มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://geocities.datacellar.net/Tokyo/Harbor/2093/

[ คัดลอก จากนิตยสาร fitness ปีที่ 9 ฉบับที่ 100 ]

เปิดอู่ซ่อม…เซ็กซ์ ซ่อมได้ตามกติกา

กองบรรณาธิการ fitness


ฉบับที่แล้วเราเสนอเรื่อง "เซ็กซ์เสื่อมซ่อมได้" กันไปแล้วดูเหมือนจะไม่จุใจทั้งคนทำและท่านผู้อ่าน ฉบับนี้เจาะกระแสฯ จึงเจาะลึกเรื่องราวการซ่อมเซ็กซ์แบบ "เปิดอู่" ให้ดูกันไปเลยว่า ขบวนการซ่อมเซ็กซ์นั้นเป็นอย่างไรบ้าง และได้เห็นหน้าเห็นตาผู้เชี่ยวชาญทางด้านการซ่อมเซ็กซ์ รศ.นพ.แพทย์อภิชาติ กงกะนันทน์ จะเป็นผู้เปิดอู่ ให้รู้รายละเอียดกันแบบกระจ่าง ขนาดไหนเรียกว่า "เซ็กซ์เสื่อม"

หากชายใดไม่ประสบความสำเร็จในการจะมีเพศสัมพันธ์กับคู่ของตนเองบ่อย ๆ ครั้งเข้า อาจต้องมาถามตนเองว่า "นี่เราเซ็กซ์เสื่อมไปแล้วหรือ" คำถามต่อมาที่คุณอาจสงสัยว่า อาการขนาดไหนของคุณที่จะถูกเรียกว่า "เซ็กซ์เสื่อม"

"เซ็กซ์เสื่อม"ที่พูด ๆ กัน เหมือนเป็นภาษาปากนี้ ทางการแพทย์เรียกว่า "ภาวะหย่อมสมรรถภาพทางเพศ" (Erectile Dyfunction หรือ ED) อันหมายถึง ภาวะที่อวัยวะเพศชายไม่อาจแข็งตัว หรือแข็งตัวได้ไม่เต็มที่ หรือแข็งตัวไม่ได้นานพอที่จะร่วมเพศได้ ดังนั้นจึงเป็นอันรู้กันว่าภาวะเช่นนี้ย่อมเกิดขึ้นในเพศชาย (เท่านั้น) แน่นอน

"ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ" นี้
อาจเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง หรือ หลายสาเหตุรวมกัน
  • จากภาวะทางจิตใจ ความเครียด ความวิตกกังวล ความกดดัน หรือ ความฝังใจในด้านลบ เกี่ยวกับเรื่องเพศ อาจทำให้การมีเพศสัมพันธ์ไม่ประสบความสำเร็จ (ในฝ่ายหญิงนั้น สาเหตุข้อนี้ถือเป็นสาเหตุหลัก ที่ทำให้ผู้หญิงไม่ประสบความสำเร็จในการมีเพศสัมพันธ์) สำหรับฝ่ายชายนั้น นั่นหมายถึง ภาวะทางจิตดังกล่าวจะส่งผลไปยังการทำงานของ ระบบประสาทที่จะสั่งการให้ "เจ้ามังกร" ลุกขึ้นสู้ หรือลุกแล้วแต่ไม่สู้… ถอยกลับดีกว่า อะไรทำนองนั้น
  • จากภาวะทางร่างกาย (อันนี้คือเรื่องของผู้ชายเขาล่ะ) สาเหตุ นี้จะมีส่วนถึง 80% ของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ต้นเหตุอาจจะเนื่องจากการเจ็บป่วย การผ่าตัด อุบัติเหตุ ที่มีผลต่อการทำลายของเส้นเลือด หรือเส้นประสาทซึ่งเชื่อมโยงกับอวัยวะเพศ
  • สาเหตุจากการได้รับยา หรือ ภาวะพร่องของฮอร์โมนเพศชาย (อันนี้ก็เป็นของฝ่ายชายอีกนั่นแหละ)


ต้นเหตุสำคัญทางกายและเหตุอื่น ๆ ที่พบบ่อยว่าทำให้เกิด
"ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ"
  • โรคเบาหวาน ทำให้เส้นประสาท และเส้นเลือดที่ควบคุมการไหลเวียนไปยังอวัยวะเพศชาย ถูกทำลาย ผู้ป่วยเบาหวานอายุมากมีโอกาสเป็น "ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ" มาก
  • โรคระบบเลือดและหัวใจ การแข็งตัวของเลือดทำให้การไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศ ช้าลง จึงเป็นอุปสรรคต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ไม่นาน
  • การผ่าตัดอวัยวะบริเวณอุ้งเชิงกราน อาจเนื่องมาจากการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ หรือ ต่อมลูกหมากโต
  • การได้รับบาดเจ็บบริเวณไขสันหลัง ไขสันหลังเป็นศูนย์กลางการถ่ายทอดคำสั่งจากสมอง ให้เลือดไหลเวียนไปยังอวัยวะเพศ ทำให้อวัยวะเพศแข็งตัว เมื่อไขสันหลังบาดเจ็บ มีผลทำให้คำสั่งจากสมองขาดตอน อวัยวะเพศจึงไม่สามารถแข็งตัวได้
  • การใช้ยาบางชนิด ยางบางชนิดมีผลทำให้เกิด "ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ" ได้ เช่น ยาลดความดัน ยารักษาโรคต่อมลูกหมากโตบางชนิด
  • โรคพิษสุราเรื้อรัง โรคนี้มีผลต่อระดับฮอร์โมนเพศชาย ดังนั้น อาจทำให้เกิด "ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ" แบบชั่วคราว หรือแบบถาวรได้
  • ปัญหาด้านฮอร์โมนเพศชาย ระดับฮอร์โมนเพศชายมักลดต่ำลงเมื่ออายุมากขึ้น


ซ่อมเซ็กซ์…เริ่มได้ไม่ยาก
เรื่องของการซ่อมเซ็กซ์ที่กำลังเป็นเรื่อง ฮ็อต ฮือฮา อยู่ในปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นการแก้ปัญหา "เซ็กซ์เสื่อม" ของผู้ชาย การซ่อมเซ็กซ์ในผู้หญิงนั้น กระแสข่าวแผ่วจางจนไม่อาจจะหาข้อมูล มายืนยันได้ชัดเจน เราจึงมาว่าถึงการซ่อมเซ็กซ์ในฝ่ายชาย

อย่างแรกสุดที่ผู้มีปัญหา "ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ" จะต้องซ่อมนั้นเป็นเรื่องของการ "ซ่อมด้วยตัวเอง" ก่อน หากรู้สึกว่าตนเองไม่ประสบความสำเร็จในการมีเพศสัมพันธ์ เริ่มด้วย การพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกายที่เหมาะสม การรับประทานอาหารที่ดีครบถ้วน ไม่เสพสิ่งที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิด "ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ" การละ ปล่อยวาง เรื่องที่ทำให้เกิดความกดดัน วิตกกังวล หรือเหตุทางใจต่าง ๆ

หาก "ซ่อมด้วยตนเอง" แล้วไม่ได้ผล เพราะคุณอาจอยู่ในประเภท "เสื่อมแน่ๆ แล้วจ้า" ละก็… เข้าอู่ยกเครื่องกันตามอาการดีกว่า

เปิดอู่ซ่อมเซ็กซ์ เลือกซ่อมให้ถูกวิธี
หากใครประสบ "ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ"(Erectile Dyfunction หรือ ED) ซึ่งปัจจุบันทางการแพทย์ถือว่า ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศนี้เป็นโรคหนึ่ง ถึงแม้จะไม่อันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ก็สามารถทำให้ท่านเกิดความรำคาญ กลุ้มใจ เสียศักดิ์ศรี เผลอ ๆ จะพาลไปสู่โรคอื่น ๆ ไม่ต้องกังวล ถ้าตกลงปลงใจที่จะรักษาก็มาได้เลย

รศ.นพ.อภิชาติ กงกะนันท์ ศัลยแพทย์ทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เป็นนายแพทย์ที่ทำการรักษาผู้ที่เกิดภาววะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศมาแล้วมากมาย และเป็นผู้ที่ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับตัวยาใหม่ ๆ ที่เข้ามาในประเทศไทย ได้อธิบายถึงขั้นตอนและวิธีการรักษาอย่างละเอียด

อายหมอก็รอวันเสื่อม (ชั่วชีวิต)
โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศนั้น ท่านชายบางท่านจะอายไม่กล้าจะมาติดต่อขอรับการรักษา… ขอบอกว่า…อย่ามัวเขิน มัวกลัวอยู่เลย เพราะโรคนี้รักษาให้หายได้ง่าย หากพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งแพทย์ที่รักษาโรคนี้โดยตรงคือ ศัลยแพทย์ทางเดินปัสสาวะ (อย่าไปให้หมอในตู้กระจกรักษาล่ะ เดี๋ยวจะต้องตามรักษาโรคอื่น ๆ อีก จะยิ่งไปกันใหญ่)

รักษาที่ละขั้น สำคัญที่ซักประวัติ
การซักประวัติเป็นสิ่งสำคัญที่จะหาสาเหตุของอาการ มีคนจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจผิด และเสียความเชื่อมั่นในตนเอง จากการร่วมเพศไม่เสร็จสมอารมณ์หมาย 2-3 ครั้ง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเป็นเรื่องปกติมาก ไม่จำเป็นต้องรักษาอะไรมากมาย (อาจจะใช้ยาสอดหรือยาฉีดช่วยบ้าง) แพทย์อาจอธิบายให้เข้าใจ และคลายกังวล (สภาพทางจิตและการเสียความเชื่อมั่น จะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้การร่วมเพศครั้งต่อ ๆ ไม่สำเร็จ) รวมทั้งแนะนำให้พักผ่อนมาก ๆ ทำจิตใจให้สบาย มีผู้ป่วยหลายท่านที่ต้องทำงานหนัก แต่เมื่อกลับบ้านเกิดมีอารมณ์เพศขึ้นมา ซึ่งในขณะนั้นสภาพร่างกายอ่อนเพลีย นั่นจะทำให้อวัยวะเพศไม่แข็งตัว และล้มเหลวในการปฏิบัติกิจกรรมทางเพศในครั้งนั้น ๆ

ดังนั้น เมื่อตกลงใจที่จะรักษาแล้ว ก็ต้องให้ความร่วมมือในการที่จะเล่าความจริงให้แพทย์ฟัง เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง

หลากรูปแบบการรักษา
เนื่องจากโรคภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศนี้ ผลของการรักษาขึ้นอยู่กับความพอใจ ของผู้ป่วยเป็นหลัก แพทย์เองจะเป็นผู้ดูแลและแนะนำการักษาแบบต่าง ๆ ให้ผู้ป่วยเลือก ขึ้นอยู่กับว่า ผู้ป่วยจะพอใจการรักษาแบบใด เงื่อนไขต่าง ๆ มักขึ้นอยู่กับ

อุปกรณ์และยามีมาให้เลือก
โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศนั้น มีสาเหตุมาจากทางจิตเบื้องต้น ถ้าเสื่อมแค่ใจแต่กายสู้ แบบนี้ปรับจิตปรับใจเสียใหม่ก็หายได้ แต่ในรายที่เสื่อมแท้ ๆ แก้ทางจิตยังไงก็ไม่หายเสียแล้ว… แต่อย่างเพิ่งหมดหวัง ยังมีทางเลือกในการรักษา ให้นกเขาของคุณกระดี๊กระด๊าอีกครั้งได้ ตามความพอใจ

กระบอกสูญญากาศ
เป็นอุปกรณ์ที่อาศัยหลักทางกลศาสตร์ (เป็นอุปกรณ์ชิ้นแรก ๆ ของโลก ที่ช่วยชายที่นกเขาไม่ขัน) เมื่อสวมอุปกรณ์ชิ้นนี้ที่อวัยวะเพศ แล้วจะต้องปั๊มให้เกิดสภาพสูญญากาศภายในกระบอก เลือดจากส่วนต่างๆ ของร่างกายจะไหลมาคั่งที่อวัยวะเพศทำให้แข็งตัวได้ เมื่อแข็งจนเป็นที่พอใจแล้วก็ใช้ยาง (ยางที่มากับกระบอก) รัดที่โคนอวัยวะ เพื่อกักเลือดไว้ให้แข็งตัวอยู่ได้ เดิมทีเดียวกระบอกสูญญากาศเป็นที่นิยมแพร่หลายมาก

แต่มีข้อห้ามใช้หลายประการ เช่น ในคนที่เลือดออกง่าย, ผู้ที่ทานยาแอสไพริน หรือยาที่ทำให้ เลือดไม่จับตัวกัน เพราะอาจจะทำให้เลือดคั่งมากเกินไป ข้อเสียอีกประการคือ คุณภาพในการแข็งตัว ยังไม่ดีเท่าที่ควร ที่สำคัญพกพาไม่สะดวก (ขนไปไหนมาไหนดูจะเป็นการเอิกเกริก)

ยาฉีดเข้าอวัยวะเพศ
การรักษาด้วยยาฉีดนั้นมีมานานหลายปีแล้ว ด้วยตัวยาที่พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ และมีตัวยาหลายแบบ ข้อสำคัญผู้ใช้ต้องปรับขนาดการใช้ให้เหมาะสมกับตัวเองคือ อวัยวะเพศต้องสามารถแข็งได้ประมาณ 30-60 นาที (ไม่ควรนานกว่านี้) หลังจากฉีดยาแล้วต้องยืนอยู่ประมาณ 10 นาที เพื่อช่วยให้เลือดมาคั่งในอวัยะเพศเร็วขึ้น

ข้อดีของการใช้ยาฉีดคือ อวัยวะเพศแข็งตัวได้ทันใจภายใน 5-10 นาที เมื่อมีอารมณ์ทางเพศก็ฉีดเข้าที่โคนอวัยวะเพศ ในแต่ละครั้งที่ฉีดต้องสลับข้างเพื่อป้องกันเนื้อบริเวณที่ฉีดแข็ง บางท่านอาจจะมีอาการกลัวเข็มฉีดยา ปัจจุบันก็จะมีเครื่องฉีดยาอัตโนมัติเพื่อลดความน่าสะพรึงกลัวของเข็ม

ข้อควรระวังในการฉีดยา อยู่ที่ยาบางตัวเช่น Papaverine ที่อาจมีผลข้างเคียงคือ อาการโด่ไม่รู้ล้ม (Priapism) หรือ คนไข้ที่มีอวัยวะเพศคดงอเมื่อแข็งตัวจะปวดมาก เป็นต้น

ยาสอดท่อปัสสาวะ
ยาสอดพัฒนามาจากตัวยาที่ใช้เป็น ยาฉีดเพื่อการใช้ที่สะดวกขึ้น อาทิ Protsglandine เป็นต้น ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อของ MUSE (มิวซ์) ย่อมาจาก medicated system for erection ลักษณะคล้ายขี้ผึ้ง ในหลอดบรรจุขนาดพอ ๆ กับเม็ดข้าวสาร ซึ่งความเข็มข้นมากกว่ายาฉีดถึง 100 เท่า (เพื่อผลในการดูดซึม) ผู้ใช้ต้อสอดเข้าไปในท่อปัสสาวะ หลังสอดต้องใช้มือช่วยคลึง เพื่อให้ยากระจายได้เร็วขึ้น

ผลข้างเคียงของการใช้ยาสอด ฝ่ายชายอาจมีอาการแสบ ร้อน วูบวาบในทางเดินปัสสาวะ
ส่วนฝ่ายหญิง (ที่ฝ่ายชายใช้ยาสอด) อาจเกิดอาการคัน หรือแสบเล็กน้อยในช่องคลอด ในกรณีที่ฝ่ายหญิงตั้งครรภ์ควรใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองและอันตรายที่จะเกิดกับตัวอ่อน

ยารับประทาน
ยารับประทานในบ้านเรา ตอนนี้กำลังเป็นที่ฮือฮามาก คือไวอากร้านั่นเอง ตัวยาที่ใช้ชื่อว่า Sildenafil มีผลทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวแต่ต้องมีการกระตุ้นทางเพศช่วยด้วย เพราะโดยตัวยาแล้ว ไม่ได้เป็นยาปลุกอารมณ์ทางเพศ การออกฤทธิ์ของยาเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับการดูดซึมยา ของร่างกายแต่ละคน

ข้อดีของการใช้ยารับประทาน คือ ความสะดวกสบายในการพกพา และการใช้ แต่ยาชนิดนี้ห้ามใช้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ หรือผู้ป่วยที่เจ็บหน้าอก ซึ่งคนไข้โรคหัวใจเหล่านี้ ส่วนมากจะใช้ยาที่มีส่วนผสมของ Nitrites หรือ Nitrate ร่วมด้วยเสมอ ซึ่งตัวยาทั้งสองชนิด( ไวอากร้า กับ Nitrate )มีฤทธิ์ที่เสริมกัน มีผลให้ความดันโลหิตต่ำลงอย่างกะทันหัน อาจจะทำให้เกิดหัวใจวาย หรือปัญหากับกระบวนการโรคหัวใจได้

การใช้ยาไวอากร้าในเมืองไทย ต้องได้รับใบสั่งยาจากแพทย์เฉพาะสาขาใดสาขาหนึ่งใน 4 สาขา คือ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาศัลยศาสตร์ทางเดินปัสสาวะ, จิตเวชศาสตร์, อายุรศาสตร์โรคหัวใจ และอายุรศาสตร์ต่อมไร้ท่อ ดังนั้นยาไวอากร้า จะไม่มีจำหน่ายตามร้านขายยา อย่าเสี่ยงซื้อมารับประทานเอง เพราะอาจเสียเงินจำนวนมากไปกับยาปลอมได้

ยาทาอวัยวะเพศ
ปัจจุบันกำลังมีการพัฒนายาป้ายที่อวัยวะเพศ ยามีลักษณะเป็นครีม ใช้ป้ายที่หัวอวัยวะเพศ แต่ผลที่ได้ยังไม่เป็นที่พอใจของผู้ใช้ เนื่องจากออกฤทธ์ช้า และอวัยวะเพศไม่แข็งตัวเท่าที่ควร คงต้องรออีกหน่อย ถ้ายาตัวนี้พัฒนาอย่างเต็มที่ อาจจะใช้ได้ผลดีกว่ายาในรูปแบบอื่น

การผ่าตัดฝังแกน
การผ่าตัดเป็นทางเลือกหนึ่งที่ไม่ค่อยมีคนเลือกมากนัก แต่นับเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า เมื่อคิดในระยะยาว การผ่าตัดฝังแกนหนึ่งครั้งจะใช้งานได้ถึงเกือบ 10 ปี

แกนที่ใช้ฝังมีหลายขนาด และหลายลักษณะการใช้งานให้เลือก มีทั้งแบบที่ใช้มือปรับแกน, แบบใช้ปั๊มกลไกการทำงานต่าง ๆ จะซ่อนอยู่ภายในตัวอย่างแนบเนียน (ถ้าคุณไม่ส่อพิรุธ ให้คู่ของคุณรู้ซะก่อนนะ) การผ่าตัดประมาณ 1 ชั่วโมง ถ้าแพทย์ที่มีความชขำนาญจะรวดเร็วมาก การฝังแกนนั้นจะไม่มีผลกับการเป็นหมันแต่กลับเป็นการช่วยให้อสุจิหลั่งได้ตามธรรมชาติอีกด้วย

ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดนั้น ขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลที่เลือกใช้ เนื่องจากแกนที่ฝังมีราคาที่ ค่อนข้างตายตัว ราคาขึ้นอยู่กับแบบและรุ่น (เป็นเท่าไหร่นั้น คงต้องสอบถามกับทางแพทย์เอง)

มีอู่ (ซ่อมเซ็กซ์) อย่างนี้ซ่อมดีไหม
ได้ทราบเหตุแห่ง "ความเสื่อม" ของเซ็กซ์ และรายละเอียดเกี่ยวกับการซ่อมเซ็กซ์ ทั้งแบบไม่ใช้เครื่องมือ และแบบใช้เครื่องมือกันไปแล้ว เรามาดูกันว่า คนหลาย ๆ วงการ ที่ยินดีเปิดใจ พูดถึง "การซ่อมเซ็กซ์" ว่าคิดอย่างไร และถ้าต้องซ่อม เขาหรือเธอจะ "ซ่อม" กันหรือไม่อย่างไร

คุณมนัสชนก ส่งศรีสุข
นักแสดง/บ.ก.หนังสือพิมพ์วันหยุด
"ซ่อมได้ไม่เห็นแคร์"
คุณมนัสชนก ซึ่งยังอยู่ในวัย "ฟิต" และตามยุคตามสมัยอยู่ คิดว่า เรื่องเซ็กซ์ไม่ใช่เรื่องพูดยาก
"สังคมปัจจุบัน เรื่องเซ็กซ์กลายเป็นเรื่องที่พูดถึงกัน อย่างแพร่หลาย ไม่ต้องแคร์อะไรเหมือนสมัยก่อน ๆ แล้ว การที่มีอู่ซ่อมเซ็กซ์ก็ดีนะ จะได้ช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ชาย ที่เขาเป็นแบบพวกนกเขาไม่ขัน ตายด้านไปแล้วให้เหมือนเกิดใหม่ กลายเป็นชีวิตที่มีชีวา ขึ้นมาใหม่"

โดยส่วนตัวของเธอนั้น สามารถบอกกับเราได้ว่าเธอมีความต้องการที่เป็นธรรมชาติอยู่ หากวันใดที่รู้สึกได้ว่าตนเองผิดปกติไปโดยที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่มีปัญหาเธอว่า

"ถ้าตัวเองมีปัญหาเรื่องนี้ คงต้องปรึกษาคนที่ใกล้ตัวที่สุดก่อน ก็อาจจะเป็นเพื่อเป็นพี่ ๆ น้อง ๆ ถาม ๆ ดูว่าเราเป็นอย่างนี้….อย่างนี้นะ เขาอาจจะพูด หรือแนะนำอะไรที่ทำให้เราเอามาลองปฏิบัติดู เราอาจจะเครียด หรือว้าวุ่นอะไร เราต้องหาสาเหตุจากตัวเราก่อน แล้วถ้ายังมีปัญหาอยู่ ก็จะไปหาหมอ

ระดับอาการที่เราคิดว่า เรามีปัญหาถึงขั้นต้องไปหาหมอคือ น่าจะเป็นตรงที่ว่า เรารู้สึกว่า เราไม่มีความรู้สึกต้องการทางเพศเลย ความรู้สึกนี้หายไปเลย ไม่มีอารมณ์แล้ว อะไรอย่างนี้นะ ถ้าถือว่านี่คือการซ่อมก็จะไปซ่อมล่ะ เพราะมันคือส่วนหนึ่งของชีวิตเหมือนกัน เราจะไม่แคร์หรอกว่า ใครจะว่ายังไง เพราะคิดว่าปัจจุบันสังคมก็ยอมรับ เราถือว่ามันเป็นสิ่งที่เราต้องใช้อยู่ มันทำให้ชีวิตเรามีความสุขน่ะ

แต่ก็จะต้องดูอายุด้วยนะ ตัวเองนี่เวลานี้ถือว่าเป็นปกติดี ความรู้สึกต่าง ๆ ความต้องการต่าง ๆ จะยังมีอยู่ รู้ว่าตัวเองไม่ผิดปกติอะไร แต่ถ้าวันหนึ่งเราอายุมากขึ้นกว่านี้ อย่างซัก 50 ปี แล้วเรารู้สึก เราไม่ค่อยประสบความสำเร็จในเรื่องเซ็กซ์แล้ว เราคิดว่าเราไม่ไปซ่อมดีกว่า เพราะถึงเวลานั้น เราคงจะปลงได้ เราก็เห็นตัวอย่างจากแม่ จากพี่สาวนะว่าเขาไม่ได้มีเรื่องแบบนี้ เขาก็อยู่กันได้อย่างมีความสุขเหมือนกัน"

อย่างนี้ต้องเรียกว่า "ซ่อมได้" แต่ซ่อมอันตามเหตุและวัยอันควร


คุณเฉลิมเกียรติ สมหวัง
บรรณาธิการนิตยสาร LIFE & HOME
"ซ่อมแน่แต่คิดนาน"
เมื่อพูดถึงเรื่องของ "เซ็กซ์เสื่อม" แล้วคุณเฉลิมเกียรติเข้าใจ ได้เป็นอย่างดีว่า ความเสื่อมนั้นมาจากจิตใจ ที่จะสามารถ ส่งผลกระทบไปถึงสมรรถภาพทางเพศได้ทางหนึ่ง ส่วนในด้านร่างกายนั้นหากเกิดจากอุบัติเหตุ หรือเกิดจากความบกพร่องของอวัยวะ ก็เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไข ดังนั้นเมื่อพูดถึงการมีอู่ซ่อมเซ็กซ์ บ.ก.หนุ่มใหญ่จึงเห็นด้วย (แบบมีเงื่อนไขเล็ก ๆ ) ว่า

"ดีนะที่มีการซ่อมเซ็กซ์ เพื่อว่าคนเราจะได้ใช้ชีวิตครอบครัวอย่างสมบูรณ์ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าซ่อมแล้ว มันจะเหมือนเดิมหรือเปล่า"

โดยส่วนตัวแล้วคุณเฉลิมเกียรติ คิดว่าหากตนเองถึงคราว "เส่อม" ขึ้นมาบ้าง และต้อง "ซ่อม" ขึ้นมาจริง ๆ เขาก็มีระดับ และเงื่อนไขในการเข้าอู่ของตนเองเหมือนกัน

"ต้องดูว่าเราเสื่อมเนื่องจากสาเหตุอะไรก่อน เราต้องดูตัวเราก่อนว่าเครียดมั้ย มีปัญหาในใจอะไร ร่างกายเราขาดการออกกำลังกาย ขาดการพักผ่อนหรือเปล่า เราจะซ่อมตัวเราเองก่อน ถ้ายังไม่ดีขึ้นเราอาจจะพูดคุยกับเพื่อน ขอคำแนะนำ หรือถึงขั้นที่ต้องโทรไปปรึกษาตามศูนย์ หรือไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล หรือคลีนิกก็ต้องลองดู ไม่คิดว่าเป็นเรื่องเสียเวลา"

เมื่อถามถึงขั้นที่ต้องซ่อมด้วยการใช้ "อะไหล่" โดยแพทย์ผู้ชำนาญการ คุณเฉลิมเกียรติคิดนาน ก่อนจะแสดงทรรศนะ

"ถ้าต้องซ่อมต้องรื้อ ต้องเอาอะไรใส่เข้าไปนี่คิดว่าไม่นะ เพราะโดยหลักของตัวเองแล้วจะไม่ชอบ อะไรที่มันไม่เป็นธรรมชาติ อย่างผู้หญิงที่เสริมโน่นเสริมนี่ เอาสิ่งไม่เป็นธรรมชาติเข้าไปในร่างกาย นี่จะไม่ชอบเลย คิดว่าถ้าต้องซ่อมกันขนาดนั้นไม่เอาดีกว่า มันนอกเหนือจากสิ่งที่เรามีมานะ ถ้ามันจะเสื่อมขนาดไม่เวิร์กแล้ว เราก็จะมีวิธีการทดแทนเพื่อให้ความเป็นครอบครัวของเราอยู่ได้ โดยไม่ต้องอาศัยเรื่องตรงนี้ ซึ่งตรงจุดนี้เรารู้ว่าคนในบ้านของเราเป็นยังไง เราเข้าใจกันได้นะ และยิ่งถ้าเราไปเสื่อมไม่เวิร์กเอาตอนอายุ 60-70 แล้วยิ่งไม่ต้องไปซ่อมเลย มันไม่ความจำเป็นแล้ว ถ้าถึงขนาดนั้น ถึงตอนนั้นก็เข้าวัด ปลงได้แล้ว ถ้าแก่ขนาดนั้นแล้วยังคิดที่จะทำ เพื่อจะไปมีอะไร กับพวกสาว ๆ มันก็กลายเป็นหัวงูไปน๊า"

แล้วบ.ก.หนุ่มใหญ่ก็ทิ้งท้ายไว้อย่างมั่นอกมั่นใจว่า "คงไม่เสื่อมก่อนเวลาอันควรหรอกน่า"


สาวน้อยหน้าตาน่ารักที่เพิ่งรับปริญญาตรีมาหมาด ๆ จากสถาบันอุดมศึกษาใหญ่แถว ๆ รามคำแหง แสดงความคิดเห็นเรื่องการซ่อมเซ็กซ์ตามแบบฉบับของวัยรุ่นที่ยังมองภาพของ "เซ็กซ์" ยังไม่ชัดเจน แต่ก็ให้ทรรศนะเรื่องการซ่อมเซ็กซ์ไว้แบบเขิน ๆ แต่ได้แง่คิดว่า

คุณสุจิตรา คูหาภาสกกร
นักศึกษา (รอต่อระดับปริญญาโท)
"ต้องอาศัยความกล้า"
"ถ้ามีอู่ซ่อมจริง ๆ จะดีมาก เพราะอย่างน้อยเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตคู่ราบรื่น ช่วยลดปัญหาการหย่าร้างได้ เรื่องแบบนี้มันมีส่วนกับการมีชีวิตคู่ ถ้าเกิดปัญหาขึ้นกับตัวเรา (ครุ่นคิดอยู่นาน) เราเป็นผู้หญิง ต้องทนไปก่อน ไม่อยากให้ความรักแตกหักด้วยปัญหาแบบนี้ ทนไปซักระดับหนึ่ง จนรู้สึกทนไม่ไหว แล้วในส่วนตัวผู้ชายเองเค้าจะยิ่งรู้สึกว่า เราไม่มีความสุขกับเรื่องนี้ พอถึงตรงนั้น เราสองคน ก็ต้องคุยกันว่าจะแก้ไขอย่างไร"

ในเบื้องต้นเราได้ข้อสรุปว่า คนทั้งคู่จะต้องพยายามแก้ไขด้วยตนเองก่อน ดูเหตุที่เกิด ถ้าไม่สำเร็จถึงจะพึ่งบุคคลที่สาม

"ขั้นต่อมาคงโทรศัพท์ไปปรึกษา อาจจะเป็นคลีนิก หรือศูนย์ที่ให้คำปรึกษาปัญหาเหล่านี้ ก็คงต้องเลือกว่าสถานที่เหล่านั้นมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน เราอยากหาย และไม่อยากเปิดเผยให้ใครรู้"

หากถึงขั้นที่จะต้องพบแพทย์ เพื่อแก้ไขในระดับสูงเธอว่า

"ถ้าถึงกับต้องซ่อมก็ต้องซ่อมล่ะค่ะ (หัวเราะใหญ่) ก็พิจารณาดูก่อนว่าปัญหารุนแรงถึงขั้นไหนแล้ว สำหรับตัวเองถ้าเกิดปัญหาซักห้าสิบหรือหกสิบเปอร์เซ็นต์ ก็ต้องรีบแล้ว คงไม่รอให้ถึง ร้อยเปอร์เซ็นต์ อาจจะรักษาหายยาก หรือไม่หายเลยก็ได้ สุดท้ายถึงมือหมอก็ต้องยอม"

ในเมื่อเธอกล้าที่จะไปซ่อมแล้ว เธอยังมั่นใจว่า หากคนอื่นมีปัญหา เธอก็กล้าที่จะแนะนำ ให้คนอื่นไปซ่อมด้วยเหตุผลที่ว่า

" วิวัฒนาการของการรักษาดีขึ้นทุกวัน แต่การประชาสัมพันธ์ไม่ค่อยดีเลย เราอาจเป็นคนหนึ่ง ที่ช่วยประชาสัมพันธ์ ให้คนอื่น ๆ ด้วย แต่ถ้าให้ดีน่าจะมีการประชาสัมพันธ์ กันมากขึ้นนะคะ"


อดีตนักกีฬามวยไทย และครูพลศึกษา แม้ปัจจุบันถึงอายุจะขึ้นเลข 4 แล้ว แต่สุขภาพยังคง แข็งแรงสมบูรณ์ และเขาก็เคยผ่านประสบการณ์ "เซ็กซ์เสื่อม" มาแล้ว และตอนนี้ก็ "ซ่อม" แล้ว… น่าฉงน

"ในช่วงหนึ่งเคยเสื่อมเมื่อตอนอายุ 20 กว่า ๆ เพราะอกหักจากผู้หญิงคนหนึ่ง หลังจากนั้น ผมก็ไม่ยุ่งกับใครเลย เบื่อและกลัวผิดหวัง มันเป็นความเสื่อมในความรู้สึกของเรานะ เสื่อมแบบชั่วคราว ในช่วงนั้น 5-6 เดือน ไม่อยากมีเพศสัมพันธ์กับใครเลย ถึงแม้จะมีโอกาส มีคนเข้ามาหา เราใช้เวลารักษาจิตใจของเราอยู่ระยะหนึ่ง จนเมื่อเจอคนใหม่ที่เรารู้สึกพอใจ และคิดอยากจะมีอะไร ๆ ขึ้นมาบ้างก็ถือว่าเขาเป็นคนมาช่วยซ่อม"

เรายิงคำถามสำคัยของเราว่า "ถ้าเซ็กซ์เสื่อมขึ้นมาอีกจะซ่อมไหม?"

"ซ่อมแน่ (ตอบด้วยน้ำเสียง
อันหนักแน่น) แต่เราจะปล่อย
ให้มันเสื่อมทำไม
สังขารของคนเรา
มันซ่อมได้ ด้วยอาหาร
การออกกำลังกาย
การพักผ่อน ถ้านอนดึก
ก็ต้องนอนชดเชย
คุณสันติ สุขเจริญ
ผู้จัดการร้านอาหารครัวเวียงจันทร์
"จะปล่อยให้เสื่อมทำไม"
หรือจิตใจ ถ้าเราเครียด
เราก็ต้องละความเครียด
หรือบุหรี่ เหล้ามีผลทางกาย
เราต้องลดลง
เราต้องหลีกเลี่ยง
สาเหตุแห่งความเสื่อม
เราต้องซ่อมใจ ซ่อมตัวเราก่อน
ถ้าสาหัสมากก็ต้องพบหมอ


ถ้าจิตใจเราดูแล้วไม่เป็นไร แต่ร่างกายไม่สู้ เมื่อถึงตอนนั้นแม้อายุ 60 แล้วผมก็ซ่อม ถึงขนาดรื้อ ขนาดผ่าตัดผมก็ทำ แต่นั่นต้องหมายความว่า เราได้พยายามรักษาตัวเองแล้ว"

ฟัง ๆ ดูแล้ว รู้สึกว่าคุณสันติมีความมั่นอกมั่นใจว่าเซ็กซ์จะไม่เสื่อมแน่ ถึงแม้ว่าอายุจะล่วงไปแค่ไหน และในที่สุดเราก็ได้รับคำตอบ

"เรื่องแบบนี้มันเหมือนมีด ถ้าไม่ลับคมบ่อย ๆ มันก็ทื่อ (คำตอบแบบนี้เล่นเอาคนถามถึงกับอึ้ง) ความบ่อยครั้ง และความมั่นใจมีส่วนช่วยให้ผมโชคดีนิดหนึ่งที่ผมเรียนจบ และทำงานในสายงาน พลศึกษา เรื่องความแข็งแรงของร่างกายผมได้เปรียบ สมรรถภาพทางกายดี หัวใจสูบฉีดโลหิตคล่อง ดูจากเพื่อน ๆ ในแวดวงเดียวกันยังมีความสุขในเรื่องนี้ แม้แต่ผู้ใหญ่ในวงการกีฬา แต่ละท่านยังฟิตปึ๋งปั๋งกันทุกคน"

น่าอิจฉาจริง ๆ สำหรับคนในวงการกีฬา ที่มีความเสื่อมจากร่างกายจะน้อยกว่าคนแวดวงอื่น แถมสุขภาพจิตยังแจ่มใสได้ตลอด คงต้องลองพิสูจน์กันแล้วล่ะว่า เคล็ดลับเรื่องสุขภาพ ของคุณสันติที่ว่ารักษากาย รักษาใจให้แข็งแรงอยู่เสมอใช้การได้หรือไม่ และยังมีข้อคิดเด็ด ๆ ทิ้งท้ายอีกว่า

"ใครเสื่อมก็ต้องรีบซ่อม ก่อนที่จะเสื่อมแบบซ่อมไม่ได้ แล้วคุณจะรู้ว่าความสุขแบบอิ่มในทุกเรื่อง ทุกรส มันเป็นยังไง"

กองบรรณาธิการ นิตยสาร fitness


ขอบคุณนิตยสารfitness ที่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600
1