นพ.บุญธีร์ ศรีพิทักษ์
ผมร่วงศีรษะล้านในที่นี้ หมายถึง ผมร่วงที่เกิดจากกรรมพันธุ์ ซึ่งมีปัจจัยจาก ฮอร์โมนเพศชายเป็นตัวเร่งให้ผมบางลง ตามอายุที่มากขึ้น จากอดีตสมัยก่อนคริสตกาล ก็มีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่ามีการใช้สมุนไพรชนิดต่าง ๆ มาดูแลเส้นผม ในสมัยต่อมาความพยายามที่จะหายาวิเศษที่หวังจะช่วยปลูกเส้นผมไม่ได้ลดน้อยลงเลย แม้แต่น้ำมันงู มูลนก สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพียงแต่เป็น ความหวังทางจิตใจเท่านั้น เรามาดูกันว่าปัจจุบันเมื่อการแพทย์ก้าวหน้ามากขึ้น มีหนทางที่มาแก้ไขปัญหานี้อย่างไรกันบ้าง
เมื่อวิทยาการแพทย์สมัยใหม่เริ่มต้น การคิดค้นวิธีการรักษาต้องมีการวิจัย และทดลองเปรียบเทียบ ผลการรักษา โดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ และต้องมีข้อมูลที่มากพอที่จะสรุปได้ ปัจจุบันการรักษาผมร่วงศีรษะล้านทางการแพทย์ มีอยู่ 2 วิธี คือ การใช้ยา และการทำศัลยกรรมปลูกผมถาวร
ส่วนวิธีอื่น ๆ ที่พยายามอ้างอิงหลักการแพทย์ เช่น การใช้แสงหรือเลเซอร์กระตุ้น หนังศีรษะ การกระตุ้นด้วยไฟฟ้า การนวดหนังศีรษะด้วยเครื่องมือต่าง ๆ การอบด้วยไอน้ำ หรือแม้แต่การใช้แรงโน้มถ่วงของโลก ดูเหมือนว่าเป็นความพยายามทำให้ดูน่าเชื่อถือ มากกว่าจะเป็นการรักษาที่ได้ผล คงไม่ต่างอะไรกับการใช้น้ำมันสมุนไพร ซึ่งผู้ผลิตคิดค้นสูตรขึ้นมาให้น่าเชื่อถือ และดูว่าปลอดภัยปราศจากสารอันตราย แต่ไม่มีใครเลยที่เคยทำวิจัยรายงานผลการรักษาตามหลักการแพทย์ การโฆษณาต่าง ๆ ดูเหมือนจะได้ผลทางการตลาดมากกว่า ดังนั้นเราจึงควรพิจารณาสักนิด ก่อนที่จะทดลองใช้ยาอะไร ถ้าไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์โดยตรง ซึ่งน่าจะให้คำปรึกษาได้ดีกว่าผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ
ส่วนอีกวิธีหนึ่งที่ไม่ใช่ทางการแพทย์ แต่เป็นการปกปิดบริเวณผมบาง หรือศีรษะล้าน คือการใช้ผมปลอมหรือวิกผม ปัจจุบันมีเทคนิคในการติดวิกกับหนังศีรษะได้แน่น ที่เรียกว่าการทอผม หรือเรียกให้ดูทันสมัยว่า Hair System ก็คือ การใส่วิกธรรมดานั่นเอง จะต่างจากการใส่วิกในอดีตที่ต้องครอบทั้งศีรษะ ปัจจุบันก็ใช้ครอบเฉพาะส่วนที่ผมบาง การยึดวิกกับหนังศีรษะมีหลายวิธี แบบถอดได้ เช่น ใช้กิ๊บติดกับผม เดิมใช้กาวสองหน้า ติดกับหนังศีรษะ หรือแบบถอดไม่ได้ คือการทอผม ซึ่งจะมัดฐานของวิกให้ติดกับผมเดิม ทำให้ติดได้แน่นหนาไม่ต้องกลัวหลุด สามารถเล่นกีฬาได้ แต่มีข้อเสียมากกว่าวิกที่ถอดได้ คือ ทำความสะอาดได้ยาก หนังศีรษะเกิดรังแค และติดเชื้อได้บ่อย ผมเดิมที่ถูกมัด จะรู้สึกตึงเจ็บ และอาจร่วงได้ง่าย และเมื่อผมยาวขึ้น วิกก็จะหลวมต้องไปกระชับ หรือทอผมใหม่ทุก 1-2 เดือน อายุการใช้งานของวิกผมแต่ละอัน จะขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาใช้ และการดูแลรักษา โดยทั่วไป จะใช้ได้ประมาณ 1-2 ปี ส่วนราคาก็ขึ้นกับคุณภาพของวิกแต่ละอัน ถ้าวิกมีคุณภาพดี ราคาหลายหมื่นบาทเลยทีเดียว
การรักษาผมร่วงทางการแพทย์
วิธีทางการแพทย์ที่ใช้รักษาผมร่วงแบ่งเป็น 2 วิธีใหญ่ ๆ คือ การใช้ยา และการทำศัลยกรรม ยาที่มีหลักฐานทางการแพทย์ในปัจจุบันได้แก่
1. ยากระตุ้นการเจริญของผม เช่น ยาขยายหลอดเลือด, กรดวิตามินเอ, ยาในกลุ่มนี้จะช่วยลดการหลุดร่วง กระตุ้นการสร้างเส้นผม ทำให้รากผมแข็งแรง เส้นผมมีขนาดใหญ่ขึ้น อายุของเส้นผมยาวขึ้น อย่างไรก็ตามพบว่ายาชนิดนี้จะได้ผลดีในกรณีที่ผมเริ่มบางมากกว่าผู้ที่ผมบางมากแล้ว
2. ยาต้านฮฮร์โมน เนื่องจากฮอร์โมนเพศชายเ ป็นปัจจัยสำคัญ ในการหลุดร่วงของเส้นผม ที่เกิดจากกรรมพันธุ์ และทำให้เส้นผมขึ้นใหม่มีขนาดเล็กลง ดังนั้นยาต้านฮอร์โมน จึงดูเหมือนว่า น่าจะเป็นยาที่ไปแก้ไขได้ตรงจุด อย่างไรก็ตาม ยาต้านฮอร์โมน ก็ไม่สามารถต้านฮอร์โมนได้ทั้งหมด และในผู้ชายฮอร์โมนเพศ ก็มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนั้นยาชนิดนี้ จึงยังมีข้อจำกัดอยู่มาก จึงมักใช้ในเพศหญิง ที่มีฮอร์โมนเพศชาย มากกว่าปกติ ซึ่งจะมีอาการผมร่วง สิวขึ้นมาก และมีขนตามร่างกายยาวกว่าปกติ พบว่าได้ผลค่อนข้างดี ส่วนเพศชาย ยาในกลุ่มนี้ ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นทดลอง และยังต้องทำการวิจัยศึกษามากขึ้น เพื่อสรุปผลอีกครั้ง จะเห็นได้ว่าทางการแพทย์ ก่อนที่จะนำยาอะไรมาใช้ ต้องทำการศึกษาวิจัยหลายขั้นตอน และต้องใช้ระยะเวลาหลายปี จึงสรุปผลได้ ก็เพื่อให้ได้ยาที่มีประสิทธิภาพสูง และมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด
การใช้ยารักษาผมร่วงที่เกิดจากกรรมพันธุ์นั้นใช้เวลาในการรักษาหลายเดือน จึงจะเห็นผล แต่เนื่องจากสาเหตุของโรค ไม่สามารถรักษาให้หายขาด การใช้ยา จึงจำเป็นต้องใช้ยาต่อเนื่อง เมื่อหยุดยาสักระยะหนึ่ง ผมจะกลับมาร่วงได้อีก เพราะเป็นไปตามเวลาและอายุ การใช้ยาจึงเป็นการชะลอการหลุดร่วง และกระตุ้นให้มีผมขึ้นใหม่บ้างเท่านั้น ไม่ได้รักษาผมร่วงให้หายขาดได้
ส่วนการทำศัลยกรรมแก้ไขศรีษะล้าน แบ่งเป็น 3 วิธีใหญ่ ๆ คือ
1. การตัดหนังศีรษะบริเวณที่ศีรษะล้านออกแล้วเย็บปิด เทคนิคการผ่าตัด มีหลายวิธี มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป แต่เดิมผ่าตัดบริเวณที่ศีรษะล้านออกเป็นแนวยาวตามศีรษะ วิธีนี้จะตัดหนังศีรษะออกได้มาก และทำได้ง่ายกว่าวิธีอื่น วิธีนี้ช่วยให้บริเวณที่ศีรษะล้าน แคบลง แต่มีข้อเสียคือ แนวที่ศีรษะล้านจะยาวออกทางด้านหลัง จึงมีผู้คิดวิธีการตัดหนังศีรษะเป็นรูปแบบต่าง ๆ เช่น รูปพระจันทร์เสี้ยว, รูป Mercidez, รูปตัว Y เป็นต้น สมัยก่อนใช้วิธีการผ่าตัดแบบนี้แก้ไขศีรษะล้านกันมาก แต่ปัจจุบันนิยมใช้น้อยลง เพราะว่าหนังศีรษะบริเวณใกล้กับแผลที่เย็บไว้ มักจะยืดออกหลังผ่าตัด ทำให้บริเวณที่ศีรษะล้าน กลับมากว้างอีกได้ และจะมีแผลเป็นที่เห็นชัด เมื่อตัดหนังศีรษะที่ล้านออกแล้ว ก็ยังต้องทำศัลยกรรมปลูกผมต่อ เพื่อปกปิดส่วนที่ผมบาง และปกปิดแผลเป็นจากการผ่าตัด และเป็นการผ่าตัดที่ยุ่งยาก ต้องพักหลังผ่าตัดนาน มีโอกาสเกิดผลข้างเคียง หรือข้อแทรกซ้อนได้บ่อย ปัจจุบันจึงใช้วิธีผ่าตัดแบบนี้น้อยลง แต่ยังมีประโยชน์ ในกรณีที่เลือกผู้ป่วยที่หมาะสมเป็นราย ๆ ไป
2. การย้ายหนังศีรษะบริเวณที่มีผมมาปิดบริเวณที่ศีรษะล้าน
วิธีนี้จะย้ายหนังศีรษะมาเป็นแผ่นจากด้านข้างมาปิดบริเวณที่ศีรษะล้านทางด้านหน้า และกลางศีรษะ ข้อดีของวิธีนี้ก็คือ จะได้เส้นผมที่มีความหนาแน่นมาก และเห็นผลการรักษาเร็ว แต่มีข้อเสีย คือ การผ่าตัดค่อนข้างยุ่งยาก มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้มาก และทิศทางของเส้นผมจะไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ คือจะชี้ตรงไปทางด้านหลัง นอกจากนี้แนวผมด้านหน้าที่ตรงเป็นแนว ไม่มีลูกผม อีกทั้งยังสังเกตเห็นแผลเป็นได้ง่าย วิธีนี้จึงไม่เป็นที่นิยมมากนัก ต้องเลือกใช้ในผู้ป่วยบางรายที่เหมาะสมเท่านั้น
3. การปลูกผมถาวร
เป็นการย้ายรากผมจากบริเวรด้านข้างของศีรษะ มาปลูกบริเวณที่ผมบาง โดยแบ่งปลูกเป็น กอ ๆ หลักการก็คือ รากผมบริเวณด้านข้าง และด้านหลังของศีรษะ จะเป็นรากผมที่แข็งแรง แม้ว่าอายุมากขึ้น ผมบางมากขึ้น รากผมบริเวณนี้จะคงอยู่ เมื่อเราย้ายรากผม จากบริเวณนี้ไปปลูกที่อื่น เช่น ในบริเวณที่ผมบาง หรือแม้แต่ผิวหนังบริเวณอื่น รากผมนี้จะสร้างเส้นผมขึ้นมา และคงอยู่อย่างถาวร
ในสมัยก่อนการปลูกผมใช้กอค่อนข้างใหญ่ แต่ละกอมีเส้นผม 16-20 เส้น ซึ่งเวลาผมขึ้นใหม่ ๆ จะเป็นกอ ๆ ชัดเจน ดูไม่สวยงามและไม่เป็นธรรมชาติ
ปัจจุบันนิยมใช้เทคนิคการปลูกผมเป็นกอเล็ก ๆ และละเอียดเรียกว่า ไมโครกราฟท์ (Micrograft) แต่ละกอจะมีเส้นผมเพียง 1-3 เส้น
ข้อดีของการใช้เทคนิคไมโครกราฟท์ |
|
อย่างไรก็ตามวิธีนี้ต้องการความชำนาญของแพทย์สูง ใช้เทคนิคในการผ่าตัดมากกว่าและใช้เวลานานกว่า เพราะใช้ความละเอียดอ่อนและความปราณีตมาก
หลังการปลูกผม เส้นผมที่ปลูกส่วนหนึ่งอาจหลุดร่วงไปก่อน และกลับขึ้นได้ใหม่ ในระยะเวลาประมาณ 3 เดือน และยาวต่อเนื่องไปเหมือนกับผมปกติ
การปลูกผมถาวรอาจต้องทำหลายครั้ง เพื่อให้ผมดูหนาแน่น หลังการปลูกผมครั้งแรกเส้นผมจะดูหนาแน่นระดับหนึ่ง ถ้าต้องการให้ดูดกดำมากขึ้นก็สามารถปลูกผมครั้งต่อไปได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคน
การทำศัลยกรรมปลูกผมใช้วิธีทางการแพทย์ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งต้องใช่วิธีทางศิลปะ โดยคำนึงรูปหน้าแนวผมที่ดูเป็นธรรมชาติให้เหมาะสมในแต่ละบุคคล รวมทั้งการวางแผนที่ดี หากจำเป็นต้องปลูกผมในครั้งต่อไป ดูไปคล้าย ๆ กับทำงานศิลปะ นอกจากมีความชำนาญแล้วต้องมีความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบเพื่อให้ดูสวยงาม จะเรียกว่าเป็นงานศิลปะทางแพทย์ก็คงจะได้
ทั้งหมดเป็นนี้วิธีการทางการแพทย์ที่ใช้รักษา หรือแก้ไขปัญหาผมบางศีรษะล้าน ที่เกิดจากกรรมพันธุ์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ท่านที่มีปัญหาเรื่องนี้ก็ลองตัดสินใจดูถ้าทำใจได้ถือเป็นเรื่องธรรมชาติ ก็ไม่ต้องทำอะไร ให้ลำบากลำบน แต่ถ้าต้องการรักษาและไม่แน่ใจว่าควรใช้วิธีการใด ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญ เพราะแต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน และมีความเหมาะสม กับแต่ละคนไม่เหมือนกัน หากต้องการทดลองใช้ยาตามคำโฆษณา ควรใช้วิจารณญาณสักนิดว่าเป็นยาอะไร มีหลักฐานที่เชื่อถือได้มากน้อยเพียงใด เพราะอาจต้องเสียเงินและเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ จะมานั่งเสียใจภายหลัง นะจะบอกให้
นพ.บุญธีร์ ศรีพิทักษ์
main |