เธอเล่าว่าได้เดินผ่าน แผนกขายชุดว่ายน้ำ โดยแวะที่แผนกแว่นตาว่ายน้ำสปีโด้ ตอนนั้นลูกสาวอยากเข้าห้องน้ำ ก็พาไปขณะที่ไปก็มี รปภ.เดินมาหาแล้วแจ้งว่า ลูกสาวของเธอขโมยของ เธอก็ปฏิเสธ และไปตามสามีมาด้วย พอสามีมาแล้วเขาก็พาไปที่ห้อง รปภ. เพื่อให้ค้นตัว รวมทั้งตรวจค้นตัวลูกสาว ปรากฏว่าไม่พบของกลางแต่อย่างใด แต่ก็ยังไม่จบ รปภ.ก็พยายามซักถามลูกเราอีก ทั้งที่ลูกก็เริ่มหิวและเครียด จึงเกิดการโต้เถียงกัน เขาก็พยายามจะให้หาความผิดให้เด็ก ขู่ว่า ถ้าอยากให้เรื่องมันจบก็จ่ายเงินมาซะ เธอไม่ยอม เพราะไม่ผิด ในที่สุดหัวหน้า รปภ.ก็ต้องเข้ามาขอโทษขอให้เรื่องทั้งหมดจบ
ไม่รู้ว่าแต่ละห้าง ของเมืองไทยเจอภาวะวิกฤตหรืออย่างไร พฤติกรรมเหล่า รปภ. จึงทำเช่นนี้กับลูกค้า ปัญหาเช่นนี้มีร้องเรียนกันเข้ามามากมายเหลือเกิน
และที่ห้างโรบินสัน สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ซื้อเครื่องสำอาง พนักงานขายไม่ยอมให้ใบเสร็จ แถมไม่ลงในสมุดรายการซื้อของ เพียงแต่รับเงิน แล้วเอาของใส่ถุง ลูกค้าก็ไม่ยอม เพราะกลัวจะถูกหาว่าเป็นขโมย เมื่อมีการตรวจสอบ พนักงานอ้างว่า แคชเชียร์กลางเก็บเงินอยู่ มีลูกค้าเยอะ จะเสียเวลามาก ลูกค้าบอกจะไปซื้อของอื่นก่อน เดี๋ยวกลับมาใหม่ ช่วยจัดการบิลให้ด้วย เอาเข้าจริง พนักงานบอกให้ไปจัดการบิลเอาเอง เอ อย่างนี้เรียกว่าอมเงิน โยนบาปให้คนซื้อหรือเปล่า
ส่วนนี้เป็นภัยในห้องน้ำหญิง ที่อิมพีเรียล ลาดพร้าว ช่วงเช้าเพิ่งเปิดห้าง หญิงคนหนึ่งเอากระเป๋าแขวนไว้ที่ประตูด้านในห้องน้ำ ปรากฏมีมือของผู้ชายโผล่เข้ามาเอื้อมหยิบกระเป๋าที่แขวนอยู่ไป จะวิ่งตามก็ไม่ทัน เพราะกว่าจะออกจากห้องน้ำได้ ก็เสียทรัพย์สินฟรีไปแล้ว
งานนี้ถูกเอาเปรียบ เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าที่ร้านวัตสัน สาขาลาด พร้าว ราคาข้างกล่องบอกไว้ชัดเจน แต่พอชำระเงินกลับถูกบวกเพิ่ม 10% จะว่าเป็นภาษีมูลค่าเพิ่มก็ไม่ใช่
แม้เรื่องราวจะเกิดขึ้น ทางห้างฯ หลายแห่ง ก็ได้ติดตามสอบถามถึงปัญหาที่เกิดอย่าง บริษัท ซีอาร์ซี เอ โฮลด์ จำกัดในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจ ท็อปส์ ซูเปอร์มาเก็ต ชี้แจงเรื่องที่ยามทำตัวไม่เหมาะสม เพราะใช้วิธีจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยมาหลายบริษัท แต่พยายามเน้นให้ทำงานด้วยความสุภาพ และสิ่งที่เกิดขึ้นก็ขอรับผิดชอบ และจะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้
ภัยจากขอทาน-นักท่องเที่ยว
เหตุขอทานนี่เกิด และได้รับแจ้งบ่อยมากจากผู้อ่าน เพราะรู้สึกเวทนา สงสาร ขณะเดียวกันก็อาจเป็นภัยต่อชาติ ความมั่นคง เพราะเหล่าขอทานที่ทะลักกันเข้ามาเมืองกรุง ส่วนใหญ่ประเภทหญิงสาวอุ้มลูกตัวเล็ก ๆ แดง ๆ มานั่งขอสตางค์ แต่เวทนายิ่งนัก ถ้าเป็นเด็กสัก 2-8 ปีนี่ซิ ทั้งที่ควรอยู่ในวัยเรียน กลับต้องมาตากแดด ตากฝนถือกระป๋องวิงวอนขอเงิน ถ้าเป็นคนไทยก็ยังพอทำเนา ที่คนไทยจะช่วยเหลือบ้าง
แต่นี่ พวกต่างด้าว ทั้งเด็กเล็ก ผู้หญิง คนแก่ นี่ปะไร เดินกันเพ่นพ่านไปหมด เหมือนกับเป็นหนอนที่ค่อย ๆ บ่อนทำลายชาตินี่ซิ น่ากลัวยิ่งกว่า
พวกชอบล่อลวงผู้หญิง มีมาสารพัดรูปแบบ รายนี้ปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวสูงอายุ เดินโฉบอยู่หน้าโตคิว ปทุมวัน แกล้งทำตัวหลงพูดภาษาอังกฤษ เข้าไปถามสาว ๆ ซึ่งแถวนั้นมีพนักงานบริษัทหลายแห่ง ขอให้ช่วยไปส่งที่โรงแรม ย่านสุขุมวิท แถมขอให้นั่งรถแท็กซี่ไปด้วย พอสาวไม่ไปด้วย ก็หยิบเอาแหวน-สร้อยทองเก๊มาล่อ ใครเจอแบบนี้อย่าไปหลงเชื่อเด็ดขาด เดี๋ยวจะเสร็จพวกใจโฉดชั่ว หลอกไปปู้ยี่ปู้ยำหรือขายต่างชาติ ภัยคนเดินทาง
รถโดยสารประจำทางนั้น เป็นที่พึ่งของคนยาก หวังฝากผีฝากไข้เดินทางให้ถึงที่หมาย ใครปะเหมาะเคราะห์ร้าย เจอคนขับรถเมล์ไม่สุภาพก็แย่ ยิ่งพนักงานเก็บค่าโดยสารด้วยแล้ว ทำทีเป็นผลักอกผู้ใช้บริการสาว ๆ ด้วยแล้ว แทบจะขอลาลงกันทันที แต่แย่หนักไปอีก เมื่อไม่ยอมจอดป้าย หรือจอดไม่ชิดถนน นี่ซิ ใครรอดพ้นมาได้ ก็ต้องเสี่ยงตายในวันหน้ากันอีกต่อไป
ส่วนนี่สาวแบงก์ธนาคารทหารไทย ขึ้นรถแท็กซี่ เจอดีคนขับรถ หยิบอะไรขึ้นมาทา กลิ่นเหม็นฉุน ๆ ไปทั้งคันรถ ทำให้สาวเจ้ารู้สึกมึน ๆ คล้าย ๆ กับจะเป็นลม แต่เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุไม่ดี เจ้าหล่อนตั้งสติขอลงจากรถ รอดพ้นอันตรายได้อย่างหวุดหวิด
มีข้อสังวร สำหรับผู้หญิงที่นุ่งกระโปรงสั้นจะนั่งรถแท๊กซี่ รถส่วนตัว โประระวังพวกตาซอกแซกบนรถเมล์ มองมาแล้วตะโกน ให้เปิดกระโปรง งานนี้มันต้องการสะใจ
ภัยแหล่งมั่วสุม ถูกหลอกเรื่องงาน
ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในซอยที่มีชุมชนแออัด จะกลายเป็นแหล่งมั่วสุมของอบายมุขทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด ซึ่งบางครั้งคนที่ขายก็กลายเป็นคนในเครื่องแบบเสียเอง มีการเปิดบ่อนการพนันอย่างเสรี การมั่วเซ็กซ์ สถานที่เกิดเหตุก็เกิดขึ้นในซอยย่อย ๆ อย่างซอยวัฒนา ถ.ตากสิน ซอยลาดพร้าว 108 หรือซอยแถว ๆ บางระดี ผู้ที่เดือดร้อนอาศัยอยู่ในซอยบางระดีแจ้งว่า ในซอยมีขี้ยาเยอะมาก เคยถูกคนเมายาแถว ๆ บ้าน ระรานปีนรั้วบ้าน แจ้งตำรวจไปแล้วก็ขังไว้แค่คืนเดียว พอกลับออกมาก็มีเรื่อง และถูกขู่อาฆาตอีก
งานนี้คุณตำรวจมีข้อแนะนำพวกเมายา พวกโจร กลัวเสียง กลัวความสว่าง ก็ให้เปิดไฟทั้งบ้าน หรือจะกดกริ่ง เป่านกหวีดทำเสียงดัง ให้เพื่อนบ้านรู้ เป็นวิธีที่ดีสำหรับเหตุการณ์จวนตัว
ช่วงเศรษฐกิจดิ่งเหว คนตกงานเกือบ 4 ล้านคน ย่อมเป็นช่องทางให้คนเอาเปรียบคน หาทางทำเงินได้ ประเภทใบสมัครหางานจึงปลิวว่อนไปทั่ว ทั้งที่ให้สมัครและอบรม โดยคิดค่าอบรม ค่าเทป สารพัดค่าธรรมเนียม คิดเป็นเงิน แล้วยังให้ขายสินค้าราคาสูง คุณภาพต่ำเสียอีก มันเจ็บใจแท้ ๆ ภัยของนักศึกษา-ช่างซ่อม
เป็นข่าวครึกโครมก่อนสิ้นปี เมื่อเด็กชายวัย 14 ปี จิตใจโหดเหี้ยม เมายาแล้วต้องการหาเงินไปเสพต่อ และหวังจะข่มขืน ถึงกับกล้าลงมือใช้มีดแทงนักศึกษาสาว ปีสุดท้ายของสถาบันราชภัฏถึงแก่ความตาย อันนี้ถือเป็นภัยร้ายแรงยิ่งนัก
แต่รายนี้นักศึกษาวัย 22 ออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อขึ้นรถเมล์ไปเรียน ย่านบริเวณโรงเรียนบ้านบางกะปิ ถ.สุขาภิบาล 1 ขณะยืนรอรถเมล์ ก็ถูกกระตุกสร้อยไปไม่ทันตั้งตัว รายเดียวกันคนละเวลา มีชายหนุ่มเดินเข้ามาประชิดตัว แล้วเอามือตะปบจะดึงสร้อยที่ต้นคอ จากนั้นก็เอามือดึงกระโปรงและจับก้น
อีกเหตุการณ์ พวกมิจฉาชีพ ฮิตทำกันอยู่พักหนึ่งคือ ปลอมตัวเป็นช่างซ่อมตู้เย็น ไปซ่อมตู้เย็นตามบ้าน แอบอ้างว่ามาจากบริษัท ชาร์ปบ้าง ฟิลิปส์บ้าง ลักษณะของพวกนี้จะแต่งตัวคล้ายช่างซ่อม ที่เสื้อผ้าจะมีสัญลักษณ์ของบริษัทที่แอบอ้างอยู่ แต่ถ้าดูดี ๆ จะเป็นของปลอม การทำงานของพวกนี้คือ เข้ามาในบ้าน อ้างว่าเป็นบริการพิเศษ เมื่อได้เข้าถึงตู้เย็นแล้วช่างคนนั้นก็มักจะใช้มีดกีดที่ขอบยางของตู้เย็นให้เป็นรอย และบอกเจ้าของบ้านว่าต้องเปลี่ยน หรืออาจจะทำกับอุปกรณ์อื่น ๆ อีก แต่พวกมิจฉาชีพก็ทำได้อยู่ไม่นาน เพราะหลังจากที่ภัยผู้หญิง ลงเรื่องภัยช่างซ่อมตู้เย็นแล้ว แม่บ้านก็รู้เท่าทันของพวกมิจฉาชีพเหล่านี้ ต่างก็ไม่ยอมให้เข้า พร้อมทั้งทางบริษัทที่ถูกอ้างก็ออกมาชี้แจง เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคว่า ถ้าเมื่อไรที่ทางบริษัทจะส่งช่างไปซ่อมตู้เย็น จะต้องมีหนังสือยืนยันจากทางบริษัทอย่างชัดเจน อย่าได้เปิดโอกาสให้พวกมิจฉาชีพเหล่านี้เข้ามาในบ้านโดยเด็ดขาด
ภัยหนังสือโป๊
สื่อสิ่งพิมพ์ที่เคยมีเต็มแผง ยุคไอเอ็มเอฟ ต้องปิดตัว ออมหนี้กันไป แต่มีหนังสือประเภท โป๊ ขายเซ็กซ์ ให้กับเด็ก ๆ ทำกันแบบใต้ดิน กลับมีเกลื่อนทั้งใต้แผง ตลาดมืด หรือเป็นแม้เทป วิดีโอ ก็มีเกลื่อนเมือง ท้าทายกฎหมาย โดยเฉพาะย่านแผงหนังสือหลังศาลฎีกา บริเวณท้องสนามหลวง ถนนราชินี และแถว ๆ ตลาด จ.นนทบุรี เรื่องนี้บรรดาคุณพ่อคุณแม่ อยากให้ตำรวจสันติบาลเขม้นจับตาดู พวกหนังสือเหล่านี้เป็นพิเศษ
ขึ้นปีใหม่นี้ ภัยผู้หญิงก็ยังปวารณาตัว ขอเป็นช่องทางสำหรับผู้เดือดร้อนเนื้อร้อนใจ ไม่มีทางระบายทุกข์ หรือจะกรุณาส่งเรื่องราวที่จะเป็นประโยชน์ต่อบุคคลอื่น เป็นข้อควรระวัง เรายังเป็น "เพื่อนคุณอยู่" พบเหตุการณ์ หรือกรณีที่เป็นภัยต่อเด็ก เยาวชนและสตรี โทร.589-0020 ต่อ 1440, 1441 เหมือนเดิม
main |