กองบรรณาธิการ fitness
ฉบับที่แล้วเราเสนอเรื่อง "เซ็กซ์เสื่อมซ่อมได้" กันไปแล้วดูเหมือนจะไม่จุใจทั้งคนทำและท่านผู้อ่าน ฉบับนี้เจาะกระแสฯ จึงเจาะลึกเรื่องราวการซ่อมเซ็กซ์แบบ "เปิดอู่" ให้ดูกันไปเลยว่า ขบวนการซ่อมเซ็กซ์นั้นเป็นอย่างไรบ้าง และได้เห็นหน้าเห็นตาผู้เชี่ยวชาญทางด้านการซ่อมเซ็กซ์ รศ.นพ.แพทย์อภิชาติ กงกะนันทน์ จะเป็นผู้เปิดอู่ ให้รู้รายละเอียดกันแบบกระจ่าง ขนาดไหนเรียกว่า "เซ็กซ์เสื่อม"
หากชายใดไม่ประสบความสำเร็จในการจะมีเพศสัมพันธ์กับคู่ของตนเองบ่อย ๆ ครั้งเข้า อาจต้องมาถามตนเองว่า "นี่เราเซ็กซ์เสื่อมไปแล้วหรือ" คำถามต่อมาที่คุณอาจสงสัยว่า อาการขนาดไหนของคุณที่จะถูกเรียกว่า "เซ็กซ์เสื่อม"
"เซ็กซ์เสื่อม"ที่พูด ๆ กัน เหมือนเป็นภาษาปากนี้ ทางการแพทย์เรียกว่า "ภาวะหย่อมสมรรถภาพทางเพศ" (Erectile Dyfunction หรือ ED) อันหมายถึง ภาวะที่อวัยวะเพศชายไม่อาจแข็งตัว หรือแข็งตัวได้ไม่เต็มที่ หรือแข็งตัวไม่ได้นานพอที่จะร่วมเพศได้ ดังนั้นจึงเป็นอันรู้กันว่าภาวะเช่นนี้ย่อมเกิดขึ้นในเพศชาย (เท่านั้น) แน่นอน
"ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ" นี้ อาจเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง หรือ หลายสาเหตุรวมกัน |
---|
|
ต้นเหตุสำคัญทางกายและเหตุอื่น ๆ ที่พบบ่อยว่าทำให้เกิด "ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ" |
---|
|
ซ่อมเซ็กซ์
เริ่มได้ไม่ยาก
เรื่องของการซ่อมเซ็กซ์ที่กำลังเป็นเรื่อง ฮ็อต ฮือฮา อยู่ในปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นการแก้ปัญหา "เซ็กซ์เสื่อม" ของผู้ชาย การซ่อมเซ็กซ์ในผู้หญิงนั้น กระแสข่าวแผ่วจางจนไม่อาจจะหาข้อมูล มายืนยันได้ชัดเจน เราจึงมาว่าถึงการซ่อมเซ็กซ์ในฝ่ายชาย
อย่างแรกสุดที่ผู้มีปัญหา "ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ" จะต้องซ่อมนั้นเป็นเรื่องของการ "ซ่อมด้วยตัวเอง" ก่อน หากรู้สึกว่าตนเองไม่ประสบความสำเร็จในการมีเพศสัมพันธ์ เริ่มด้วย การพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกายที่เหมาะสม การรับประทานอาหารที่ดีครบถ้วน ไม่เสพสิ่งที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิด "ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ" การละ ปล่อยวาง เรื่องที่ทำให้เกิดความกดดัน วิตกกังวล หรือเหตุทางใจต่าง ๆ
หาก "ซ่อมด้วยตนเอง" แล้วไม่ได้ผล เพราะคุณอาจอยู่ในประเภท "เสื่อมแน่ๆ แล้วจ้า" ละก็ เข้าอู่ยกเครื่องกันตามอาการดีกว่า
เปิดอู่ซ่อมเซ็กซ์ เลือกซ่อมให้ถูกวิธี
หากใครประสบ "ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ"(Erectile Dyfunction หรือ ED) ซึ่งปัจจุบันทางการแพทย์ถือว่า ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศนี้เป็นโรคหนึ่ง ถึงแม้จะไม่อันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ก็สามารถทำให้ท่านเกิดความรำคาญ กลุ้มใจ เสียศักดิ์ศรี เผลอ ๆ จะพาลไปสู่โรคอื่น ๆ ไม่ต้องกังวล ถ้าตกลงปลงใจที่จะรักษาก็มาได้เลย
รศ.นพ.อภิชาติ กงกะนันท์ ศัลยแพทย์ทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เป็นนายแพทย์ที่ทำการรักษาผู้ที่เกิดภาววะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศมาแล้วมากมาย และเป็นผู้ที่ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับตัวยาใหม่ ๆ ที่เข้ามาในประเทศไทย ได้อธิบายถึงขั้นตอนและวิธีการรักษาอย่างละเอียด
อายหมอก็รอวันเสื่อม (ชั่วชีวิต)
โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศนั้น ท่านชายบางท่านจะอายไม่กล้าจะมาติดต่อขอรับการรักษา
ขอบอกว่า
อย่ามัวเขิน มัวกลัวอยู่เลย เพราะโรคนี้รักษาให้หายได้ง่าย หากพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งแพทย์ที่รักษาโรคนี้โดยตรงคือ ศัลยแพทย์ทางเดินปัสสาวะ (อย่าไปให้หมอในตู้กระจกรักษาล่ะ เดี๋ยวจะต้องตามรักษาโรคอื่น ๆ อีก จะยิ่งไปกันใหญ่)
รักษาที่ละขั้น สำคัญที่ซักประวัติ
การซักประวัติเป็นสิ่งสำคัญที่จะหาสาเหตุของอาการ มีคนจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจผิด และเสียความเชื่อมั่นในตนเอง จากการร่วมเพศไม่เสร็จสมอารมณ์หมาย 2-3 ครั้ง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเป็นเรื่องปกติมาก ไม่จำเป็นต้องรักษาอะไรมากมาย (อาจจะใช้ยาสอดหรือยาฉีดช่วยบ้าง) แพทย์อาจอธิบายให้เข้าใจ และคลายกังวล (สภาพทางจิตและการเสียความเชื่อมั่น จะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้การร่วมเพศครั้งต่อ ๆ ไม่สำเร็จ) รวมทั้งแนะนำให้พักผ่อนมาก ๆ ทำจิตใจให้สบาย มีผู้ป่วยหลายท่านที่ต้องทำงานหนัก แต่เมื่อกลับบ้านเกิดมีอารมณ์เพศขึ้นมา ซึ่งในขณะนั้นสภาพร่างกายอ่อนเพลีย นั่นจะทำให้อวัยวะเพศไม่แข็งตัว และล้มเหลวในการปฏิบัติกิจกรรมทางเพศในครั้งนั้น ๆ
ดังนั้น เมื่อตกลงใจที่จะรักษาแล้ว ก็ต้องให้ความร่วมมือในการที่จะเล่าความจริงให้แพทย์ฟัง เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง
หลากรูปแบบการรักษา
เนื่องจากโรคภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศนี้ ผลของการรักษาขึ้นอยู่กับความพอใจ ของผู้ป่วยเป็นหลัก แพทย์เองจะเป็นผู้ดูแลและแนะนำการักษาแบบต่าง ๆ ให้ผู้ป่วยเลือก ขึ้นอยู่กับว่า ผู้ป่วยจะพอใจการรักษาแบบใด เงื่อนไขต่าง ๆ มักขึ้นอยู่กับ
กระบอกสูญญากาศ |
แต่มีข้อห้ามใช้หลายประการ เช่น ในคนที่เลือดออกง่าย, ผู้ที่ทานยาแอสไพริน หรือยาที่ทำให้ เลือดไม่จับตัวกัน เพราะอาจจะทำให้เลือดคั่งมากเกินไป ข้อเสียอีกประการคือ คุณภาพในการแข็งตัว ยังไม่ดีเท่าที่ควร ที่สำคัญพกพาไม่สะดวก (ขนไปไหนมาไหนดูจะเป็นการเอิกเกริก)
ยาฉีดเข้าอวัยวะเพศ |
ข้อดีของการใช้ยาฉีดคือ อวัยวะเพศแข็งตัวได้ทันใจภายใน 5-10 นาที เมื่อมีอารมณ์ทางเพศก็ฉีดเข้าที่โคนอวัยวะเพศ ในแต่ละครั้งที่ฉีดต้องสลับข้างเพื่อป้องกันเนื้อบริเวณที่ฉีดแข็ง บางท่านอาจจะมีอาการกลัวเข็มฉีดยา ปัจจุบันก็จะมีเครื่องฉีดยาอัตโนมัติเพื่อลดความน่าสะพรึงกลัวของเข็ม
ข้อควรระวังในการฉีดยา อยู่ที่ยาบางตัวเช่น Papaverine ที่อาจมีผลข้างเคียงคือ อาการโด่ไม่รู้ล้ม (Priapism) หรือ คนไข้ที่มีอวัยวะเพศคดงอเมื่อแข็งตัวจะปวดมาก เป็นต้น
ยาสอดท่อปัสสาวะ |
ผลข้างเคียงของการใช้ยาสอด ฝ่ายชายอาจมีอาการแสบ ร้อน วูบวาบในทางเดินปัสสาวะ
ส่วนฝ่ายหญิง (ที่ฝ่ายชายใช้ยาสอด) อาจเกิดอาการคัน หรือแสบเล็กน้อยในช่องคลอด ในกรณีที่ฝ่ายหญิงตั้งครรภ์ควรใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองและอันตรายที่จะเกิดกับตัวอ่อน
ยารับประทาน |
ข้อดีของการใช้ยารับประทาน คือ ความสะดวกสบายในการพกพา และการใช้ แต่ยาชนิดนี้ห้ามใช้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ หรือผู้ป่วยที่เจ็บหน้าอก ซึ่งคนไข้โรคหัวใจเหล่านี้ ส่วนมากจะใช้ยาที่มีส่วนผสมของ Nitrites หรือ Nitrate ร่วมด้วยเสมอ ซึ่งตัวยาทั้งสองชนิด( ไวอากร้า กับ Nitrate )มีฤทธิ์ที่เสริมกัน มีผลให้ความดันโลหิตต่ำลงอย่างกะทันหัน อาจจะทำให้เกิดหัวใจวาย หรือปัญหากับกระบวนการโรคหัวใจได้
การใช้ยาไวอากร้าในเมืองไทย ต้องได้รับใบสั่งยาจากแพทย์เฉพาะสาขาใดสาขาหนึ่งใน 4 สาขา คือ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาศัลยศาสตร์ทางเดินปัสสาวะ, จิตเวชศาสตร์, อายุรศาสตร์โรคหัวใจ และอายุรศาสตร์ต่อมไร้ท่อ ดังนั้นยาไวอากร้า จะไม่มีจำหน่ายตามร้านขายยา อย่าเสี่ยงซื้อมารับประทานเอง เพราะอาจเสียเงินจำนวนมากไปกับยาปลอมได้
ยาทาอวัยวะเพศ |
การผ่าตัดฝังแกน |
แกนที่ใช้ฝังมีหลายขนาด และหลายลักษณะการใช้งานให้เลือก มีทั้งแบบที่ใช้มือปรับแกน, แบบใช้ปั๊มกลไกการทำงานต่าง ๆ จะซ่อนอยู่ภายในตัวอย่างแนบเนียน (ถ้าคุณไม่ส่อพิรุธ ให้คู่ของคุณรู้ซะก่อนนะ) การผ่าตัดประมาณ 1 ชั่วโมง ถ้าแพทย์ที่มีความชขำนาญจะรวดเร็วมาก การฝังแกนนั้นจะไม่มีผลกับการเป็นหมันแต่กลับเป็นการช่วยให้อสุจิหลั่งได้ตามธรรมชาติอีกด้วย
ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดนั้น ขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลที่เลือกใช้ เนื่องจากแกนที่ฝังมีราคาที่ ค่อนข้างตายตัว ราคาขึ้นอยู่กับแบบและรุ่น (เป็นเท่าไหร่นั้น คงต้องสอบถามกับทางแพทย์เอง)
มีอู่ (ซ่อมเซ็กซ์) อย่างนี้ซ่อมดีไหม
ได้ทราบเหตุแห่ง "ความเสื่อม" ของเซ็กซ์ และรายละเอียดเกี่ยวกับการซ่อมเซ็กซ์ ทั้งแบบไม่ใช้เครื่องมือ และแบบใช้เครื่องมือกันไปแล้ว เรามาดูกันว่า คนหลาย ๆ วงการ ที่ยินดีเปิดใจ พูดถึง "การซ่อมเซ็กซ์" ว่าคิดอย่างไร และถ้าต้องซ่อม เขาหรือเธอจะ "ซ่อม" กันหรือไม่อย่างไร
"สังคมปัจจุบัน เรื่องเซ็กซ์กลายเป็นเรื่องที่พูดถึงกัน อย่างแพร่หลาย ไม่ต้องแคร์อะไรเหมือนสมัยก่อน ๆ แล้ว การที่มีอู่ซ่อมเซ็กซ์ก็ดีนะ จะได้ช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ชาย ที่เขาเป็นแบบพวกนกเขาไม่ขัน ตายด้านไปแล้วให้เหมือนเกิดใหม่ กลายเป็นชีวิตที่มีชีวา ขึ้นมาใหม่" โดยส่วนตัวของเธอนั้น สามารถบอกกับเราได้ว่าเธอมีความต้องการที่เป็นธรรมชาติอยู่ หากวันใดที่รู้สึกได้ว่าตนเองผิดปกติไปโดยที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่มีปัญหาเธอว่า "ถ้าตัวเองมีปัญหาเรื่องนี้ คงต้องปรึกษาคนที่ใกล้ตัวที่สุดก่อน ก็อาจจะเป็นเพื่อเป็นพี่ ๆ น้อง ๆ ถาม ๆ ดูว่าเราเป็นอย่างนี้ .อย่างนี้นะ เขาอาจจะพูด หรือแนะนำอะไรที่ทำให้เราเอามาลองปฏิบัติดู เราอาจจะเครียด หรือว้าวุ่นอะไร เราต้องหาสาเหตุจากตัวเราก่อน แล้วถ้ายังมีปัญหาอยู่ ก็จะไปหาหมอ ระดับอาการที่เราคิดว่า เรามีปัญหาถึงขั้นต้องไปหาหมอคือ น่าจะเป็นตรงที่ว่า เรารู้สึกว่า เราไม่มีความรู้สึกต้องการทางเพศเลย ความรู้สึกนี้หายไปเลย ไม่มีอารมณ์แล้ว อะไรอย่างนี้นะ ถ้าถือว่านี่คือการซ่อมก็จะไปซ่อมล่ะ เพราะมันคือส่วนหนึ่งของชีวิตเหมือนกัน เราจะไม่แคร์หรอกว่า ใครจะว่ายังไง เพราะคิดว่าปัจจุบันสังคมก็ยอมรับ เราถือว่ามันเป็นสิ่งที่เราต้องใช้อยู่ มันทำให้ชีวิตเรามีความสุขน่ะ แต่ก็จะต้องดูอายุด้วยนะ ตัวเองนี่เวลานี้ถือว่าเป็นปกติดี ความรู้สึกต่าง ๆ ความต้องการต่าง ๆ จะยังมีอยู่ รู้ว่าตัวเองไม่ผิดปกติอะไร แต่ถ้าวันหนึ่งเราอายุมากขึ้นกว่านี้ อย่างซัก 50 ปี แล้วเรารู้สึก เราไม่ค่อยประสบความสำเร็จในเรื่องเซ็กซ์แล้ว เราคิดว่าเราไม่ไปซ่อมดีกว่า เพราะถึงเวลานั้น เราคงจะปลงได้ เราก็เห็นตัวอย่างจากแม่ จากพี่สาวนะว่าเขาไม่ได้มีเรื่องแบบนี้ เขาก็อยู่กันได้อย่างมีความสุขเหมือนกัน" อย่างนี้ต้องเรียกว่า "ซ่อมได้" แต่ซ่อมอันตามเหตุและวัยอันควร |
"ดีนะที่มีการซ่อมเซ็กซ์ เพื่อว่าคนเราจะได้ใช้ชีวิตครอบครัวอย่างสมบูรณ์ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าซ่อมแล้ว มันจะเหมือนเดิมหรือเปล่า" โดยส่วนตัวแล้วคุณเฉลิมเกียรติ คิดว่าหากตนเองถึงคราว "เส่อม" ขึ้นมาบ้าง และต้อง "ซ่อม" ขึ้นมาจริง ๆ เขาก็มีระดับ และเงื่อนไขในการเข้าอู่ของตนเองเหมือนกัน "ต้องดูว่าเราเสื่อมเนื่องจากสาเหตุอะไรก่อน เราต้องดูตัวเราก่อนว่าเครียดมั้ย มีปัญหาในใจอะไร ร่างกายเราขาดการออกกำลังกาย ขาดการพักผ่อนหรือเปล่า เราจะซ่อมตัวเราเองก่อน ถ้ายังไม่ดีขึ้นเราอาจจะพูดคุยกับเพื่อน ขอคำแนะนำ หรือถึงขั้นที่ต้องโทรไปปรึกษาตามศูนย์ หรือไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล หรือคลีนิกก็ต้องลองดู ไม่คิดว่าเป็นเรื่องเสียเวลา" เมื่อถามถึงขั้นที่ต้องซ่อมด้วยการใช้ "อะไหล่" โดยแพทย์ผู้ชำนาญการ คุณเฉลิมเกียรติคิดนาน ก่อนจะแสดงทรรศนะ "ถ้าต้องซ่อมต้องรื้อ ต้องเอาอะไรใส่เข้าไปนี่คิดว่าไม่นะ เพราะโดยหลักของตัวเองแล้วจะไม่ชอบ อะไรที่มันไม่เป็นธรรมชาติ อย่างผู้หญิงที่เสริมโน่นเสริมนี่ เอาสิ่งไม่เป็นธรรมชาติเข้าไปในร่างกาย นี่จะไม่ชอบเลย คิดว่าถ้าต้องซ่อมกันขนาดนั้นไม่เอาดีกว่า มันนอกเหนือจากสิ่งที่เรามีมานะ ถ้ามันจะเสื่อมขนาดไม่เวิร์กแล้ว เราก็จะมีวิธีการทดแทนเพื่อให้ความเป็นครอบครัวของเราอยู่ได้ โดยไม่ต้องอาศัยเรื่องตรงนี้ ซึ่งตรงจุดนี้เรารู้ว่าคนในบ้านของเราเป็นยังไง เราเข้าใจกันได้นะ และยิ่งถ้าเราไปเสื่อมไม่เวิร์กเอาตอนอายุ 60-70 แล้วยิ่งไม่ต้องไปซ่อมเลย มันไม่ความจำเป็นแล้ว ถ้าถึงขนาดนั้น ถึงตอนนั้นก็เข้าวัด ปลงได้แล้ว ถ้าแก่ขนาดนั้นแล้วยังคิดที่จะทำ เพื่อจะไปมีอะไร กับพวกสาว ๆ มันก็กลายเป็นหัวงูไปน๊า" แล้วบ.ก.หนุ่มใหญ่ก็ทิ้งท้ายไว้อย่างมั่นอกมั่นใจว่า "คงไม่เสื่อมก่อนเวลาอันควรหรอกน่า" |
สาวน้อยหน้าตาน่ารักที่เพิ่งรับปริญญาตรีมาหมาด ๆ จากสถาบันอุดมศึกษาใหญ่แถว ๆ รามคำแหง แสดงความคิดเห็นเรื่องการซ่อมเซ็กซ์ตามแบบฉบับของวัยรุ่นที่ยังมองภาพของ "เซ็กซ์" ยังไม่ชัดเจน แต่ก็ให้ทรรศนะเรื่องการซ่อมเซ็กซ์ไว้แบบเขิน ๆ แต่ได้แง่คิดว่า
ในเบื้องต้นเราได้ข้อสรุปว่า คนทั้งคู่จะต้องพยายามแก้ไขด้วยตนเองก่อน ดูเหตุที่เกิด ถ้าไม่สำเร็จถึงจะพึ่งบุคคลที่สาม "ขั้นต่อมาคงโทรศัพท์ไปปรึกษา อาจจะเป็นคลีนิก หรือศูนย์ที่ให้คำปรึกษาปัญหาเหล่านี้ ก็คงต้องเลือกว่าสถานที่เหล่านั้นมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน เราอยากหาย และไม่อยากเปิดเผยให้ใครรู้" หากถึงขั้นที่จะต้องพบแพทย์ เพื่อแก้ไขในระดับสูงเธอว่า "ถ้าถึงกับต้องซ่อมก็ต้องซ่อมล่ะค่ะ (หัวเราะใหญ่) ก็พิจารณาดูก่อนว่าปัญหารุนแรงถึงขั้นไหนแล้ว สำหรับตัวเองถ้าเกิดปัญหาซักห้าสิบหรือหกสิบเปอร์เซ็นต์ ก็ต้องรีบแล้ว คงไม่รอให้ถึง ร้อยเปอร์เซ็นต์ อาจจะรักษาหายยาก หรือไม่หายเลยก็ได้ สุดท้ายถึงมือหมอก็ต้องยอม" ในเมื่อเธอกล้าที่จะไปซ่อมแล้ว เธอยังมั่นใจว่า หากคนอื่นมีปัญหา เธอก็กล้าที่จะแนะนำ ให้คนอื่นไปซ่อมด้วยเหตุผลที่ว่า " วิวัฒนาการของการรักษาดีขึ้นทุกวัน แต่การประชาสัมพันธ์ไม่ค่อยดีเลย เราอาจเป็นคนหนึ่ง ที่ช่วยประชาสัมพันธ์ ให้คนอื่น ๆ ด้วย แต่ถ้าให้ดีน่าจะมีการประชาสัมพันธ์ กันมากขึ้นนะคะ" |
อดีตนักกีฬามวยไทย และครูพลศึกษา แม้ปัจจุบันถึงอายุจะขึ้นเลข 4 แล้ว แต่สุขภาพยังคง แข็งแรงสมบูรณ์ และเขาก็เคยผ่านประสบการณ์ "เซ็กซ์เสื่อม" มาแล้ว และตอนนี้ก็ "ซ่อม" แล้ว
น่าฉงน "ในช่วงหนึ่งเคยเสื่อมเมื่อตอนอายุ 20 กว่า ๆ เพราะอกหักจากผู้หญิงคนหนึ่ง หลังจากนั้น ผมก็ไม่ยุ่งกับใครเลย เบื่อและกลัวผิดหวัง มันเป็นความเสื่อมในความรู้สึกของเรานะ เสื่อมแบบชั่วคราว ในช่วงนั้น 5-6 เดือน ไม่อยากมีเพศสัมพันธ์กับใครเลย ถึงแม้จะมีโอกาส มีคนเข้ามาหา เราใช้เวลารักษาจิตใจของเราอยู่ระยะหนึ่ง จนเมื่อเจอคนใหม่ที่เรารู้สึกพอใจ และคิดอยากจะมีอะไร ๆ ขึ้นมาบ้างก็ถือว่าเขาเป็นคนมาช่วยซ่อม" เรายิงคำถามสำคัยของเราว่า "ถ้าเซ็กซ์เสื่อมขึ้นมาอีกจะซ่อมไหม?"
ฟัง ๆ ดูแล้ว รู้สึกว่าคุณสันติมีความมั่นอกมั่นใจว่าเซ็กซ์จะไม่เสื่อมแน่ ถึงแม้ว่าอายุจะล่วงไปแค่ไหน และในที่สุดเราก็ได้รับคำตอบ "เรื่องแบบนี้มันเหมือนมีด ถ้าไม่ลับคมบ่อย ๆ มันก็ทื่อ (คำตอบแบบนี้เล่นเอาคนถามถึงกับอึ้ง) ความบ่อยครั้ง และความมั่นใจมีส่วนช่วยให้ผมโชคดีนิดหนึ่งที่ผมเรียนจบ และทำงานในสายงาน พลศึกษา เรื่องความแข็งแรงของร่างกายผมได้เปรียบ สมรรถภาพทางกายดี หัวใจสูบฉีดโลหิตคล่อง ดูจากเพื่อน ๆ ในแวดวงเดียวกันยังมีความสุขในเรื่องนี้ แม้แต่ผู้ใหญ่ในวงการกีฬา แต่ละท่านยังฟิตปึ๋งปั๋งกันทุกคน" น่าอิจฉาจริง ๆ สำหรับคนในวงการกีฬา ที่มีความเสื่อมจากร่างกายจะน้อยกว่าคนแวดวงอื่น แถมสุขภาพจิตยังแจ่มใสได้ตลอด คงต้องลองพิสูจน์กันแล้วล่ะว่า เคล็ดลับเรื่องสุขภาพ ของคุณสันติที่ว่ารักษากาย รักษาใจให้แข็งแรงอยู่เสมอใช้การได้หรือไม่ และยังมีข้อคิดเด็ด ๆ ทิ้งท้ายอีกว่า "ใครเสื่อมก็ต้องรีบซ่อม ก่อนที่จะเสื่อมแบบซ่อมไม่ได้ แล้วคุณจะรู้ว่าความสุขแบบอิ่มในทุกเรื่อง ทุกรส มันเป็นยังไง" |
กองบรรณาธิการ นิตยสาร fitness
main |