น.พ.อานนท์ เรืองอุตมานันท์
ก่อนหน้านี้เคยเขียนมาเล่าสู่กันเรื่องทำยังไงถึงไม่ท้อง ก็เรื่องราวของการคุมกำเนิด ด้วยวิธีต่าง ๆ นั่นแหละ แต่ทว่าผู้อ่านอีกหลาย ๆ คนที่กำลังคิดจะมีลูกก็มีปัญหาว่า "ทำยังไงถึงจะท้องซะที" วันนี้จะว่ากันถึงเรื่องจังหวะเวลา การปฏิบัติ ความถี่ ที่จะทำให้มีโอกาสตั้งท้องได้สูงสุดกัน
ตั้งท้องยุคนี้ดูสวนกระแสเหมือนกันนะครับ เพราะใคร ๆ ต่างก็แห้งเหี่ยวไปตาม ๆ กัน แต่การมีลูกเป็นการลงทุนระยะยาว บางคนอาจจะคิดว่าอายุก็มากแล้ว รอไปอีกก็ไม่เห็นอนาคต ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะเป็นยุคทองของไทยอีก ปล่อยให้ท้องซะตอนนี้หมดเรื่องหมดราว
บางคนมีลูกมาแล้วก็อยากมีไปที่เดียวเลย เลี้ยงโตขึ้นมาด้วยกัน ใช้ของร่วมกันได้ ถือเป็นการประหยัดอีกด้วย เหนื่อยทีเดียวจบกันไปเลย มีลูกห่างเกินไปก็ไม่ดี ปกติแล้วควรมีลูกห่างกันประมาณ 2-3 ปีกำลังดี ถ้าห่างไปกว่านี้ลูกจะต่างวัยกัน มากเกินไป ลูกคนโตจะเริ่มติดเพื่อนมากกว่าที่จะสนใจน้องซะแล้ว ก็เลยอาจทำให้พี่กับน้องไม่ค่อยสนิทกันก็ได้
เอาล่ะจะยังไง ถือว่าตอนนี้ตัดสินใจจะมีลูกอีกคนก็แล้วกัน ต้องเตรียมพร้อมอะไรบ้างล่ะ
ก่อนที่เราจะมีลูกอีกคนก็ต้องคิดกันก่อนว่าจะเลี้ยงไหวหรือเปล่า มีเวลาเลี้ยงหรือเปล่า มีเงินเพียงพอที่จะเลี้ยงดูได้ดีหรือเปล่า เดี๋ยวนี้นะแค่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปยี่ห้อฝรั่ง ไทยใช้ ห่อหนึ่งก็ตั้งห้าร้อยกว่าบาทแล้ว เลี้ยงลูกอย่างเดียวเงินเดือนก็หมดซะแล้ว คงต้องเก็บหอมรอมริบไว้ล่วงหน้าสักหน่อยนะครับ
ก่อนจะเริ่มตั้งครรภ์ ว่าที่คุณแม่ต้องมีสุขภาพที่ดีด้วย จึงควรไปพบคุณหมอ แล้วบอกคุณหมอไปตามตรงเลยนะว่า ตอนนี้อยากมีลูกแล้ว คุณหมอจะให้คำแนะนำ แล้วก็ตรวจร่างกายคุณแม่ว่ามีอะไรผิดปกติ ที่สำคัญก็ต้องตรวจภายใน เช็กมะเร็ง
ปากมดลูก ตรวจดูปีกมดลูกว่ามีก้อนเนื้อหรือซีสต์อะไรผิดปกติหรือเปล่า หากมีอะไรไม่ชอบมาพากล ก็จะได้รีบรักษาให้หายเสียก่อน ดีกว่ามาเจอความผิดปกติ เอาตอนท้อง ซึ่งก็จะทำให้รักษายากเพราะต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อเด็กในท้องอีกคนด้วย
ที่สำคัญและลืมไม่ได้ก็คือ ต้องตรวจเลือดด้วย เพื่อหาโรคเอดส์ ซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบบี หัดเยอรมัน ตอนนี้ไว้ใจใครได้ง่าย ๆ ซะเมื่อไหร่ล่ะ
เอาเป็ว่าตอนนี้ก็พร้อมเต็มที่ ทุนทรัพย์พร้อม ร่างกายพร้อม มดลูกพร้อม สามีพร้อม ตอนนี้ก็ถึงภาคปฏิบัติทำให้ท้องซะที
มูกไข่ตก
ช่วงนี้สำคัญเชียวล่ะ
เมื่อเราตั้งใจจะมีลูก ควรให้ความสนใจกับรอบเดือนของตนเองมาก ๆ หน่อย ต้องคอยจดไว้ว่าประจำเดือนมาเมื่อไหร่ หมดเมื่อไหร่ มาสม่ำเสมอดีหรือเปล่า
ที่ต้องให้จด เพื่อจะได้รู้ว่าไข่จะตกเมื่อไหร่นั่นเองครับ
ในผู้หญิงที่มีประจำเดือนมาทุก 28 วัน ถ้านับว่าประจำเดือนมาวันแรกเป็นวันที่ 1 ของรอบ ไข่ก็จะตกในวันที่ 14 แต่สำหรับผู้หญิงบางคนประจำเดือนอาจมาทุก 30 วัน ไข่ก็จะตกในวันที่ 16 ของรอบ หรือประจำเดือนมาทุก 32 วัน ก็จะตกไข่ในวันที่ 18 ของรอบ คือเกิน 28 วันไปเท่าไรก็บวกกับวันที่ไข่ตกไปเท่านั้น
ช่วงที่มีไข่ตกจะสังเกตว่ามีตกขาวเป็นมูกใส ๆ ลื่น ๆ เฉอะแฉะออกมาเยอะ
อย่างนี้เรียกว่า "มูกไข่ตก" ถ้าลองใช้มือจับเอามูกนี้ติดมือออกมาก็จะพบว่ามันใส ลื่น แล้วก็สามารถจับยืดได้กว่า 10 เซนติเมตรโดยไม่ขาดจากกัน แตกต่างจากมูก ตอนช่วงอื่น ๆ ที่เหนียว ข้น แล้วก็ไม่สามารถจับยืดได้มากนัก
ถ้าเจอมูกอย่างนี้จัดการได้เลยครับ
แต่สำหรับผู้หญิงบางคนประจำเดือนอาจมาไม่ค่อยสม่ำเสมอเป็นปกตินัก บางทีก็
30 วัน 35 วัน บางทีหายไป 2 เดือนเลยก็มี กรณีนี้การนับวันก็คงจะลำบากนิดหน่อย ก็คงต้องใช้วิธีสังเกตมูกไข่ตกช่วยด้วย
ในช่วงที่มีไข่ตกนี้ บางคนก็อาจมีอาการปวดถ่วง ๆ ระบมในท้องน้อย ปวดร้าวออกไป ข้างหลัง อาการนี้ก็เกิดจากรังไข่เป่งบวม มีไข่ตกแตกทะลุออกมา บางทีก็มีเลือดไหล ซึมออกมาจากรังไข่ไปขังอยู่ในอุ้งเชิงกรานก็ทำให้เกิดการปวดท้องน้อยได้ ผู้หญิงบางคนก็มีอาการนี้นาน ๆ ที บางคนก็เป็นบ่อย ส่วนมากแล้วอาการปวดท้องน้อยนี้ จะหายได้เองใน 1-2 วัน ผู้หญิงบางคนพอมีอาการระบมในท้องน้อยอย่างนี้ ก็ไม่อยากที่จะมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้ เลยไม่ท้องซะที
ยุ่งกันถี่
ใครว่าจะมีลูกง่าย ๆ
นอกจากนี้แล้วก็เป็นหน้าที่ของผู้ชายบางล่ะ
ผู้ชายก็ต้องทำหน้าที่ของตัวให้ตรงช่วงกับที่มีไข่ตก แต่บางคนกลับขยันเกินไป ช่วงสัปดาห์ที่มีไข่ตกก็จัดการทำการบ้านทุกวัน วันละหลาย ๆ นัด เรียกว่าถล่มปูพรมกะให้ติดให้ได้ ระบมอย่างนี้ไม่ได้เกิดจากไข่ตกนะครับ กลายเป็นยุ่งกันมากจนระบมมากกว่า สุดท้ายก็ไม่ติดครับ
การมีอะไรกันถี่มากเกินไปก็ทำให้โอกาสในการตั้งครรภ์น้อยลง
หลาย ๆ คนอาจจะเข้าใจผิดคิดว่ายิ่งยุ่งกันถี่ ๆ ยิ่งมีโอกาสท้องได้ง่ายขึ้น ถ้าคุณผู้ชายรู้จักตัวอสุจิลูกหลานของคุณเองก็จะเข้าใจเองนะครับ
ตัวอสุจิสร้างออกมาจากลูกอัณฑะทั้งสองข้าง โดยค่อย ๆ เติบโตจากตัวอ่อนเบบี้ จนโตเต็มที่เป็นหนุ่มใหญ่วัยผสมพันธ์ใช้เวลาประมาณ 48 ชั่วโมงหรือ 2 วัน หลังจากนั้นก็จะค่อย ๆ แก่ตัวลง หมดเรี่ยวหมดแรงไปในที่สุด
ดังนั้นหากมีการปล่อยตัวอสุจิออกไปทำหน้าที่ถี่ ๆ ทุกวันทุกคืน ตัวอสุจิที่ออกไป ยังโตไม่ทันเป็นแค่ตัวอ่อนเบบี้ ยังทำอะไรไม่เป็นก็เหมือนเกณฑ์เด็กไปเป็นทหาร มันก็ไม่ได้ประสิทธิภาพสูงสุดหรอกครับ
ยุ่งกันบ่อย
แค่ไหนมีสิทธิ์ "ติดลูก"
อัตราการมีเพศสัมพันธ์ที่กำลังดีคือ วันเว้นวัน หรือสัปดาห์ละ 4 ครั้ง ซึ่งตัวอสุจิ ที่ปล่อยออกไปจะเป็นตัวที่โตเต็มที่ แข็งแรงแหวกว่ายเข้าไปได้จนถึงปลายทาง ปกติแล้วตัวอสุจิจะใช้เวลาเดินทางแค่ไม่ถึง 5 นาที นับตั้งแต่ปล่อยออกมาเข้าไปใน
ปากมดลูก ผ่านตัวมดลูก แล้วแบ่งกันวิ่งเลี้ยวเข้าไปในปีกมดลูก จนวิ่งเข้าไปเจอไข่ ที่ล่องลอยอยู่ในปีกมดลูก แต่มีแค่ตัวเดียวที่สามารถเจาะไข่แดงเข้าไปได้
จริง ๆ แล้ว ตัวอสุจิมันไม่รู้หรอกครับว่า ต้องวิ่งเข้าไปยังไง ตรงไป เลี้ยวซ้าย หรือ
เลี้ยวขวา ไม่มีป้ายคอยบอกทาง ไม่มีแผนที่ดูเอาไว้ก่อน แต่เพราะตัวอสุจิที่ปล่อยออกมา มีจำนวนมากมาย ปล่อยออกมาที่หนึ่งก็เป็นหลายร้อยล้านตัวแต่ละตัวต่างวิ่งไม่รู้อิโหน่อิเหน่ บางตัววิ่งออกมาข้างนอก บางตัวก็วิ่งวนไปวนมา มีบางตัววิ่งเข้าไปในปากมดลูกได้สำเร็จ และมีแค่ประมาณ 5 พันตัวเท่านั้นเอง ที่สามารถวิ่งไปถึงไข่ แต่ก็มีหนึ่งในห้าพันนี้เท่านั้น ที่เจาะเข้าไปในไข่ เกิดการปฏิสนธิได้สำเร็จ
ผู้หญิงบางคนพอมีเพศสัมพันธ์กันแล้ว ก็รีบล้างออกทันทีจนหมด ถ้าอยากมีลูกไม่ควรล้างออกนะครับ ให้นอนหงายนิ่ง ๆ อย่างน้อย 5 นาที เพื่อไม่ให้น้ำอสุจิไหลออกมาข้างนอกหมดเสียก่อน ถ้าอยากมีลูกแล้ว น้ำอสุจิมีค่าทุกหยาดหยดเลยนะครับ
น้ำอสุจิของผู้ชายเราไม่ใช่เป็นของที่สกปรก แต่ที่จริงแล้วมันสะอาดปราศจากเชื้อโรค
ใด ๆ ทั้งสิ้น ยกเว้นในกรณีที่ผู้ชายคนนั้นเป็นกามโรคนะครับ ดังนั้นหากมันตกค้าง อยู่ภายในช่องคลอดชั่วข้ามคืนก็ไม่ได้ทำให้เกิดผลเสียใดตามมาหรอกครับ
ตรวจรับผลงาน
คราวนี้ก็ต้องรอดูผลงาน เมื่อถึงครบกำหนดที่ต้องมีประจำเดือนมา แต่กลับเงียบจ้อย หายไปเฉย ๆ ก็ส่อแววว่าจะตั้งครรภ์แล้ว ก็ให้ตรวจครรภ์ด้วยตนเองก่อน หาซื้ออุปกรณ์สำหรับตรวจได้จากร้านขายยาทั่วไป ปัสสาวะที่ใช้ตรวจก็ควรเป็น ปัสสาวะในตอนเช้า เพราะว่ามันจะมีปริมาณฮอร์โมนออกมาค่อนข้างเยอะ
ตรวจเจอง่ายกว่า สายๆ บ่าย ๆ กินโน่นกินนี่ ปัสสาวะอาจจะเจือจางลงแล้ว ตรวจไม่เจอก็ได้
ถ้าตรวจครรภ์แล้วปรากฏว่า "ท้อง" ก็ถือว่าสำเร็จตามหลักสูตร
ถ้าตรวจดูแล้ว "ไม่ท้อง" ให้รออีกหน่อยรออีก 7 วัน ประจำเดือนยังไม่มา ก็ให้ตรวจปัสสาวะซ้ำอีกครั้ง บางคนมาตรวจเจอเอาครั้งหลังก็มีเหมือนกัน ต้องลุ้นกันหน่อยครับ
สำหรับบางคู่ เพียรพยายามมาครบทุกสูตรแล้วก็ยังไม่ท้อง มีเพศสัมพันธ์กันตามปกติ ไม่ได้ว่างเว้น แล้วก็ไม่ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีใด ๆ ด้วย หากเกิน 1 ปีไปแล้ว ก็ให้ปรึกษา คุณหมอได้เลยครับ คุณหมอสูติฯ ที่รักษาเกี่ยวกับการมีบุตรยากนั่นแหละครับ
คนที่อยากมีลูกก็ขอให้ประสบความสำเร็จนะครับ จะได้เป็นแฟน "ดวงใจพ่อแม่"
กันไปนาน ๆ
ถ้าอย่างนี้ก็มีลูกง่าย |
ข้อมูลตรงนี้อาจช่วยให้แผนการมีลูกประสบความสำเร็จได้มากขึ้น |
|
น.พ.อานนท์ เรืองอุตมานันท์
main |