"เมอร์ลิน"
ลองจินตนาการดูเถอะว่า ถ้าคุณอายุเลยเบญจเพสไปแล้ว (บางคนอาจเลยไปไกลกว่านั้นซะด้วยซ้ำ) และกำลังมองหาใครสักคนมาเป็นที่พักพิงทางใจ
คุณเชื่อไหมล๊ะว่า อายุขนาดคุณนี่แหละ นอกจากไม่คิดจะอยากครองตัวเป็นโสด สักเท่าไหร่แล้ว โอกาสที่คุณจะได้เจอ "ตัวจริง" "ของแท้" เป็นรักที่แน่วแน่ ย่อมยากเย็นแสนเข็ญตามไปด้วย
ก็จะไม่ให้เจอคนที่จะมาตกหลุมเสน่ห์รักเรายากได้ไง? ในเมื่ออายุปูนนี้แล้ว คุณผู้อ่านคิดรึว่า จะยังเหลือใครโสดได้เหมือนคุณอีก! เพราะคนเรา กว่าจะครองตัวมาจนอายุป่านนี้ได้นี่ ถ้าไม่เคยผ่านการมีแฟน หรือคนเคยรักมาก่อนเลย ก็คงเป็นสัตว์ประหลาดมากกว่า มนุษย์กายสิทธิ์จริงไหมล่ะ
ทีนี้ เมื่อหาใครที่โสดซิงๆ มาเป็นแฟนไม่ได้ ก็ไม่เห็นต้องเฮิร์ทอะไร เพราะอีกทางเลือกหนึ่งที่เมอร์ลิน อยากเสนอไว้ให้คุณๆ ลองใช้สมองตรองดูก็คือ เราคงไม้มีทางเลี่ยง ที่จะไปรัก หรือไปชอบกับคนที่มีอดีตแล้วเป็นแน่
เมื่อเป็นเช่นนี้ แล้ว "อดีต" ของชายหนุ่มคนนั้น สำคัญต่ออิสตรีมากมายขนาดไหนล่ะ
หากเป็นสาวอเมริกัน ร้อยละ 40 บอกว่า ไม่สำคัญหรอก ถ้าเขาจะมีอะไรกับใครมาก่อน
เพราะเวลาหนูจะชอบใคร ก็ไม่เห็นต้องไปตรวจสอบประวัติเลยว่า เคยมีเมีย
หรือผ่านใครมาก่อนหรือยัง
แหม...แม้สาวฝรั่งชาติเสรีนิยมนี่ ตอบเข้าท่ามาก นี่ถ้าเมอร์ลินมีถ้วยรางวัล จะมอบให้แด่หญิงอเมริกันเป็นชนชาติแรกเลย พับผ่าสิ
ด้านสาวเอเชียล่ะ สิงคโปร์ร้อยละ 30 บอกว่า ฉันไม่สนเลยว่า ใครเป็นใคร ใครจะมาจากไหน หรือใครจะเป็นแฟนใครมาก่อน เพราะอยากอยู่เป็นโสด ครองพรหมจรรย์มากกว่า
นี่ก็ประเภทพวกโสดนิยม อาศัยการลอยไปลอยมาเป็นที่ตั้ง ซึ่งถ้าเผื่อชอบใครก็คบกันไป ถ้าไม่ชอบเสียอย่าง ต่อให้เอาช้างมาฉุดก็ขออยู่คนเดียวไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าเป็นสาวฮ่องกงล่ะ.... ไม่แน่
เพราะจับยามสามทิศแล้ว หญิงฮ่องกงไม่ยอมขึ้นอืดอยู่แล้ว เธอบอกว่าใครอยากอยู่คนเดียวก็อยู่ไป แต่เดี้ยนไม่ยอมขึ้นสวรรค์ชาติหน้าแน่ แต่ขอขึ้นกันชาตินี้ให้เห็นๆเลยว่า สวรรค์ (หลังแต่ง) น่ะมีจริง
เผยใจสาวหลายชาติ ให้รู้กันแล้ว ขออนุญาตวกกลับมาที่ "อดีต" กันอีกครั้ง นัยว่า ผู้ชายแม้จะมีอดีต แต่ก็ยังมีสถานภาพเป็นที่ยกย่องเชิดชู ในวงสังคมมากกว่าผู้หญิง ประเด็นนี้ชัวร์แน่นอน ไม่ต้องสงสัยเพราะการ "ผ่านผู้ชายมาแล้ว"มีส่วนทำให้ผู้หญิงด้อยค่าลง ในสายตาของ ชายคนใหม่เสมอ เพราะผู้หญิงพวกนี้น่ะ มักจะถูกโขกสับ ถูกผู้ชายนินทาลับหลังเสมอว่า เป็นสาวเร่าร้อนบ้างล่ะ, นอนไปทั่ว, มั่วไม่เลิก, หญิงหลายใจ, ไก่ใจแตก และอะไรทำนองเดียวกันนี้อีกจิปาถะ ทีนี้ ถ้าคุณพลาดไปแล้ว หรือเผลอใจไปหน่อย จะให้มานั่งตำหนิกันอยู่คงไม่เก๋ หรือเท่เท่าไหร่ ดังนั้น ถ้าสาวใดเคยมีอดีตกับใครมาก่อน ก็ตาม แต่เมื่อคุณมีรักใหม่แล้ว
สิ่งที่คุณควรทำอย่างยิ่ง เพื่อขจัดความไม่เข้าใจ ซึ่งกันและกัน คือ
1. อย่าหลงเล่าอดีตให้ชายคนใหม่ของคุณฟังเด็ดขาด ถึงแม้คุณจะรู้สึกว่า เป็นความจริงใจอย่างหนึ่ง ที่คุณอยากเปิดเผยชีวิตที่ผ่านมาให้ "เขา" รับทราบก็ตาม แต่อาตมาขอบอกไว้เสียก่อนว่า ความหวังดีที่คุณมี ยิ่งจะเป็นตัวเร่งทำให้คุณกับเขา "แยกทางจากกัน" เร็วขึ้นไปอีก เพราะผู้ชายน่ะ ไม้อยากได้ยินอดีตที่หวานชื่น หรือขมขื่นพะอืดพะอมของแฟนสาวหรอก... หากไม่รักกันมากจริงๆ
2. เมื่อคุณไม่เล่า ก็อย่าไปเซ้าซี้ให้เขาเล่าอดีตของเขาให้คุณฟังก็แล้วกัน
ไม่งั้นจะกลายเป็น ข้อแลกเปลี่ยนเข้าบ้างแล้วมันจะยุ่ง
3. ผู้ชายจะกระโดดหนีผู้หญิงก็ต่อเมื่อ เขารู้ว่าคุณมีทัศนคติในเรื่อง บนเตียงแบบ ฟรีสไตล์ หรือฟรีเซ็กซ์นั่นแหละ เพราะฉะนั้น อย่าให้เขาจับได้เชียวว่า คุณนิยมลิ้มรส เสน่หาทางกาย ไม่เลือกหน้า ใครจะไปทนได้ แม้แต่ผู้หญิงยังรับไม่ได้ อย่าว่าแต่ผู้ชายเลย
4. ดำรงความรักครั้งใหม่ให้อยู่รอดเกิน 2 ปีขึ้นไป พอขึ้นปีที่ 3 เขาก็ไม่สนแล้วว่า คุณจะเป็นใครมาจากไหน เพราะเขาได้พิสูจน์แล้วนี่ว่า คุณรักเขาตลอดสองปีที่คบกัน ... แต่เอ... หรือว่าไม่จริงอย่าลืมว่า ไม่มีมนุษย์คนไหน ที่ไม่เคยผ่านอดีตมาก่อน ดังนั้น เมอร์ลิน ขอเป็นกำลังใจให้ผู้หญิง "มีประวัติ" ทุกคน พบรักใหม่ ที่สมหวัง สักทีก็แล้วกัน.
"เมอร์ลิน"
main |