น.พ.วีระ สุรเศรณีวงศ์
แค่ฟังชื่อเรื่องก็น่ากลัว ที่จริงเป็นคำที่พบได้บ่อยและน่าเห็นใจในคนไข้กลุ่มนี้มาก มักจะเป็นในสตรีวัยเจริญพันธุ์ คือ ตั้งแต่วัยละอ่อนถึง 30 เศษ เป็นส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มโรคที่เกาะกินใจคนไข้มาก เพราะอาการปวดท้องเมนส์หรือปวดระดู ซึ่งจะเป็นความรุนแรงมากขึ้น ๆ อย่างน่าสงสารเป็นบาปกรรมอย่างหนึ่งของสตรีกลุ่มนี้ เพราะจะก่อปัญหาทั้งต่อร่างกายและต่อจิตใจ ซึ่งต่อจิตใจนั้นดูจะรุนแรงกว่า อย่างคาดไม่ถึง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง พยาบาลท่านหนึ่งนำสตรีนางหนึ่งอายุอานาม 30 ปี แต่ท่าทาง หมองหม่นซึมเศร้า ตาโหล เหมือนไม่ได้หลับได้นอน แต่แต่งตัวดูออกว่า มีรสนิยม คำแรกที่เธอพูดด้วยคือ "ตัดเลยนะหมอ" สร้างความงุนงงมาก เธอพูดจาค่อนข้างจะเบลอ จากฤทธิ์ยาแก้ปวด และยาคลายเครียด เพราะเธอนอนไม่หลับมา 3-4 วัน เนื่องจากปวดท้องน้อย ขณะมีเมนส์ เธอเล่าให้ฟังว่าเธอทนทุกข์ทรมานจากปวดระดูมาตลอด 10 ปีกว่า จนเธอสูญเสียอะไรมากมาย เสียบุคลิก เพราะเธอต้องทานยา ไม่กล้าออกสังคม เมื่อใกล้มีระดู
ช่วงมีระดู เธอจะมีความวิตกมากจนไม่เป็นอันทำอะไรให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเธอเอง เธอต้องเสียการเรียน เพื่อน ๆ เธอจบหมดแล้ว เธอต้องหลีกหนีไปเรียนต่างประเทศ โรคก็รุมเร้าเธอไปตลอด เธอรบกับโรคนี้มาตลอดตั้งแต่เริ่มมีระดูประมาณอายุ 13-14 ปี ด้วยไม่เดียงสาก็นึกว่าเป็นอาการปกติ เพราะในระยะ 4-5 ปี แรกอาการปวดระดูก็เป็น ๆ หาย ๆ เมื่อเธอเข้าสู่วัยสาวเต็มตัว อาการปวดก็เริ่มสม่ำเสมอ เธอปวดทุกครั้งที่มีรอบเดือน แรก ๆ ก็ไม่ยอมทานยาก็พอทน นาน ๆ เข้า เธอต้องทานยาประจำ แทบทุกครั้งที่มีระดู เธอก็วุ่นวายกับการถามไถ่ ปรึกษาเพื่อนบ้างญาติบ้าง หาซื้อยามาทานประทังไป ต่อ ๆ มา แม้ไม่มีระดู อาการปวดท้อง ก็มากล้ำกรายเธอ
ไม่เท่านั้นอาการปวดระดูก็เริ่มรุกเร้าเธอมากขึ้น รุนแรงขึ้น ยาแก้ปวดพื้นบ้านธรรมดา ไม่สามารถระงับได้ เธอเริ่มถูกบั่นทอนจากอาการปวดมากขึ้น เธอต้องเสียการเรียนในวันที่ปวด เธอเริ่มมีความวิตกกังวลกับการมีระดู เธอเริ่มเกลียดการมีระดูอันเป็นสัญลักษณ์ของเพศหญิง เธอเริ่มมีความคิด เกลียดความเป็นผู้หญิง ซึ่งเธอก็เริ่มรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นในจิตใจ
ทุกเดือนที่ผ่านไป เธอจะเฝ้านับว่าเมื่อไรระดูจะมาเบียดเบียนเธออีก เธอปฏิปักษ์ต่อระดู เธอเริ่มปวดมากจนต้องนอนซม ไม่สามารถที่จะดำเนินกิจกรรมประจำวันได้ เธอไปหาแพทย์เพราะทนรบกับการปวดด้วยตัวเองไม่ได้ เธอกลัวการตรวจภายใน แต่เธอจำเป็นต้องการความช่วยเหลือจากแพทย์ สูติ-นรีแพทย์ได้ดูแลเธออย่างดี เข้าใจถึงความทุกข์ทรมาน ที่เธอประสบอยู่ เธอขอคำอธิบายว่า ทำไมเธอจึงมีเวรกรรม หนักหนาเช่นนี้ ทุกวันนี้เธอไม่มีจิตใจพอที่จะไปสนใจอย่างอื่น ไม่ว่าเพื่อนชาย วิชาที่เธอเรียน เธอคอยแต่กังวลกับอาการปวดท้องของเธอมาตลอด เธอโทษตัวเอง ซึ่งเธอไม่ใช่คนโชคร้าย ของสังคมในผู้หญิงที่เกิดมา 5 คนจะมี 1 คนที่เป็นเช่นเธอ เธอไม่ใช่ผู้ที่โชคร้ายที่สุดของสังคม ยังมีคนที่โชคร้ายและเป็นโรคอื่น ๆ ที่รุนแรงกว่าเธออีกมากมาย
เธอยอมให้ตรวจตามระบบ ก็น่าเห็นใจที่สาวโสดจะถูกตรวจภายใน แต่ก็เป็นความจำเป็น เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อ 7-8 ปีมาแล้ว จากการตรวจอย่างละเอียด พบว่าเธอมี ก้อนเนื้องอก ของรังไข่ที่น่าจะเกิดจากเนื้อมดลูกอยู่ผิดที่จริง ๆ แล้วโรคนี้เป็นโรคที่น่าจะเรียกว่า สภาวะผิดปกติมากกว่าที่เนื้อมดลูกที่จะหลุดออกมาเป็นเลือดระดูทุกรอบเดือนของสตรี ซึ่งปกติมันจะบุอยู่ภายในโพรงมดลูก เพื่อที่จะเตรียมพร้อมไว้เป็นแหล่ง ฝังตัว ของไข่ ที่ถูกปฏิสนธิ ถ้าไม่มีการปฏิสนธิเนื้อเยื่อนั้นก็จะหลุดลอกออกมากลายเป็นเลือดระดู จึงเป็นเลือดดีไม่ใช่เป็นเลือดเสีย ต้องถ่ายเทออกจากร่างกายดังที่เข้าใจกัน ทำให้พอไม่มีระดูมาคุณผู้หญิงทั้งหลายก็กังวลว่าของเสียในร่างกายไม่ระบายออก สิวฝ้าจะขึ้นก็เลยขึ้นจริงจากความกังวล พอเลือดระดูออกมาเป็นสีดำจำนวนน้อย ก็ไม่สบายใจว่า ของเสียออกมาน้อย ซึ่งนั่นแหละปกติถ้าออกสีแดง ก็แสดงว่า มีเลือดออกมามากเกินปกติ ถึงเป็นสิ่งผิดปกติ แต่กลับสบายใจว่า เลือดลมเดินดี เข้าใจผิดทั้งเพ
ในสภาวะที่เนื้อมดลูกอยู่ผิดที่ โดยมากจะไปเกาะอยู่ตามอวัยวะในช่องเชิงกรานผิวมดลูก พบบ่อยรองลงมาก็ที่รังไข่และในเนื้อกล้ามเนื้อของตัวมดลูก เนื้อเยื่อบุโพรงมดลูก ที่ไปอยู่ผิดที่ผิดทางนั้น ก็ยังคงคุณสมบัติของเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกดี คือ ก็ยังทำตัว เฉกเช่น เนื้อมดลูกที่อยู่ในโพรงมดลูก คือ จะมีการตอบสนองต่อฮอร์โมนเช่นบรรพบุรุษ คือ มีการพองตัวหนาพอไม่มีการปฏิสนธิ ก็จะหลุดออก เป็นเลือดระดูออก แต่เนื่องจากอยู่ในช่องท้อง เป็นช่องปิดก็คงค้างอยู่ในตำแหน่งเดิมที่อยู่นั่นเอง
เลือดมนุษย์นั้นเมื่อ แตกสลายจะระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อของร่างกายมาก เนื้อเยื่อร่างกายมนุษย์นั้นมีคุณสมบัติพิเศษ ถ้าถูกระคายเคืองไม่ว่าจากการอักเสบก็ดี จากการฉีกขาดจากสารเคมี (อย่างการสลายตัวของเลือด) จะมีปฏิกิริยาตอบสนอง ของร่างกายเกิดขึ้น ร่างกายจะสร้างปล่อยน้ำเหลืองออกมาจากหลอดเลือด มาเจือจาง บริเวณนั้นทันที เส้นเลือดจะขยายตัว มีเม็ดเลือดขาวออกมา และเซลล์เนื้อเยื่อยึดประสาน ก็จะเคลื่อนย้ายออกมาคลุมบริเวณนั้น เพื่อไม่ให้การระคายเคืองลุกลามไปที่อื่น ๆ ที่เป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งธรรมชาติสร้างไว้สลับซับซ้อนมาก ในการป้องกันแก่ร่างกาย เนื้อเยื่อยึดโยงเหล่านี้นี่เองที่เป็นดาบสองคม
เมื่อการระคายเคืองเกิดทุกรอบเดือน เพราะไม่มีการปฏิสนธิ เนื้อเยื่อบุโพรงมดลูก ก็หลุดออกเป็นเมนส์ทุกเดือน การระคายเคืองที่เกิดซ้ำ ๆ ทำให้เนื้อเยื่อยึดโยง เกิดขึ้นมากจนกลายเป็นเส้นพังผืดสะสมนาน ๆ เข้า ก็จะหนาตัวบริเวณนั้น พังผืดนั้นจะหดรัดตัวมากขึ้น ๆ ตามกาลเวลาไปด้วย ทำให้อวัยวะข้างเคียง ถูกดึงรั้งเข้ามาหากัน รวมกันเป็นก้อนสะสมเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีเลือดออกสะสมด้วยเพิ่มขึ้น ก็จะกลายเป็นถุงของเหลวเกิดขึ้น เป็นก้อนทูม ถ้าเนื้อเยื่อมดลูกที่อยู่ผิดที่นี้ ไปอยู่ในเนื้อของรังไข่ก็ดี หรือในเนื้อกล้ามเนื้อของตัวมดลูก ก็จะทำให้อวัยวะนั้น เกิดการสะสมเศษเลือดและพังผืด กลายเป็นก้อนทูมของอวัยวะนั้น เพิ่มขนาดขึ้น ตามกาลเวลาที่ผ่านไป ถ้าไม่ได้รับการแก้ไข เหมือนดินพอกหางหมู ก้อนก็จะกลมขยายขนาด
โรคนี้ก็แปลก บางครั้งก้อนขนาดส้มโอคนไข้ยังไม่มีอาการปวดเลย ขณะที่บางคนเกิดเป็นจุดเท่าหัวไม้ขีด แต่เจ็บปวดมากเวลามีระดู ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เป็นของโรค ถ้าเป็นที่ที่ยืดหยุ่นได้ดี เช่น ที่รังไข่ก็ไม่ค่อยปวด ถ้าเป็นในตัวมดลูก หรือเส้นเอ็นยึดมดลูก มักจะปวดมาก เธอผู้นี้ปวดมาก และแพทย์ตรวจพบว่า มีก้อนที่รังไข่ข้างขวา เธอได้ทำการรักษาจากแพทย์ โดยการผ่าตัด เอาก้อนทูมของรังไข่ออก ซึ่งเธอว่ามีขนาดโตกว่าลูกเทนนิสเล็กน้อย ที่ตัดเฉพาะก้อนทูมรังไข่ เพราะเธอยังไม่ได้แต่งงาน อายุยังเยาว์ การเก็บรักษามดลูก และรังไข่อีกข้าง ที่ดูดี เป็นเหตุผลที่เหมาะสม แต่ส่วนมากแล้ว ความผิดปกติ มักจะกระจัดกระจาย อยู่ทั่วไปในช่องเชิงกราน เป็นจุดเล็กจุดน้อย ดังนั้นเวลาผ่าตัดแพทย์จะต้องพยายามค้นหาความผิดปกติจุดเล็กจุดน้อยแล้วจี้ทำลาย เพราะถ้าปล่อยไว้จุดเหล่านั้นก็จะก่อตัวขยายลามจากพยาธิกลไกดังกล่าวข้างต้น ถ้าจุดเหล่านั้นไปฝังตัวอยู่ในเนื้อเยื่อรังไข่ของอีกข้าง หรือในตัวมดลูกก็สุดที่จะเห็นได้ ก็ต้องปล่อยเลยตามเลย ถ้ามีหลักฐานว่ามีอยู่ก็ต้องให้การรักษาต่อหลังผ่าตัดด้วยการให้ยา เนื้อเยื่อบุมดลูกที่อยู่ผิดที่ฝ่อไป
รายของเธอผู้นี้หลังผ่าตัดก็ไม่มีอาการปวดระดู เธอขาดการติดต่อกับแพทย์ ตั้งหน้าตั้งตาเรียนด้วยทำงานด้วย ชีวิตที่ไม่มีความเจ็บปวดระดู ที่เธอประสบมา ทำให้เธอมีอิสระ รู้สึกชีวิตน่ารื่นรมย์ โดยหารู้ไม่ว่า เจ้าตัวมารของเธอ ยังแอบฝังซ่อนตัว อยู่ในเนื้อมดลูกเงียบ ๆ 2 ปีก็เริ่มแสดงอาการ เริ่มเกาะกินรุกเร้าเธอใหม่ เธอเริ่มมีอาการปวดระดูขึ้นอีก โรคเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกอยู่ผิดที่นี้ เป็นโรคที่แพ้การตั้งครรภ์ หยูกยาต่าง ๆ ปราบไม่ค่อยได้ผล แม้แต่การผ่าตัดก็ตาม ที่ได้ผลชะงักมาคือการตั้งครรภ์ พอผ่าตัดเสร็จส่วนใหญ่ หมอมักจะเร่งให้รีบท้องหลังผ่าตัดเลย บางคนโกรธหมอ เพราะยังไม่ได้แต่งงาน แต่หมอเร่งให้ท้องเสียแล้ว หมอก็ลืมไปว่าไม่ได้แต่งงาน คนไข้ก็โกรธว่า หมอจะให้คนไข้ทำตัวเป็นนางสุวรรณมาลีพิลึกจริง ยาเข็มเป็นหมื่นซึ่งแพงมากราคาเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ที่ใช้รักษาโรคนี้ ก็ยังสู้ผลการรักษา ด้วยการตั้งครรภ์ไม่ได้ เพราะฉะนั้นหมอก็มักจะเจ้ากี้เจ้าการยุคนไข้ให้แต่งงาน เสียก่อนผ่าตัด ถ้ากำลังดูใจกันอยู่ ก็จะถูกหมอเร่งรัด แทนที่จะเป็นพ่อแม่ตัวเอง เพราะหมออยากให้ผ่าตัดเสร็จ ท้องได้เลย
การท้องหรือการตั้งครรภ์นั้น จะทำให้รังไข่และรก สร้างฮอร์โมนออกมากด ให้เนื้อเยื่อบุโพรงมดลูก ไม่ว่าจะอยู่ในที่อันควรหรือไม่อันควรฝ่อแห้งเหี่ยวเฉาไป ยิ่งท้องติด ๆ กันได้ยิ่งดี สัก 2 ถึง 3 ท้องให้ฝ่อสนิทเลย
อีกประการที่หมอต้องเร่งให้ตั้งครรภ์ เพราะโรคนี้ยิ่งนาน ๆ ไป พังผืดยิ่งเกิดมาก ก็จะไปรัดท่อนำไข่ ให้ตันโอกาสตั้งท้องก็จะยิ่งลดลงไปตามกาลเวลาที่ล่วงเลยไป ภารกิจของแพทย์ในการทำไม่ให้คนตั้งครรภ์นั้นง่ายกว่าทำให้คนตั้งครรภ์ได้มาก การแก้การเป็นหมันนั้นเป็นงานมหาโหดน่าดู เธอไม่ยอมทำตามคำแนะนำแพทย์ 2 ปีเท่านั้น หลังผ่าตัดโรคเดิมก็กลับมาเยี่ยมกรายเธออีก เธอซึ่งมีประสบการณ์มาแล้วรู้ซึ่งถึงความทรมานดี ก็ยิ่งกลุ้มยิ่งวิตกกังวลมากกว่าครั้งแรกเป็นหลายเท่าทวีคูณ การงานก็เสีย การเรียนก็ไม่ดีขึ้น เธอต้องทนปวดทุกรอบเดือนเช่นเดิม เธอทนปวดอยู่ต่างประเทศ เพราะการเข้าไปพบแพทย์ ที่เมืองฝรั่งนั้นค่าใช้จ่ายสูงมาก และไม่ใช่นึกอยากจะพบแพทย์ก็เข้าไปได้เลย ต้องมีระบบนัดหมาย เธอซื้อยาแก้ปวดทานจนถึงวันปิดเทอมก็รีบกลับเมืองไทย แพทย์ตรวจพบว่ามีก้อนขึ้นมาอีกในท้องน้อยด้านตรงข้ามที่เคยผ่า ก็คือ ก้อนทูมรังไข่ เช่นเดิม แต่เกิดในด้านรังไข่ที่เห็นปกติเมื่อครั้งแรกที่ผ่าตัดและตัวมดลูกมีขนาดโตขึ้น การให้ยารักษาเป็นทางออกอีกทางหนึ่ง เธอก็ยังไม่ได้แต่งงาน เธออาจจะเกลียด ความเป็นผู้หญิงของเธอก็ได้ เพราะความเป็นสตรีนี่เอง เธอจึงต้องทรมานซ้ำแล้วซ้ำอีก เธอต้องทานยาซึ่งก็ค่อนข้างจะแพง เพื่อทุเลาอาการของโรคก็ว่าได้ อาการดูดีขึ้นในระยะปีแรกของการใช้ยา แต่ในระยะหลังมานี้เธอปวดมาก ขึ้น ๆ จนเธอหมดหวังกับการรักษาทานยา เธอได้ขอให้ญาติซึ่งเป็นพยาบาลมาพบแพทย์ เพื่อ "ตัดเถอะหมอ"
เธอมาพบในสภาพที่ได้บรรยายมาต้อนต้นน่าสงสาร ยิ่งตรวจร่างกาย ซักประวัติ และตรวจพิเศษเพิ่มเติมบางประการที่จำเป็นแล้วก็ยิ่งสงสาร เพราะจากการตรวจ พิเคราะห์โรค เจ้าตัวร้ายคือ เนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกไปแอบแฝงผิดที่ผิดทางอยู่ในตัวมดลูก และฟูมฟักเชื้อร้ายมานานจนมดลูกมีขนาดโตขนาดคนตั้งครรภ์ได้ 3-4 เดือน ยิ่งก้อนโตการทำลายก็ยิงเกิดขึ้นมากเท่านั้น ไม่ยังตรวจพบว่ามีพังผืด และมีการยึดรั้งทำลายของรังไข่ ข้างที่เหลืออยู่ได้วย อันบ่งถึงพยาธิสภาพของโรค ค่อนข้างจะรุนแรง จนไม่อาจจะทำการรักษา ด้วยวิธีอนุรักษ์ คือ เก็บอวัยวะเพศภายใน เพื่อการสืบเผ่าพันธุ์ไว้ได้
การผ่าตัดเป็นหนทางการรักษาที่เหมาะสมที่สุด เพราะมดลูก โดยเฉพาะการแบ่งตัว ของเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูก ในตัวกล้ามเนื้อมดลูกนั้นจะยากต่อการใช้ยารักษาที่จะเข้าไป ทำลายได้ จึงทำให้เจ้าเนื้อผิดที่เหล่านี้ฟูมฟักอยู่ในตัวมดลูกและค่อย ๆ โตวันโตคืน เนื่องจากกระจัดกระจายอยู่เป็นกลุ่ม ๆ ในเนื้อมดลูก และแต่ละกลุ่ม ก็เจริญเติบโต ไม่เท่ากัน ทำให้ก้อนมดลูกจะโตไม่สม่ำเสมอ ขรุขระเป็นปุ่มปม
เนื่องจากเนื้อที่ค่อนข้างจำกัด และยืดหยุ่นน้อยพอขยายขนาดก็จะเกิดการเจ็บปวดขึ้น และจะปวดรุนแรงมากขึ้น ตามกาลเวลาที่ล่วงเลยไป การตรวจก่อนผ่าตัด ก็บ่งว่า งานชิ้นนี้หิน คือ ยาก เพราะโรคนี้มักจะเกิดพังผืดดังกล่าว แล้วดึงลำไส้ และอวัยวะในช่องเชิงกราน มาพันกัน ยุ่งอีรุงตุงนังไปหมด ทำให้อวัยวะอยู่ผิดตำแหน่ง ที่สำคัญ โรคนี้ต้องอาศัย ความชำนาญในการผ่าตัดมาก ต้องมีทักษะเฉพาะ เพราะมิฉะนั้นจะมีอันตรายต่อท่อไตเอย กระเพาะปัสสาวะเอย ลำไส้ส่วนต่าง ๆ และที่สำคัญคือ หลอดเลือดใหญ่ ซึ่งอาจจะก่อ อันตรายแทรกซ้อนรุนแรงแก่ผู้ป่วยได้ เคยได้รับปรึกษาผู้ป่วยลักษณะนี้ใกล้เคียงกันมาก เคยผ่าตัดมาก่อนด้วยโรคดังกล่าวนี้แล้วเป็นซ้ำมาอีก
แม่เจ้าประคุณเอ๋ย ยืนผ่าตัด 7 ชั่วโมงกว่าจะแล้วเสร็จ ผ่านานกว่าคนไข้โรคมะเร็ง เสียด้วยซ้ำไป รายนั้นพอเสร็จผ่าตัดก็ทานข้าวบูดพอดี เพราะเข้าผ่าตัดสาย ๆ หน่อย สั่งอาหารเที่ยงไว้รอ ที่ไหนได้เสร็จเย็นออกมาอาหารบูด นี่แหละชีวิตของหมวย (หมอ) สำหรับคุณเธอผู้นี้ กำลังรอคิวการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เนื่องจากยังโสดยังไม่มีบุตร หน้าที่ของแพทย์ ก็จะพยายามอนุรักษ์อวัยวะ เพื่อการสืบเผ่าพันธุ์ดำรงสกุลไว้ ถ้าอวัยวะนั้น จะยังสามารถทำหน้าที่ได้ไม่เสียหายมาก ซึ่งการตรวจประเมินที่แม่นยำ จะช่วยในการ วางแผนการผ่าตัดที่รอบคอบ จะเกิดประโยชน์แก่ผู้ป่วยมาก การฉีดสีเข้าโพรงมดลูกก็ดี การฉีดสีดูท่อไตก็ดีเป็นการตรวจประเมินขอบเขตของโรค การแพทย์ปัจจุบัน การรู้ว่าเป็นโรคอะไร เป็นรุนแรงแค่ไหน เป็นเรื่องสำคัญ เพราะการรักษา มีแบบแผนอยู่แล้ว การซักประวัติ การตรวจร่างกาย ที่ละเอียด รอบคอบ ถูกต้อง การส่งตรวจแล็บที่จำเป็น เหล่านี้ต่างหากที่สำคัญ ซึ่งเป็นศาสตร์ หมอจะมีความแตกต่างเหลื่อมล้ำในฝีมือก็อันนี้แหละ
ขณะนี้ทั้งคนไข้ทั้งหมอผู้ดูแลก็ลุ้นพอกัน เพราะวางแผนการผ่าตัดไว้ ไปอีกสองสัปดาห์ และคงมีภาคสองมาเสนอต่อไป
น.พ.วีระ สุรเศรณีวงศ์
main |