เมอร์ลิน
มีสักครั้งไหมที่คุณผู้อ่าน "อยากกลับไปทำความเข้าใจกับอดีตที่ผิดพลาด"
และบางที "การไม่รู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับตัวของคนที่คุณรักซะบ้าง อาจดีกว่าพยายามที่จะเข้าไปรู้ทุกเรื่องในชีวิตของเขาซะอีก"
ทั้งสองข้อความเป็นสัจธรรม ที่เมอร์ลินคิดได้หลังจากเห็นคู่รักหลายราย เก็บอารมณ์ไม่อยู่หลัง จากรักกันฉิบหาย แต่สุดท้ายความวอดวายก็มาเยือน ก็เพราะรักกันมากเกินไปนี่แหละ จึงลืมตัวหลงระเริงไปว่า สามารถเรียกร้องทุกอย่างได้จากคนรักทั้งหมด
แล้วเป็นไงล่ะ ก็โป๊ะเชะสมใจ ไอ้ที่เรียกร้องปาวๆ น่ะ ได้ทุกอย่างไหมล่ะ
ยกตัวอย่างให้ฟังก็ยังได้ เพราะมีเพื่อนของเมอร์ลิน หลายคนทีเดียวที่ "เพิ่งจะรู้สึกถึงก้นบึ้งของหัวใจตัวเองจริงๆ ก็เป็นวันที่ "ใครคนนั้น" เซย์กู้ดบายเดินออกไป จากชีวิตของคุณนานแล้ว"
ซึ่งถ้าย้อนเวลากลับไปได้ รับรองเลยว่า เธอจะไม่ทำในสิ่งที่ "เกินไป" ในพฤติกรรมบ้าบิ่น, ปากเสีย และเอาแต่ใจตัวเองอย่างที่ "เผลอไปแล้ว" หรอก
แต่ยามโกรธ, อารมณ์แปรปรวน, เลือดจะไปลมจะมา.... เวลานั้นถ้าเห็นช้างก็แค่หนูแล้วล่ะ ทั้งที่ความจริง ถ้าตอนนั้นมีสติซะหน่อย เชื่อเลยว่าเพื่อนย่อมจะมีวุฒิภาวะที่ยอมรับกับสิ่งที่เขา "เป็น, อยู่, คือ" ได้อย่างแน่นอน
เพียงแต่ตอนนั้น เรื่องขี้ปะติ๋วก็กลายเป็นของคอขาดบาดตายได้ จนในที่สุดมันก็หักกลางอากาศ ไปจริงๆ ทีนี้ล่ะ จึงได้รู้ว่า LOST IN SPACE = หลงคว้างกลางเวหา ของแท้มันเป็นยังไง
ว่าแล้วก็ขอต้อนรับเพื่อนเข้าเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ และถาวรของ "ชมรมกลับมาโสดสมใจนึก" (เฮ้ย...นี่ไม่ได้แช่งนะ) เพื่อไว้รอรถไฟเที่ยวต่อไปก็แล้วกันนะ.... เพื่อนเคยเห็นรถไฟชาติไหนวิ่งเที่ยวเดียวแล้วจบบ้างล่ะ... ไม่มีหรอก
เอาล่ะจบเรื่องเปิดโปง Someone เราก็มาเข้าเรื่อง Something About Mary เอ๊ย... พูดเล่น แต่ที่จริงเป็นเรื่องที่เมอร์ลินสงสัย (อีกแล้ว... ชาตินี้ประมาณว่า เธอจะสงสัยไม่จบไม่สิ้น) ว่า ถ้าเรามีแฟนสักคน (อะแฮ่ม หรือจะหลายคนก็ได้ไม่ว่ากัน) แล้วเราควรเปลี่ยนตัวเอง เช่น รสนิยม, การใช้ชีวิต หรือแม้แต่ความคิดความอ่าน ไปตามคนที่เรารักหรือไม่?
พูดง่ายๆ ก็คือ เราต้องเป็นอย่างที่เขา "คาดหวัง" อยากให้เป็นหรือเปล่า?
ผู้เชี่ยวชาญทฤษฎี แต่สอบตกปฏิบัติอย่างเมอร์ลิน ถ้าให้ถามเองตอบเอง ก็จะบอกว่า เราไม่เห็นจำเป็นต้องไปเปลี่ยนตัวเองเพื่อใครสักคน หรือใคร (บางคนที่เราก็ยังไม่มั่นใจเหมือนกันว่า) จะอยู่กันยืดหรือเปล่าเลยสักนิด.... เพื่อความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของเขา เพราะอะไรรู้ไหม เพราะขืนเปลี่ยน พออยู่กันไปนานๆ เข้า ไอ้สิ่งที่เป็นตัวตนจริงๆ ของแต่ละฝ่าย ก็จะโผล่ออกมาเองสักวัน
แต่ขอโทษ ถ้าขืนคิดแบบเมอร์ลิน รับประกันซ่อมฟรีว่า คุณจะไม่มีแฟน
เพราะฉะนั้น คุณต้องคิดตาม ผู้สันทัดกรณีคนอื่น ที่ประนีประนอมมากกว่านี้
จากบทความ Should You Change? บอกว่า ถ้าจะเปลี่ยนก็ขอให้เปลี่ยนแบบสายกลาง และเปลี่ยนตัวเองเท่าที่คุณจะทำได้ หรือเชื่อว่า หากทำเช่นนั้นแล้ว ชีวิตคู่จะไปกันตลอดรอดฝั่ง ก็เปลี่ยนไปเถอะ
เพราะการเปลี่ยนแปลง ควรจะหมายความว่า ทั้งสองฝ่ายต้อง พร้อมใจกันเปลี่ยนคนละครึ่งทาง ด้วยนะ ไม่ใช่รักเขามาก เขาเป่าหูให้คุณเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ก็ทุ่มเทจนเกินเหตุ แต่อีกฝ่ายนั่งกระดิกเท้า... นี่ก็เกินไป
อะไรบ้างที่คุณควรเปลี่ยน?
1. การแต่งเนื้อแต่งตัว จากที่เคยเชยเฉิ่มควรหันมาสนอกสนใจตัวเองบ้าง อย่าลืมว่า ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง ถ้าขืนเป็นอีเพิ้งตลอดเวลา ก็ขายหน้าสังคมของ "ว่าที่แฟนเราแย่เลย" แต่ถ้าอยู่เฉพาะสองเรา คุณจะใส่บิกินีก็ไม่มีใครว่า
2. คำพูดคำจา จากที่เคยปากตลาดมาตลอด หรือห้าวเสียงแข็ง ก็เปลี่ยนเป็นผู้ดีขึ้นมาอีกสเตปได้แล้ว เพราะรู้ไหมล่ะว่า คุณกำลังเข้าไปยึดกุมหัวใจอีกคนหนึ่งนะ ไม่ใช่แค่พูดกับเขาเล่นๆ วันเดียวจบ เดี๋ยวก็ได้จบจริงๆ หรอก
3. มีเวลาว่างให้มากขึ้น ไม่ใช่วันๆ เอาแต่ทำงานงกๆ อนาคตไม่หม้ายก็คาน เพราะคุณควรมีเวลาสำหรับตัวเอง และตัวเขาบ้าง ไม่งั้นความสัมพันธ์จะพัฒนาไปไหนได้
ส่วนจะเปลี่ยนตรงไหนให้มันละเอียดยิบลงไปอีก ก็เชิญตามสะดวก แต่อย่าเปลี่ยนใจเป็นใช้ได้ เพราะเมอร์ลินไม่มีเวลามานั่งหาแฟนให้ใคร ตัวเองก็จะแย่อยู่แล้ว ทราบแล้วเปลี่ยน.
เมอร์ลิน
main |