มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://geocities.datacellar.net/Tokyo/Harbor/2093/
จำสั้นๆ i.am/thaidoc

[ คัดลอก จากนิตยสารแม่และเด็ก ปีที่ 20 ฉบับ 305 กรกฎาคม 2540 ]

ต้นเหตุทำให้เหนื่อยใจ

ราชสีห์ หนวดทอง


นักวิจัยปัญหาครอบครัวเถื่อนคนหนึ่งคุยให้ฟังว่า การที่คู่สามีภรรยาที่รักใคร่กันปานจะกลืนกินมาก่อน ครั้นอยู่รวมชายคาเดียวกันเข้า (เขาว่าบางคู่นานบางรายก็เร็ว) มักจะมีเหตุกระทบกระทั่งกันหนักบ้างเบาบ้าง จนได้ที่จะกลมกลืนเป็นเกลียวเดียวเหมือนแรก ๆ นั้นหาได้ยากเต็มที การกระทบกระทั่งกันของคู่ผัวตัวเมียนั้น บางคนว่าเหมือนลิ้นกับฟัน จะต้องมีสักเวลาหนึ่งที่ฟันขบลิ้น (ที่ลิ้นจะไปกัดฟันนั้นไม่เคยมี) นักวิจัยเถื่อนคนนนั้นว่า ช่างเป็นคำเปรียบเปรย ที่คิดแล้วน่าขบขันไม่เบาเลย ลิ้นกับฟันกระทบกระทั่งกันเป็นเรื่องบังเอิญ มากกว่าตั้งใจ แต่ที่ผัวเมียกระทบกระทั่งกันนั้น เป็นเรื่องตั้งใจมากกว่าบังเอิญ กลับกันชนิดดำเป็นขาว

นักวิจัยปัญหาชีวิตครอบครัวเถื่อน คนเดียวกันนั้นโอ่ว่า เขาเพิ่งพบต้นเหตุที่ทำให้ผัวเมียกระทบกระทั่งกัน มาจากความเหนื่อยใจ

"ลองคิดดู-แล้วจะเห็นว่าที่พูดมาแล้วนั้นเป็นความจริง" เขาว่า

"คนเราจะอารมณ์เสีย เมื่อเกิดอาการเหนื่อยใจ และพออารมณ์เสียเกิดขึ้น อะไรมันขวางหูขวางตาไปทั้งหมด ที่ดีก็ร้ายที่ร้ายกลับร้ายหนักไปใหญ่ คนเราทะเลาะกัน ก็เพราะฝ่ายหนึ่งอารมณ์เสียมาจากการเหนื่อยใจแท้ ๆ เพราะฉะนั้นเวลาที่มีความสบายใจเราจึงเข้ากันได้ครึกครื้น"

เขาท้าให้ไปพิจารณาผลการวิจัยของเขาเอาจากของจริง จะจากคนอื่นที่เรารู้จัก หรือจากตัวเราเองก็ยังได้

ผมฟังแล้วอยากรู้ว่า…เท็จจริงแค่ไหน ?

วิโรจน์…เป็นคนแรกที่ผมตั้งใจพุ่งไปหา เพราะเท่าที่รู้กันในบรรดาเพื่อนฝูงเขาทำสถิติผิดเส้นกับคนทางบ้านสูงกว่าใคร จนเห็นกันว่าเป็นเรื่องปกติที่ผัวเมียคู่นี้ทะเลาะกัน ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย สำหรับคนที่รู้จักหรืออยู่บ้านชิดติดกัน เขามีเรื่องเอะอะมะเทิ่งได้ทุกวันไป

"เมียฉันเหมือนคนอื่นเขาเมื่อไหร่ล่ะ" วิโจน์โพล่งออกมา

"เป็นคนพูดมากที่สุด พูด…พูด…พูด…และพูด จนฟังแล้วอารมณ์ดีกระจุยกระเจิดไปหมด พูดซ้ำซากไม่มีวันแล้ว เรื่องสักที ตอนเป็นสาวพูดมากแทบทุกวันนี้ละก็ ให้ดิ้นเถอะ ฉันหนีร้อยโยชน์แสนโยชน์ไม่มีวันเชื้อเชิญเข้ามาสำแดงคารมถึงในบ้าน อย่างทุกวันนี้หรอก แย่มากนา ได้เมียพูดมากไม่เข้าท่าเข้าทางนะ คนฟังจะต้องข่มต้องอดทนเก่งที่สุดถึงจะพอไปได้ ก็มีใครหน้าไหนมั่งเล่าที่พอกลับเข้าบ้าน สองหูเต็มไปด้วยเสียงพูดร้อยพันอย่าง จากปากเมียเราเอง แล้วจะให้เราทนฟัง ด้วยอารมณ์ครึกครื้นไปด้วยได้ไง คนที่เจอถึงหูจะรู้ฤทธิ์ ว่าการพูดนี้น่ะทารุณคนรับฟังแค่ไหน"

เขาพูดถูกทุกอย่าง การพูดมากไม่ว่าจะซ้ำซาก หรือเพ้อเจ้อ เป็นเรื่องทารุณ คนจำใจได้ยินได้ฟังทั้งนั้น และนี่เป็นเหตุให้…เหนื่อยใจ ชนวนสำคัญทำให้อารมณ์เสีย

เป็นเสมือนลิ้นตอแยฟัน อดมันเขี้ยวไม่ได้ก็กัดกร๊วบเข้าให้ เรื่องเล็กก็จะบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่ น่าทุเรศไม่ย่อยเลย

อีกรายหนึ่ง…นิภา คนคุ้นเคยกัน รายนี้มีเรื่องขุ่นข้องหมองใจกับพ่อบ้านเป็นนิจสิน สามวันดีสี่วันต้องแยกมุ้งกันนอน เป็นเรื่องรู้กันอยู่ทั่วไปจนชินชารายนี้พอถูกถาม นิภาโพล่งออกมา …

"โถคุณ ไม่ใช่ว่าเป็นของสนุกหรอกนะค้า-ขายหน้าชาวบ้านเขาจะตายไป มีอย่างที่ไหนพอกลับเข้าบ้าน เที่ยวแส่ตรวจนั่นดูนี่จนทั่วไปหมด ตรวจไปบ่นไป หาเรื่องติเตียนให้ได้ทุกวัน ก็ใครบ้างจะทนฟังอยู่ได้ไม่โต้เถียง? เรารึเหนื่อยสายตัวแทบขาด งานบ้านเท่าภูเขาเลากา เหนื่อยกายพออยู่แล้ว มาได้ยินเสียงบ่นให้เหนื่อยใจอีก ก็เถียงเอาบ้าง พอโต้เข้า เกิดโมโหก็ต้องทะเลาะกันจนได้"

แม่บ้านผู้เหนื่อยใจ เพราะทนเสียงบ่นของพ่อบ้านทุก ๆ วันไม่ไหว เป็นคนน่าสงสารและน่าเห็นใจอยู่มาก นิภาพูดต่อไป

"กลับจากทำงานแทนที่จะอาบน้ำ อ่านหนังสือพิมพ์ จิบกาแฟ หรือกินของว่าง ไม่ก็นอนพักผ่อนเสีย ดิฉันว่ายังดีกว่าการเที่ยวตรวจตราความเรียบร้อยทั่วบ้านแล้วบ่น เป็นเชิงหยามแม่บ้านว่าทำงานไม่เรียบร้อย ผู้ชายปากร้ายก็มีนะคะ ไม่ใช่มีแต่ผู้หญิงหรอกค่ะ พูดไปจะหาว่าเอาเรื่องในมาขายนอกเจ็บใจเปล่า ๆ ไม่เข้าท่า"

อีกราย สมสกุลเป็นคนโสด เที่ยววิ่งหาบ้านเช่าจ้าละหวั่นเพื่อจะแต่งงาน ที่ไหนได้เขาบอก

"เปล่าหรอก ฉันอยากมาหาความสงบใจอยู่คนเดียว ในบ้านมีด้วยกันหลายคน ก็รำคาญพออยู่แล้ว มาโดนผู้ใหญ่บ่นว่าท่านั้นท่านี้กรอกหูไม่เว้นวัน ฉันจึงคิดหนีมาอยู่คนเดียว บางทีคงสบายขึ้น บอกตามตรงให้ฉันทำงานหนักแบบวัวควาย เสียยังจะเหนื่อยน้อยกว่า ถูกบ่นถูกว่า"

ผมไม่คิดติดใจจะเที่ยวถามไถ่ใครต่ออีก

เพราะจริงอย่างนักวิจัยเถื่อนคนนั้นว่า คนเราต้องทะเลาะเบาะแว้งกัน คิดให้ลึกลงไป จะได้พบว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจาก ความเหนื่อยใจ ที่บางคราวเกิดจากตนเอง บางครั้งและโดยมากมักมีคนมาหนุนมาเร่งให้

ต้นเหตุทำให้เหนื่อยใจ ชนิดที่มาจากตนเองนั้น มันทำให้มีอาการหงุดหงิด งุ่นง่าน บางทีก็พาลพาโลเอากับคนอยู่ใต้อำนาจเข้าด้วย ใครที่รู้ตัวว่าเหนื่อยใจขึ้นมา ถ้าหาทางยับยั้งไว้ไม่ไหว จะเป็นอันตรายทั้งแก่ระบบประสาทของตัวเอง และอาจลามปามไปถึงคนอื่นด้วย

ความเหนื่อยใจ ชนิดที่เนื่องหรือมาจากสิ่งอื่น คนอื่น ก็นับเป็นอันตรายต่อสัมพันธภาพไม่ยิ่งหย่อนกว่าอะไรอื่นที่เลวร้าย

นักวิจัยเขาบอกว่า เพราะฉะนั้น พอรู้ตัวว่าเกิดเหนื่อยใจขึ้นมา วิธีที่ดีที่สุด อาบน้ำให้ร่างกายสดชื่น แล้วงีบสักพัก ตื่นขึ้นมาร่างกาย จิตใจจะปลอดโปร่ง ความเหนื่อยใจจะหายไปสบาย

ฟังเขาวิจัยแล้ว นึกอยากให้พ่อบ้านแม่บ้าน เอามาวิจัยตัวเองกันบ้าง เรื่องทะเลาะเบาะแว้งคงจะเบาบาง หรือหมดไปเสียที

ราชสีห์ หนวดทอง


ขอบคุณนิตยสารแม่และเด็ก ที่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600
1