"คุณครูคะ ทำไมโสเภณีถึงไม่เคยตั้งท้องเลย ?"
คำถามเช่นนี้ ผู้ใหญ่ซึ่งผ่านโลกมานานรู้ดีว่า มันไม่จริง ในโลกนี้มีหญิงขายบริการเยอะแยะที่ตั้งครรภ์ (ทั้งที่ไม่อยากด้วยซ้ำ)
แต่สำหรับเยาวชนที่กำลังเริ่มเป็นหนุ่มเป็นสาว
และไม่เคยได้รับความรู้เรื่องเพศศึกษามาก่อนเลย
นี่คือ "คำถาม" ที่เขาสงสัยและอยากรู้จริงๆ
และนี่ก็คือ ตัวอย่างหนึ่งของคำถามอีกมากมาย
ที่บรรดาคุณครูในโรงเรียนมัธยมศึกษาที่ประเทศตุรกี ถูกเด็กนักเรียนตั้งคำถามในชั่วโมงเรียนวิชาเพศศึกษาแผนใหม่ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้เริ่มนำมาทดลองใช้สอนในโรงเรียนบางแห่ง เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และจะติดตามผลไปจนถึงปี พ.ศ.2546
เจ้าของคำถามดังกล่าวคือ เด็กหญิงบรูคู วัย 13 ปี ซึ่งเพิ่งได้รับคำตอบในชั้นเรียนเป็นครั้งแรก ที่โรงเรียนคูวายี มิลลิเย ในเมืองซิสลี่หนึ่งในโรงเรียน ซึ่งเข้าโครงการสอนเพศศึกษาแผนใหม่
ว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงในช่วงวัยรุ่น ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ
ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการนำหลักสูตรเหล่านี้มาสอนนักเรียนว่า เพราะต้องการให้ความรู้แก่เด็กนักเรียน พ่อแม่ผู้ปกครองและครู
ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกายและจิตใจ เมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่น
"เด็กๆ ของเราได้ถูกกีดกันปกปิดคำถามปัญหาเรื่องเพศศึกษามาตลอด
จนกระทั่งวันนี้ล่ะ ที่เราต้องการให้พวกเขาได้เรียนรู้ถึง ความรู้พื้นฐานที่เขาควรรู้ และเพื่อสร้างบรรยากาศของการเตรียมการป้องกันเพื่อที่เด็กๆ จะได้รู้ว่า
เขาควรทำอย่างไร และจะพึ่งใครได้ เมื่อเขาต้องการความช่วยเหลือ"
นายแพทย์ทันจูยิลมาเซอร์ ผู้รับผิดชอบโคนงการสอนเพศศึกษาแผนใหม่เล่า
ความจริงก่อนหน้าที่จะมีโครงการนี้ ที่ตุรกีก็เคยมี
การทดลองสอนวิชาเพศศึกษาคล้ายๆ กับหลักสูตรนี้มาแล้ว
ในช่วงปี 2536-2540 โดยมีเด็กนักเรียนหญิงเข้าร่วมโครงการ
กว่า 2 ล้านคน และจากข้อมูลที่ได้ครั้งนั้นพบว่า มีเด็กเพียง 2%
หรือร้อยละ 2 คนเท่านั้นที่รู้ว่าควรจะทำยังไง เมื่อมีปัญหาเพศศึกษาเกิดขึ้น แต่ถึงกระนั้นก็มีเด็กหญิงถึง 1 ใน 3 ที่รู้สึกว่า พวกเขาต้องนำเรื่องนี้
ไปขอคำปรึกษาจากคุณครู
ตักบ้า โกเค็ค 1 ในคุณครูผู้หญิงจำนวน 21 คน
ที่เข้าร่วมในหลักสูตรใหม่นี้ ซึ่งจะทดลองใช้สอนไปจนถึงปี
2546 ให้ความเห็นว่า การให้ความรู้ในเรื่องเพศศึกษาแก่นักเรียน
เป็นสิ่งที่จำเป็นและดีมากเนื่องจากสิ่งที่เด็กๆ ได้รับรู้อยู่นั้น
ส่วนมากเป็นข้อมูลที่ผิดๆ และมีสิ่งที่เด็กๆ ยังไม่เข้าใจอีกมากมาย สังเกตได้จากตัวอย่างของคำถามจากเด็กนักเรียนอาทิ
การใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ จะช่วยป้องกันการฉีกขาดของเยื่อพรหมจารีได้มั้ย ?
หรือ ขนาดขององคชาติจะมีผลต่อโอกาสของการตั้งท้องหรือไม่ ?
สำหรับคำถามที่ถูกถามมากที่สุดจากบรรดาเด็กวัยรุ่น
อายุราว 12-15 ปี ก็คือ อะไรคือสาเหตุของการเป็นหมัน ทำให้ไม่มีลูก? ที่เด็กสนใจคำถามนี้กันมากอาจเป็นเพราะ การไม่มีบุตร
ถือเป็นเรื่องน่าละอาย และถูกมองเป็นการ "ต้องคำสาป"
ในสังคมของชาวตุรกี
ครูตักบ้าเล่าว่า หลังจาก 1 ชั่วโมงผ่านไป
คำถามที่เธอได้รับจากลูกศิษย์ส่วนใหญ่ก็คือ
เมื่อไรคุณครูจะเริ่มสอนบทเรียนใหม่ๆ ให้พวกเราอีก ?
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ที่ตุรกีก็ยังไม่มีการบรรจุ
วิชาเพศศึกษาลงในหลักสูตรการสอน จะมีก็เป็นเพียงวิชาที่ระบุไปเลยว่า เป็นวิชาทางด้านวิทยาศาสตร์ว่าด้วยเรื่องการสืบพันธุ์ และหลักสูตรว่าด้วย
เรื่องสุขอนามัยที่สอนเพื่อให้ความรู้แก่เด็กวัยรุ่นชาย-หญิง
อายุระหว่าง 16-18 ปี ที่เป็นโรคติดต่อทางเพศเท่านั้น
สำหรับหลักสูตรเพศศึกษาที่กำลังทดลองใช้สอนอยู่ขณะนี้
ก็ยังจำกัดในเรื่องเนื้อหา และแยกบทเรียนสำหรับเด็กชาย
เด็กหญิงออกจากกัน ขณะที่พ่อแม่ผู้ปกครองจะได้รับแจก
เป็นหนังสือคู่มือไว้อ่าน
ทางด้าน เอ็นเวอร์ บาห์เซคาปิลี่ ครูใหญ่โรงเรียนคูวายี มิลลิเย
มีความเห็นว่า เรื่องกฎข้อห้ามต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องเพศควรจะล้มเลิก
ไปได้แล้วในสังคมปัจจุบันนี้ อีกทั้งการให้ความรู้เรื่องเพศศึกษา
ควรจัดทำอย่างเป็นระบบด้วย แต่ถึงกระนั้นคุณพ่อของลูกชายวัย 18
และ ลูกสาววัย 11 ก็ยังยอบรับว่า แม้แต่ลูกๆ ของคุณครูใหญ่เอง
ก็ยังไม่ได้ร่ำเรียนวิชาเพศศึกษาอย่างเป็นวิชาการ เป็นเรื่องเป็นราว หากแต่ต้องอาศัยเรียนรู้เอาเองเพราะว่า "การพูดคุยถึงเรื่องนี้กันในครอบครัวก็ยังเป็นเรื่องที่กระอักกระอ่วนใจ"
ครูใหญ่คุณพ่อลูก 2 ก็ยังยอมรับ ความจริงในเรื่องนี้
ในประเทศตุรกีนั้นประชากรถึงร้อยละ 99 เป็นชาวมุสลิม ซึ่งการทดลองสอนวิชาเพศศึกษาในโรงเรียนแต่เริ่มต้น
ก็มีผู้เคร่งครัดในศาสนาออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยมากมาย
โดยรู้สึกว่า แทนที่จะสอนความรู้เรื่องเหล่านี้ให้แก่เด็กๆ
สู้ไปสอนเรื่องศาสนาให้มากๆ ดีกว่า แม้แต่หนังสือพิมพ์
ของอิสลามฉบับหนึ่งก็ยังเขียนคัดค้านเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม ถ้าจะมองอีกมุมหนึ่งก็เรียกได้ว่า
นับเป็นโอกาสที่ดีที่วิชาเช่นนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนควรได้มีโอกาสเรียนรู้ เพื่อจะรับมือและป้องกันตัวเองได้ถูก ยังมีโอกาสเริ่มต้นแล้ววันนี้
แม้จะมีเค้าว่าต้องต่อสู้กันอีกยาวนานก็ตาม!!!
|