โดยนายแพทย์ประวิตร พิศาลบุตร
อากาศบ้านเราสมัยนี้ถ้าไม่ร้อนมากก็ร้อนน้อย แต่ถ้าช่วงไหนมีฝนตก หรือท้องฟ้า ขมุกขมัว ดูครึ้มฟ้าครึ้มฝน อาจทำให้หลายคนดีใจ เพราะจะได้เย็นฉ่ำกับสายฝน และอากาศที่เย็นสบาย แถมไม่ต้องมาคอยแต่งตัวมิดชิด เพื่อป้องกันแสงแดด แผดเผาผิวสวยจนไหม้เกรียม
ถึงแม้เมฆจะมาบดปังแสงอาทิตย์ไม่ให้ส่องแสงอันเจิดจ้าลงมากระทบผิวคุณ แต่รังสี อัตราไวโอเลต (UV) สามารถทะลุผ่านเมฆหมอก มาทำลายผิว และยิ่งในปัจจุบัน ชั้นบรรยากาศ ที่ทำหน้าที่ กรองรังสี UV ถูกทำลายมากขึ้น ทำให้รังสี ตกกระทบ มาบนผิวโลก มากขึ้นกว่าเดิม ยังผลทำให้ เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ฝ้า หรือกระได้ง่าย เนื่องคนส่วนใหญ่ คิดว่า เมื่อปลอดแสงแดด ผิวก็ปลอดภัย จึงละเลย ไม่ป้องกันผิวพรรณ เหมือนปกติทุกวัน
การป้องกันที่ดีคือ ไม่อยู่กลางแจ้งในช่วงเวลา 08.00-17.00 น. เป็นเวลานาน ๆ กางร่ม หรือสวมหมวก ทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน และควรใช้ยากันแดด ทาผิว เหมือนปกติทุกวัน อีกทั้งวันที่มีเมฆ หมอก ครึ้ม อากาศจะไม่ร้อนจัด จึงใช้เวลาอยู่กลางแดดได้นาน มีโอกาสได้รับรังสี UV มาก เพราะขาดสัญญาณเตือนภัย คือรังสีความร้อน ที่ถูกสกัด ออกไป ด้วยเมฆหมอก ไม่ว่าวันนั้น หรือเวลานั้น จะมีแสงแดด หรือไม่ก็ตาม ก็สามารถช่วย ไม่ให้วายร้าย อย่างแสงอัตราไวโอเลต มาทำลายผิวสวย ของคุณ ให้หมองคล้ำได้
main |