เมอร์ลิน
"เพื่อน" ให้ความหมายมากมายกว่าแค่คำว่า "คนรู้จัก" แต่ "แฟน" เป็นอะไรที่ลึกซึ้ง และแปลกแยกออกไป
มีหลายเรื่องราวในชีวิต ที่เราเอาไปคุยกับเพื่อนได้ แต่กับแฟน-ไม่ได้
และมีอีกหลายท่วงทำนองของชีวิตเช่นกัน ที่ไม่อยากเล่าให้เพื่อนฟัง แต่ไม่รู้เป็นไง ต้องบอก "คนสำคัญ" ของเราให้ได้ ถ้าไม่ได้บอกแล้วจะหงุดหงิดใจ เป็นไงไม่รู้
ทว่า ขนาด "เพื่อน" กับ "แฟน" เขียนออกจะต่างกันอย่างนี้ ก็ยังมีคนสับสนกับสถานภาพของ Your Sweetheart หรือแปลง่ายๆ ว่า ยอดดวงใจของตัวเอง เพราะมีหลายคู่รักทีเดียวที่เมอร์ลินรู้จัก แต่ดันบอกเราว่า เป็นแค่เพื่อน ทำเป็นเกี่ยงงอนไม่ยอมรับความจริงอยู่นั่นแหละว่า เป็นแฟนกัน ฟังดูแล้วพิลึกดีเหลือเกิน แล้วก็อดจะคิดอยู่ในใจไม่ได้ว่า โลกนี้ยังมีคนไม่ยอมรับความจริงอีกเยอะเลยนะเนี่ย
คุณผู้อ่านที่น่ารักของเมอร์ลินทั้งหลาย มีอาการเป็นอย่างที่เล่าให้ฟังมาบ้างไหมล่ะ
ว่าแล้ว จึงต้องไปกางตำราวิเคราะห์หาสาเหตุว่า ทำไมมนุษย์เราต้องปอดแหกไม่ยอมรับว่า รักใครคนหนึ่งเข้าแล้ว และกลัวที่จะเปิดเผยความจริงว่า นี่แหละแฟนเรา เพราะมนุษย์บางคนนี่เป็นยังไงไม่รู้ค่ะ ปากกับใจไม่ค่อยจะตรงกันสักเท่าไหร่ ไม่เข้าใจว่า จะหลอกลวงตัวเองไปทำไม หรือว่ามันสนุกดี บอกหน่อยได้ไหมว่า ทำไมถึงเป็นอย่างนี้? ป.ล. จากผู้งุนงงสุดขีดและกล้ารับความจริงเป็นที่สุด เพียงแต่มันไม่มีใครให้เรามาอ้างว่า เป็นแฟนเท่านั้นแหละ ลองถ้ามีเมื่อไหร่ จะประกาศให้รู้กันลั่นโลกเลยเชียว เอาจริงนะ งานนี้
ยิ่งเขียน ยิ่งนอกเรื่องไปกันใหญ่ วกกลับมาหาประเด็น ทำไมคนบางคนถึงไม่กล้ายอมรับว่า มีแฟนแล้วกันดีกว่า
Why don't accept your love อธิบายไว้ว่า พวกที่ไม่ยอมรับว่า มีแฟนเป็นตัวเป็นตน (ทั้งที่ควงกันจนไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว) เป็นคนจำพวกขี้กลัวและลังเลไงล่ะ
1. กลัวว่า ถ้าบอกใครไปว่า เขาคนนี้เป็นแฟนเรา หากเกิดเลิกกันทีหลัง แล้วจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? โถ...ง่ายนิดเดียว ก็เอาไว้ที่บ่าของตัวเองต่อไปสิจ๊ะ จะไปอายเอยอะไรกันนักหนา
2. กลัวว่า ถ้ามีแฟนแล้วไม่ถูกใจ จึงเกรงจะเสียโอกาสที่จะได้คบคนอื่นๆ ที่ถูกใจกว่า... เข้าทำนองเป็นน้องๆ กากีอะไรเทือกนั้น... เอ๊ะ แรงไปไหมนี่ ปรกติพี่จะเป็นคน Compromise หรือประนีประนอมมากเลยนะจ๊ะ แต่คราวนี้ ทำไมปากกามันพาไปก็ไม่รู้
3. กลัวว่า จะเสียคะแนนนิยม ถ้าสาธารณชนรู้ว่า ตัวเองมีแฟนแล้ว... นี่ก็คิดแต่จะเป็นคนของประชาชนอยู่ร่ำไป ไม่สนใจความรู้สึกของตัวเอง ก็แล้วไปเถอะ
4. ปรกติก็เป็นคนรักง่าย หน่ายเร็วอยู่แล้ว เลยไม่กล้าจะยึดใครเป็นหลักเป็นฐานให้แน่นอน จึงต้องยึดตัวเองเป็นที่ตั้ง ประเภทคนเห็นแก่ตัว อย่างนี้มีเยอะเลย หนักโลกค่ะ หนักโลก
5. เป็นคนเจ้าชู้ รักดะ จะทำไมล่ะ โอ๊ย... ใครจะไปทำอะไรพี่ท่านได้ กลัวแล้วจ้า
ทีนี้หากคุณๆ ต้องตกนรกไปเจอกับคนกลัวการมีแฟนแล้วจะทำอย่างไร ?
อ๋อ ก็ไม่ต้องทำอะไรมาก เพราะถึงไง จะไปหวังให้คนพวกนี้ยอมรับความจริงแล้วละก็ หันไปมีรักใหม่เห็นจะง่ายกว่า
เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ถ้าปักใจรักเขามาก คุณก็ต้องมีความอดทนเยอะๆ หรือที่เรียกว่า มีอหิงสา ถึงเขาไม่รับกับคนภายนอกว่ารักเราก็ไม่เป็นไร ต้องถือคติ "รักกันอยู่ข้างใน" ก็ได้ แล้วอย่าลืมหนามยอกเอาหนามบ่งด้วย อย่าไปบอกว่า เรามีแฟนแล้วเชียวล่ะ
ในเมื่อมีแฟนเป็นคนสะบัดสะบิ้งเล่นตัวแบบนี้ เราก็ต้องเล่นไปตามน้ำ แต่ไม่ใช่สอนให้ไม่ ซื่อสัตย์นะ เพราะสัจจะเรามีอยู่แล้ว ส่วนจะสัจจะโจร หรือสัจธรรมมันก็อีกเรื่อง เอ๊ะ วันนี้เมอร์ลินมาแหวกแนวชะมัด เห็นทีต้องขอตัวไปแผ่เมตตาเสียหน่อย
สุดท้ายต้องขอขอบคุณ คุณบ๊วยบุษบงที่ติดตามอ่านชนิดเป็นแฟนประจำเหนียวแน่น และคุณปาง จากขอนแก่น ผู้ซึ่งอยากบอกสาวคนรักว่ามาเป็นแฟนกันเถอะ แต่ไม่รู้จะทำไงดี ขอแนะนำให้หาดอกไม้สวยๆ สักช่อมอบให้เค้า แล้วคุกเข่าบอก "ผมรักคุณ"
แค่นี้หากไม่เข้าใจ พี่ว่า เปลี่ยนมารักคนแถวไทยรัฐดีกว่านะ.
เมอร์ลิน
main |