นพ.อมรชัย หาญผดุงธรรมะ
โรคตับอักเสบจากเชื้อไวรัสเป็นปัญหาสำหรับประชากรหลายประเทศ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ถือว่าโรคนี้เป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของโลกทีเดียว
ปัจจุบันพบเชื้อไวรัสตับอักเสบแล้วกว่า 5 ชนิด เช่น เชื้อไวรัสตับอักเสบ เอ, บี, ซี, ดี และอี เป็นต้น ตับอักเสบเป็นได้ทั้งเฉียบพลันและเรื้องรังครับ
ไวรัสตับอักเสบบางชนิดทำให้เกิดเฉพาะตับอักเสบชนิดเฉียบพลัน เช่น เอและอี ส่วนชนิด บี, ซีและอี ก่อให้เกิดตับอักเสบชนิดเรื้อรังได้บ่อย
เชื้อไวรัสตับอักเสบ บี นั้นพบว่าราว 300 ล้านคนทั่วโลกเป็นพาหะของเชื้อนี้ ในบ้านเราซึ่งพบราว 6% ก็หมายความว่า กว่า 3 ล้านคนติดเชื้อนี้เข้าแล้ว และยังพบว่าเป็นสาเหตุของโรคตับแข็ง กว่า 1 ใน 3 ของผู้ป่วยตับแข็งทั้งหมด
นอกจากนี้คนที่เป็นพาหะของไวรัสบีนี้ยังเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับมากกว่าคนปกติถึง 200 เท่าครับ
เชื้อไวรัสตับอักเสบซี ต่างจากชนิดบีที่มันเป็นไวรัสชนิด อาร์เอ็นเอ (RNA) และไม่ใช่เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งตับ ถึงกระนั้นก็ยังไว้ใจไม่ได้ครับ เพราะมันก็เป็นสาเหตุใหญ่ของโรคตับแข็ง
ติดเชื้อตับอักเสบบีหรือซีได้อย่างไร
อาจติดได้หลายทางครับ เช่นติดจากเลือด หรือน้ำที่คัดหลั่งจากร่างกายของผู้ที่มีเชื้อนี้อยู่ อาจติดได้จากการร่วมเพศกับผู้ที่ป่วยหรือเป็นพาหะของไวรัสตับบีหรือซี
ผู้เสพยาเสพติดโดยการฉีดอาจได้รับเชื้อจากการใช้เข็มร่วมกันกับผู้ที่มีเชื้อ แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่เจาะหรือตรวจเลือดอาจได้รับเชื้อจากเข็มตำถ้าเข็มนั้นใช้กับผู้ป่วย มาก่อน
อาการของตับอักเสบเป็นอย่างไร |
ตับอักเสบจากเชื้อบีหรือซีอาจมีอาการดังต่อไปนี้ครับ
|
ตับอักเสบเฉียบพลันกับเรื้อรังต่างกันอย่างไร
เมื่อได้รับเชื้อเข้ามาและมีอาการดังกล่าวข้างต้นก็เรียกว่าอยู่ในระยะเฉียบพลันครับ ระยะนี้อาจเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนก็ได้แล้วก็ฟื้นตัว อาการดีขึ้น หลายรายหายเป็นปกติ
ที่กลายเป็นเรื้อรังคือ ผู้ป่วยที่ตับไม่ยอมฟื้น ยังมีอาการอักเสบอย่างต่อเนื่อง เซลล์ตับถูกทำลายไปเรื่อย ๆ
ราว 10-20% ของผู้ป่วยเป็นตับอักเสบจากไวรัสบีจะเกิดเป็นตับอักเสบเรื้อรัง ส่วนคนที่ตับอักเสบจากไวรัสซีจะเป็นเรื้อรังเสียตั้ง 30-50% ทีเดียว
ตับอักเสบเรื้อรังมีอาการอะไรบ้าง ?
คนที่เป็นน้อยอาจไม่ทันสังเกตว่ามีอาการก็ได้ ตับอักเสบเรื้อรังจะนำไปสู่การเกิดตับแข็ง
ตับแข็ง หมายถึง การที่เซลล์ตับตายไปแล้วถูกแทนที่ด้วยพังผืด และไขมัน การทำงานของตับจะเสียไปเรื่อย ๆ ไม่สามารถทำลายสารที่เป็นพิษต่อร่างกาย
เมื่อตับแข็งใหม่ ๆ อาจยังไม่มีอาการ จนกระทั่งตับแข็งมากอาจแสดงอาการดังนี้
ตับแข็งมากอาจแสดงอาการดังนี้ |
|
จะวินิจฉัยตับอักเสบเรื้อรังได้อย่างไร ? |
|
รักษาได้แค่ไหน ?
ต้องยอมรับว่ารักษายากครับ ยิ่งเมื่อกว่า 10 ปีก่อน หรือก่อนหน้านั้นด้วยแล้ว โรคนี้สร้างความหนักใจแก่แพทย์มากทีเดียว เพราะยังไม่มีวิธีการรักษาที่ได้ผล เรียกว่า วินิจฉัยได้ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
แต่ขณะนี้มีความหวังขึ้นมาบ้าง เนื่องจากค้นพบยาซึ่งรักษาได้ผลดีขึ้นกว่ายารุ่นก่อน ๆ
1. การรักษาทั่วไป เป็นการรักษาประคับประคองและรักษาตามอาการ
ยานี้ต้องใช้ฉีดและใช้ขนาดยาสูง ให้ยาต่อเนื่องไป 3-5 เดือน ค่าใช้จ่ายจึงค่อนข้างสูงครับ อย่างไรก็ตามผู้ที่เป็นพาหะของไวรัสตับบีโดยไม่มีอาการมักจะรักษาไม่ได้ผล
สำหรับตับอักเสบเรื้อรังจากไวรัสตับซี การักษาด้วยยานี้ก็มีจุดประสงค์เช่นเดียวกับ การรักษาตับอักเสบจากไวรัสบี ผลการรักษายังไม่สู้ดีนักและยังขึ้นอยู่กับว่าเป็นการอักเสบชนิดใดด้วย
อินเตอร์เฟรอนมีผลข้างเคียงไหม ? |
มีครับ ผลข้างเคียงที่ไม่ปรารถนาที่พบบ่อยได้แก่ อาการคล้ายไข้หวัด คือ
|
ผลข้างเคียงที่รุนแรงก็มีแต่มักพบได้น้อย |
|
จะป้องกันตับอักเสบบีหรือซีได้หรือไม่ ?
วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสบีหรือซีคือ หลีกเลี่ยงการปฏิบัติที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น
- การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
- การร่วมเพศกับผู้ที่มีเชื้อโดยไม่ได้ป้องกัน (เช่น ใช้ถุงยาง
อนามัย)
สำหรับไวรัสบีมีวัคซีนป้องกันแล้ว ผู้มีความเสี่ยงสูงก็ควรฉีดป้องกัน เช่น เจ้าหน้าที่ ที่ใกล้ชิด ผู้ป่วยหรือเลือด, เด็ก, พวกฉีดยาเสพติด, ผู้ที่สักตัว, โสเภณี, พวกรักร่วมเพศ เป็นต้น
ไวรัสตับซียังไม่มีวัคซีนป้องกันครับ ต้องระวังตัวเองได้อย่างเดียวเท่านั้น
ขอให้โชคดี ขอให้ปลอดจากโรคนี้ครับ
นพ.อมรชัย หาญผดุงธรรมะ
main |