"เมอร์ลิน"
"โตจนป่านฉะนี้ ยังไม่มีแฟน พี่ว่า หนูยังพอมีโอกาสอีกไหม?" จากน้อง จ.น่าน
ดูโหงวเฮ้งจากลายมือ ถ้า "มี" พี่ให้เหยียบ ...เอ้ย...แหมเดี๋ยวจะหมดกำลังใจไปซะก่อน พี่ก็พูดเล่น ไปหยั่งงั้น อันที่จริงคุณยังมีโอกาสอีกมากมายมหาศาล ที่จะได้เจอกับใครสักคนที่พอจะเข้าใจ
จำไว้เถอะน้อง ว่าตราบใดที่ดินยังไม่กลบหน้า ฟ้ายังไม่ทลาย โลกไม่ไร้ซึ่งใบพุทรา เรื่องมีแฟน ไม่มีแฟนเป็นอะไรที่ขี้ปะติ๋วมาก บทมันจะมี มันก็มาหาเอง บทมันจะแห้ว ก็ไม่รู้หายหัวไปไหนหมด
แต่ในเมื่อคุณผู้อ่านอยากจะมีคนรัก... กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งอะแฮ่ม...ก็หมายถึงคนเขียนด้วย เมอร์ลินก็เลยต้องไปขุดตำรา กวักมือเรียกแฟนมาคุยฟุ้งกันซะเลย
ก่อนอื่น ต้องถามตัวคุณเองก่อนว่า Hungry For Love หรือเปล่า? อ๋อ แปลไม่ออกหรือจ๊ะ ขอประทานโทษค่ะ ลืมตัวไปหน่อย ต้องถามว่า คุณกระหายรักหรือเปล่า?
ถ้าเยส หรือใช่ แหมเหมาะเลย เพราะเราจะพูดกันต่อไปถึงการแสวงหาคนรักไง คุณผู้อ่านเชื่อไหมว่า แค่การที่คุณตัดสินใจว่า จะไปรับประทานอาหารมื้อกลางวันที่ไหน บางทีสถานที่เหล่านั้น อาจเป็นที่เหมาะมากสำหรับใช้เป็นที่เหล่ตาหาแฟนก็ได้นะ
จาก How to Meet Men on Your Lunch Hour ของ Dr. Romance (ทำไมชื่อตรงกับอุปนิสัย ของเมอร์ลินก็ไม่รู้ ไม่ได้ตั้งใจให้สอดคล้องกันเลยนะเนี่ย) บอกเอาไว้ว่า ถ้าเมื่อไหร่ ที่คุณต้องการเปิดใจรับใครสักคนเข้ามาในชีวิตแล้วละก็
อย่าได้นั่งหง่าว จับเจ่า หงอยก๋อยอยู่แต่ในออฟฟิศคนเดียวโดดๆ เด็ดขาด เพราะขืนคุณปิดตัวเอง ขนาดนั้น แล้วจะมีวันได้เจอคนพิเศษไหมล่ะ
ดังนั้น ถ้าเมื่อไหร่นึกฮึดขึ้นมาล่ะก็ อย่าหนีบปิ่นโตจากบ้านมาทานที่ทำงานเลย แม้มันจะเป็นยุค ไอเอ็มเอฟ ที่คุณจำเป็นต้องประหยัดก็เหอะ แต่เรื่องมีแฟนน่ะ สำคัญกว่า คุณว่าไหม
เพราะหนุ่มโสดทั้งหลายมีนิสัยพิมพ์เดียวกันหมด คือจะออกไปทานอาหารนอกที่ทำงาน ซะเป็นส่วนใหญ่ ลองดูเถอะ คนไหนที่มีกล่องข้าวน้อยติดมือมาด้วย รับรองไม่โสดแล้ว อย่าไปสนเลย เสียมันสมองค่ะ
อีกอย่าง ถ้าเขาโสดจริง เขาจะไม่มีทางควงใครไปกินข้าวด้วยเด็ดขาด ตรงนี้แหละที่จะเป็นช่องสะดวกให้คุณๆ ได้ใช้เสน่ห์สาวงามอย่างมีคุณภาพสักที
แล้วริจะไปเจอโลกใหม่ ก็ต้อง
1. กรุณาไปกินข้าวคนเดียว อย่าสำออยไปไหนคนเดียวไม่เป็นถ้าวิธีที่เล่ามาทั้งหมด ยังใช้ไม่ได้ผล อย่าเพิ่งท้อถอยเพราะยังมีที่อื่นอีกถมเถ ที่คุณจะมีโอกาสได้เจอคนดีศรีอยุธยา เช่น
ชัวร์ว่า ชาตินี้ไม่ไร้อัศวินม้าขาวแน่.
"เมอร์ลิน"
main |