เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2541 นางอรพรรณ มาตังคสมบัติ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ปรึกษา โครงการยาต้านเชื้อเอชไอวี จากมะระขี้นก ทบวงมหาวิทยาลัย แถลงความคืบหน้า การผลิตยา รักษาโรคเอดส์ จากมะระขี้นกว่า ขณะนี้ทีมงานวิจัย ได้สกัดโปรตีนหยาบ จากเมล็ดแก่ ของมะระขี้นก ได้เป็นผงสีขาวนวล และเมื่อตรวจสอบ พบว่า ให้ผลยับยั้งเอ็นไซม์ รีเวิร์สทรานสคริบ ซึ่งเป็นเอ็นไซม์ ที่เชื้อเอชไอวี ใช้ในการ เพิ่มจำนวน และเนื่องจากโปรตีนสกัดหยาบจากเมล็ดมะระขี้นก จะถูกเอ็นไซม์ ในระบบย่อยอาหารทำลาย หากนำเข้าสู่ ร่างกาย โดยการรับประทาน คณะผู้วิจัยจึง ใช้วิธีพ่นทางจมูก และสวนทางทวารหนัก ซึ่งจะมีผลต่อร่างกายทันที อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้ใช้โปรตีนหยาบ ที่สกัดได้ ชนิดดังกล่าว ทดลองกับมนุษย์ เพราะยังไม่มั่นใจ ผลการศึกษาด้านพิษวิทยา
"ทุกย่างอยู่ระหว่างการทดลอง แม้ว่าผลเบื้องต้น จะออกมาน่าพอใจมาก แต่เราก็ไม่สามารถรับรองได้ได้ว่า มะระขี้นก จะทำให้ผู้ป่วยโรคเอดส์ หายขาด 100 % เพราะขณะนี้ ในท้องตลาด หรือห้างสรรพสินค้า หลายแห่ง มีแคปซูล มะระขี้นกออกมาวางขาย บางที่อ้างว่า รักษาโรคเอดส์ได้ แต่จากการตรวจสอบพบว่า แคปซูลเหล่านี้ มีเพียง เนื้อมะระขี้นกอบแห้ง บรรจุอยู่เท่านั้น ซึ่งคุณสมบัติมีประโยชน์สูงสุด เพียงแค่ช่วย ให้เจริญอาหารเท่านั้น ไม่มีผลต่อเชื้อเอชไอวีเลย" นางอรพรรณกล่าว
นายวิเชษฐ์ ลีลามานิตย์ ประธานกรรมการ โครงการวิจัยเอดส์ ทบวงมหาวิทยาลัย กล่าวว่า จากกากรเฝ้าสังเกต คนไข้ ที่ติดเชื้อเอดส์ประมาณ 16 คน ที่ใช้เมล็ดมะระขี้นก ปั่น นำมากรองแล้วพ่นเข้าจมูก หรือสวนทาง ทวารหนัก เทียบกับคนไข้ที่รับประทานยา เอ แซด ที และตัวยาอื่น ที่ใช้ระงับเชื้อเอชไอวี ปรากฏว่า กลุ่มผู้ติดเชื้อ ที่ใช้เมล็ดมะระขี้นก มีอาการดีขึ้น ในลักษณะเดียวกับ ผู้ป่วยที่รับประทานยา เอ แซด ที มาก แต่ผลดังกล่าว ยังไม่สามารถชี้ชัดว่า มะระขี้นก รักษาโรคเอดส์ได้ เพราะกลุ่มที่ถูกเฝ้าสังเกต ยังมีจำนวนน้อย และใช้เวลาไม่มากพอ คาดว่า อีกไม่นาน คณะผู้วิจัย จะมีความก้าวหน้ามากกว่านี้
main |