มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://geocities.datacellar.net/Tokyo/Harbor/2093/
จำสั้นๆ i.am/thaidoc



ลูกเป็นหวัดก็เป็นหอบหืดได้
รู้ไว้ป้องกันภัยหอบหืดให้ลูกเสียแต่วันนี้

โรคหอบหืดในเด็ก

ศ.นพ.พิภพ จิรภิญโญ

โรคหอบหืดของเด็กมักจะพบในครอบครัวที่ภูมิแพ้ เช่น พ่อ หรือ แม่ ที่เป็นหวัดหรือไม่สบายง่ายกว่าคนอื่น อาการไอแล้วตามมาด้วยอาการหอบหืดมักเกิดหลังจากลูกอายุ 1 ปี จะพบได้บ่อยในเด็กที่ทานนมผสมแทนนมแม่ตั้งแต่แรกเกิด

สิ่งกระตุ้น

การเป็นหวัด น้ำมูกไหลในเด็กอายุน้อยกว่า 2-3 ปี จะเป็นสิ่งกระตุ้นให้ลูกเกิดอาการไอแล้วหอบหืดตามมา สำหรับเด็กโตหรือผู้ใหญ่มักจะมีสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการหอบหืด เช่น ไรฝุ่น หรือละอองเกสรต่างๆ

ลูกหอบอีกแล้ว

ควรสังเกตการหายใจของลูกให้ดีว่ามีอาการหอบหืดหรือไม่ อาการหอบหืดจะสังเกตได้จากการหายใจ ให้สังเกตบริเวณใต้ชายโครง และยอดอกของลูกบุ๋มลงเวลาหายใจ ยิ่งบุ๋มลึกเท่าใดยิ่งแสดงว่า ลูกหอบมากเท่านั้น และเมื่อหอบมากขึ้นบริเวณปลายจมูกของลูก จะบานออกตามการหายใจ ถ้าเอาหูไปแนบฟังหน้าอกของลูก ช่วงหายใจออกจะได้ยินเสียง วี๊ด...วี๊ดเบาๆ ตลอดการหายใจออก

การดูแลรักษา

สำหรับลูกที่เป็น หอบ หืดบ่อย ควรให้ยาขยายหลอดลม ทานทันทีที่เริ่มมีอาการไอ ยาขยายหลอดลม มี 2 กลุ่ม โดยยากลุ่มที่ 1 ได้แก่ บริคานิล เวนโตลิน และเมพติน ให้คุณเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งในกลุ่มนี้ให้แก่ลูก โดยมีขนาดยาตามที่หมอแนะนำ ไม่ควรให้ลูกทานยากลุ่มนี้เกินขนาด หรือทานยาในกลุ่มนี้พร้อมกัน 2 ชนิด เพราะฤทธิ์ยาจะเกินขนาด ทำให้มือและใจสั่นได้ ในขณะที่ยากลุ่มที่ 2 คือ ทรีโอฟิลลิน และอะมิโนฟิลลิน สามารถเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งในกลุ่มนี้ ในขณะที่ลูกมีอาการหอบหืด ควรเลือกให้ยาในกลุ่มที่ 1 จะได้ผลรวดเร็วกว่ายาในกลุ่มที่ 2 สำหรับยากลุ่มที่ 2 นี้ควรให้ลูกทานทุกคืนในระยะที่มีอาการหอบหืดบ่อย เช่น ในฤดูฝนหรือฤดูหนาว

ในภาวะฉุกเฉินที่ลูกเกิดอาการหอบหืดขึ้นมาฉับพลัน ยาชนิดใช้สูดด้วยปากหรือพ่นเข้าไปในปาก แล้วให้ลูกหายใจเข้าทันที จะช่วยลดอาการหอบหืดชนิดเฉียบพลัน ถ้าลูกมีอาการเหล่านี้บ่อยๆ สมควรที่จะมียาพ่นหรือยาสูดดมไว้ประจำบ้านครับ

การป้องกัน

1. ป้องกันไม่ให้ลูกเป็นไข้หวัด เพราะอาการไข้หวัด มักจะเป็นสาเหตุนำให้เกิดอาการหอบหืด โดยพยายามให้ลูก อยู่ห่างจากคนที่เป็นไข้หวัด ใช้แก้วน้ำคนละใบกับผู้ที่เป็นไข้หวัด และอุณหภูมิห้องนอนของลูกไม่ควรต่ำกว่า 26 องศาเซลเซียส
2. ควรกำจัดฝุ่นในห้องนอนลูกอย่างสม่ำเสมอ ขณะดูดฝุ่นตามที่นอนหรือผ้าห่มต่างๆ ไม่ควรให้ลูกอยู่ในบริเวณนั้น
3. เมื่อลูกเริ่มมีน้ำมูกไหลควรให้ยาขยายหลอดลม กลุ่มที่ 1 (ซึ่งได้แก่บริคานิล, เวนโตลิน, เมพติน ดังได้กล่าวมาแล้ว) แก่ลูกทานทันที และควรหลีกเลี่ยงยาลดน้ำมูก ในช่วง 1-2 วันแรก ที่เริ่มมีน้ำมูก เพราะยาลดน้ำมูกจะทำให้เสมหะเหนียวมาก ร่างกายจะขับเสมหะไม่ออก ส่งผลให้ไอมากขึ้นและเกิดอาการหอบหืดตามมา
4. ให้ดื่มน้ำและพักผ่อนมากๆ เมื่อลูกเริ่มไม่สบาย ควรงดอาการออกกำลังกายที่ใช้กำลังมากๆ เช่น ว่านย้ำ ฟุตบอล

อย่าลืม โรคหอบหืดจะเป็นห่างขึ้นเมื่อลูกโตขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นมากในช่วง 2-3 ปี เมื่อผ่านพ้นช่วงอนุบาลที่ 1 ไปแล้วอาการหอบหืดจะลดน้อยลงตามลำดับ จนเกือบจะไม่มีอาการอีกเลย หรืออาจจะนานๆ ครั้ง จึงไม่ควรท้อแท้ในการดูแลลูกเมื่อเป็นหอบหืด เมื่อโตขึ้นลูกอาจจะไม่มีอาการหอบหืดตลอดชีวิตเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นควรดูแลและให้การรักษาลูกโดยเร็วทุกครั้ง ที่มีอาการหอบหืดอาจจะหายได้เร็ว และจะไม่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคปอดบวม ติดตามมา



[ที่มา..นิตยสาร fitness ปีที่ 10 ฉบับที่ 106-107]

[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600
1