|
|
อาชญากรรมความรุนแรงในสังคมไทย
กำลังเป็นปัญหาที่หลายฝ่าย
เป็นห่วงเป็นใยกันมากขึ้นทุกขณะ
เนื่องเพราะสถานการณ์ชักจะหนักหนาสาหัส
และที่สำคัญกำลังขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ต้องดูอื่นไกลเอาแค่เรื่องของ
"เด็ก" ที่อดีตมักเป็น
"ผู้ถูกกระทำ"
แต่ปัจจุบันกลับกลายมาเป็น
"ผู้กระทำ" เสียเอง
|
"อาชญากรเด็ก" คำที่ไม่มีใครอยากได้ยิน
แต่...เดี๋ยวนี้ฟังกันจนชินหู !!
3 วันก่อน สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข หรือ สวรส.
ก็เพิ่งจะจัดเสวนาเรื่อง "อาชญากรเด็ก" ไปสดๆ ร้อนๆ
มีผลการศึกษาวิจัยพฤติกรรมความรุนแรงของเด็กและเยาวชน
อายุไม่เกิน 17 ปี ที่ไปก่อคดีฆ่า คดีข่มขืน คดีฆ่าข่มขืน 10 คดี
ที่ทาง สวรส.ให้ทุนนักเขียนอิสระ อรสม สุทธิสาคร
ไปดำเนินการศึกษาวิจัย
บางส่วนของคดีที่ อรสม นำมาเปิดเผยก็มีคดี
"เด็กฆ่าเด็ก" ที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เด็กวัยรุ่นอายุ 17
ฆ่าบั่นคอเด็กหญิงวัย 10 ขวบ ด้วยเหตุผลแค่เด็กหญิงที่เป็นเหยื่อ
ปากจัด ชอบด่าและรังแกน้องสาวต่างพ่อ
เมื่อย้อนไปดูพื้นฐานทางครอบครัวก็พบว่า
เด็กที่ก่อเหตุอยู่ในครอบครัวที่ล่มสลาย พ่อ-แม่เลิกร้างกัน
ต่างคนก็ต่างไปมีครอบครัวใหม่ มีลูกใหม่ เจ้าตัวต้องอาศัยอยู่กับยาย
และน้องสาว จึงเก็บกด ก้าวร้าว
อีกคดีเป็นคดี "เด็กฆ่าข่มขืนเด็ก"
ที่ อ.บ่อไร่ จ.ตราด เด็กชายวัยเพียง 13 ปีเศษ
ล็อกคอจะข่มขืนเด็กหญิงวัย 7 ขวบในห้องน้ำวัด
เหยื่อขาดอากาศหายใจเสียชีวิตอนาถ
รายนี้ยิ่งน่าสลดใจ...เด็กที่ก่อคดีอยู่ในครอบครัวฐานะยากจน
ซ้ำพ่อ-แม่ยังขี้เมา ทะเลาะตบตีกันเป็นนิจ เด็กขาดความอบอุ่น
จึงหนีออกจากบ้านไปอยู่วัด แต่หนีเสือปะจระเข้ไปเจอพระตุ๊ดเกือบทั้งวัด ต้องตกอยู่ในวังวนเรื่องเพศวิตถารผิดธรรมชาติ
จนก่อให้เกิดสัญชาตญาณทางเพศที่เถื่อนดิบ
นำมาซึ่งเรื่องเลวร้ายในที่สุด
ทั้ง 2 รายนี้ครอบครัว พ่อ-แม่นั่นเองที่เป็นชนวนให้เกิดคดีขึ้น !!
เป็นคดีที่เด็กทำกับเด็กด้วยกัน เพราะทำได้ง่ายกว่าไปทำผู้ใหญ่
แต่ก็มิได้หมายความว่าโอกาสที่เด็กจะไปก่อคดีโหดกับผู้ใหญ่จะไม่มี คงจำกันได้ว่าเมื่อไม่นานมานี้เด็กอายุแค่ 14 ก็ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์นักศึกษาสาว ศาลเพิ่งจะตัดสินให้มีโทษจำคุก 10 ปีไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อหลายวันก่อนมานี้เอง
หรืออย่างกรณีเด็กชายคนหนึ่งตัดสินใจคว้าปืน
มาระเบิดสมองพ่อตัวเอง เพราะกดดันจนสุดทนกับสภาพที่เห็นพ่อขี้เมา
ทำร้ายตบตีแม่อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ต้นเหตุสำคัญของปัญหาความรุนแรงในเด็ก
หรือ "อาชญากรเด็ก" นี้ ว่าไปแล้วมีอยู่หลายปัจจัยด้วยกัน
ไม่เพียงแค่สภาพความเป็นอยู่ หรือสภาพครอบครัวเท่านั้น
ว่ากันตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็กๆ เรื่องของ "อีคิว" หรือ
ความเฉลียวฉลาดทางอารมณ์ พ่อ-แม่จำเป็นต้องใส่ใจพัฒนาให้ลูก ผู้ที่ขาดอีคิวจะไม่รู้จักไม่เข้าใจอารมณ์ตัวเอง แยกแยะ
และควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ปรับตัวเข้ากับสังคมไม่ได้
คนที่มีอีคิวไม่ดีอารมณ์จะรุนแรง รักใครรักสุดตัว ดีก็ดีใจหาย
แต่ยามโกรธนั้นน่ากลัว
มีโอกาสก่อเหตุร้ายแรงฆ่าแกงใครได้ทุกวินาที!!
"คนเราไม่ว่าจะฉลาดเพียงใด หากขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่เหมาะสมก็จะไม่สามารถอยู่ในสังคมได้ ผู้ใหญ่ที่ขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่ดีเมื่อถูกกระตุ้นแค่นิดหน่อย
ก็อาจก่อเรื่องเลวร้ายได้ทันที เพราะไม่รู้จักอดทน"
ม.ล.น.พ.สมชาย จักรพันธุ์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต
เคยยืนยันเรื่อง นี้ไว้ ขณะที่ วัลลภ ปิยมโนธรรม นักจิตวิทยา
ก็เคยเตือนว่า แม้แต่ "ของเล่น" ที่เด็กเล่น "การ์ตูน" ที่เด็กดู ก็อาจมีผลทำให้เด็กกลายเป็นคนก้าวร้าว ชอบใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาได้
เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น อย่างการ์ตูนที่มีการต่อสู้
มีภาพมีรูปลักษณ์ของการใช้อาวุธ ใช้ความรุนแรงเข้าห้ำหั่นกันนั้น
เด็กเล็กวัยไม่เกิน 10 ขวบจะซึมซับเข้าไว้ได้ง่ายมาก
มันจะติดฝังอยู่ในหัวของเด็ก รอวันระบายออกมาในทางร้ายๆ
"มันเป็นอันตรายที่ไม่รู้ตัว ต้องรีบหาทางป้องกัน
มิฉะนั้นอีกไม่เกิน 4-5 ปีจะอันตรายมาก มันจะทำร้ายทั้งตัวเด็ก ผู้ใหญ่ และทำร้ายสังคมทั้งประเทศ ถ้าในจิตวิญญาณของเด็กยุคนี้มีแต่ความรุนแรง"
ไม่เพียง 2 ปัจจัยนี้...พอเด็กเล็กเริ่มจะเจริญเติบโตขึ้น
เป็นเด็กโต เป็นวัยรุ่น สภาพสังคมไทยยุคปัจจุบันก็ล้วนแต่
"ล่อแหลม" ในการ "หล่อหลอม" ให้เด็กและเยาวชนไทย
กลายเป็นคนมีปัญหา สร้างปัญหาสังคม เป็นขโมยขโจรปล้นจี้
เป็นฆาตกรฆ่าคน หรือเป็นขี้ยาติดยาบ้า
เด็กเปิดทีวีดูก็มีแต่ภาพความรุนแรง เลือดแดงเต็มจอ
เสียเป็นส่วนใหญ่ รองลงมาก็ละครชิงรักหักสวาท ตบตีกันวี้ดว๊าย จะสนใจข่าวสารการเมืองก็มีแต่ละครโกหกฉากใหญ่ให้เห็น
ไม่เว้นแม้แต่กลางสภาอันทรงเกียรติ
พอออกนอกบ้านไปคบเพื่อนก็ยังไม่รู้ว่าจะเดินเข้าสู่ก๊วนยาบ้าตอนไหน เพราะเกลื่อนเมืองไปหมด ขนาดตำรวจคนมีสี วันดีคืนดี
ก็หันมาค้ามาขายยาบ้ากันเสียเอง ปัจจัยที่น่าห่วงอีกประการหนึ่ง
ซึ่งมีสิทธิ์ปลูกฝังให้เด็กกลายเป็น ไอ้หื่นกาม จิตวิตถาร ก็คือ
สิ่งยั่วยุกามารมณ์สารพัดรูปแบบ มีตั้งแต่การ์ตูนโป๊
ที่หาซื้อได้ตามแผงหนังสือทั่วไปในราคาเล่มละไม่กี่บาท หนังสือโป๊เกรดต่ำที่มีภาพและเนื้อหาพาให้ศีลธรรมเสื่อมทราม หนังสือโป๊เกรดสูงที่มีภาพนู้ดซึ่งอ้างกันว่าเป็นงานศิลป์
แม้แต่หนังสือโป๊ประเภทเห็นจะ จะ
ทุกจังหวะสอดใส่ก็หาได้ไม่ยาก
ยัง...ยังไม่หมด! เทคโนโลยีรุดหน้าขึ้นก็มีสื่อยั่วยุใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
ไล่เลียงมาตั้งแต่ยุค "วิดีโอเอ็กซ์" "ซีดีเอ็กซ์" จนมาถึง
ยุคเห่ออินเทอร์เนต "เว็บไซต์ลามก" ก็เกลื่อนจอคอมพิวเตอร์
แค่พิมพ์คำว่า "SEX" เข้าไป ภาพหวิวภาพอนาจารก็พรั่งพรูอออกมา
ให้ดูไม่รู้หมด ล่าสุดนอกจากควบคุมไม่ได้แล้ว
ยังขยายวงขยายรูปแบบมอมเมาเยาวชนให้หมกมุ่นออกไปเรื่อยๆ
นอกจากสื่อยั่วยุแล้ว ยุคนี้การแต่งเนื้อแต่งตัวของผู้หญิง
ตั้งแต่วัยรุ่นยันสาวใหญ่ก็ยั่วใจให้เกิดคดีข่มขืนเสียเหลือเกิน
กระโปรงสั้นจุ๊ดเกือบเห็นก้น เสื้อเอวลอยโชว์สะดือ
สายเดี่ยว-เกาะอก ไม่รู้อะไรกันนักหนา
ปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาใหม่เอี่ยมอ่อง ฝ่ายต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ตลอดจนองค์กรเอกชนต่างๆ
ก็พร่ำพูดกันมาตลอด แต่ ณ วินาทีนี้ก็ยังไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น
ซ้ำยังรุนแรงกว่าเดิม
เชื้อร้ายหมักหมกในเด็กไทยมากขึ้นทุกที...อุบัติการ "อาชญากรเด็ก"
ที่เกิดขึ้นปัจจุบันนี้ ดูจะเป็นแค่หนังตัวอย่างให้ฮือฮากันเล่นๆ เท่านั้น
ช็อตเด็ดๆ ยังต้องมีตามมาอีกเรื่อยๆ เชื่อเหอะ!!!!.
|