นพ.ธาดา เปี่ยมพงศ์สานต์
การใช้แชมพู หรือยาสระผม หมายถึง การทำความสะอาดของเส้นผม และหนังศีรษะ เป็นสิ่งสำคัญในการชำระล้าง ดังนั้น เราจำเป็นต้องมีแชมพูดี ๆ นอกจากไว้ใช้เพื่อจุดประสงค์ ทำความสะอาดแล้ว เส้นผมต้องสวยด้วย ต้องมีลักษณะนุ่มนิ่มเมื่อสัมผัส สยาย ปลิว หรือแยกแต่ละเส้นง่าย แต่ไม่ใช่กระเซิง หวีง่าย จัดง่าย สมบูรณ์ เด้งสวย ผู้ผลิตได้จัดสูตรให้ ตามความประสงค์ของผู้ที่ใช้ เช่น ผมแห้ง ผมมัน ผมลีบ ผมฟอกสี ผมดัด ผมย้อม ผมสั้น ผมยาว ผมกรอบ ผมคนเอเชีย ฝรั่ง หรือนิโกร การมีรังแค น้ำมัน นอกจากนี้ยังผลิตตามฤดูกาล อายุ การใช้งานตามวิถีชีวิต นิสัย ว่าต้องใช้ครีมนวด หรือไม่ ผลิตตามทรงผมที่ใช้ ตามความต้องการของผู้ใช้ และตามสภาวะของเส้นผมว่า คนชอบใช้แบบไหน เช่นชอบน้ำหอม ฟองแยะ ล้างง่าย หวีง่าย การแห้งเร็ว บางคนก็ชอบเปลี่ยนแชมพูไปเรื่อย ๆ เพื่อทดลองว่าอะไรดี
ผมคนเรามี 100,000 - 150,000 เส้น แต่ละเส้นของผู้หญิง มีเนื้อที่ 4-8 ตารางเมตร ที่ต้องทำความสะอาด การสระไม่เท่าใด แต่การล้าง ต้องใช้น้ำมหาศาลเพื่อจะล้างออก สิ่งที่ต้องขจัดออกคือ โปรตีน ซึ่งเปื้อนฝุ่นที่ทำให้เส้นผมเหนียว ไขมันที่ผลิตออกจากรูขุมขน ที่ทำให้เส้นผมมันเป็นเงา แต่มีข้อเสีย คือ ปนฝุ่น ควัน สารต่าง ๆ ที่ผลิตออกมา จากรูขุมขน เหงื่อไคล เครื่องสำอาง เช่น สเปรย์ใส่ผม ครีมบำรุงเส้นผมต่าง ๆ รวมทั้งเชื้อโรค ที่เกิดจาก การหมักหมมของสิ่งสกปรก แต่ละคนมีส่วนผสม ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับนิสัย ชีวิตการเป็นอยู่ การกินอาหาร สิ่งแวดล้อม ฯลฯ สภาพหนังศีรษะ และเส้นผม
จุดประสงค์ของการสระผม คือ การเอาสิ่งสกปรกออกจากเส้นผม สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของการเกิดฟอง ว่ามีคุณภาพอย่างไร
สารเกิดฟองมี 5 ชนิด
ส่วนผสมอื่น ๆ
ฟอง
เป็นคุณสมบัติที่ผู้ใช้นิยมใช้ ยิ่งฟองมาก ยิ่งชอบ เพราะดีกว่า ถ้าฟองมากแสดงว่าชำระล้างสะอาดดี
ความเข้มข้นของยาสระผม
มักผสมเซลลูโลส ทรากะคั้นและเจล ให้ดูว่าเนื้อยาสระผมนั้นเหนียวข้นขึ้น บางชนิดใส่เกลือลงไป กลายเป็นเจลเทียม
บางชนิดเคลือบมุก
ทำให้เนื้อยาสระผม ซึ่งมักเป็นของเหลวคลายเป็นครีมมุกทำให้เส้นผมนิ่ม
การใช้สารดูดซับ
พวกโลหะซึ่งมักตกตะกอนบนเส้นผม อันเป็นสาเหตุทำให้ผมไม่เป็นเงา
นอกจากนี้ ใช้สารกันบูดกันเชื้อโรค ใส่และน้ำหอม เพื่อดึงดูลูกค้า ถ้ามีรังแคใส่สารขจัดรังแคเพิ่ม เช่น สังกะสี ไพรีไทโอน ไพรอกโตนโอลามีน กำมะถัน น้ำมันดิบ และน้ำมันต่าง ๆ
ชนิดของยาสระผม
อาจเป็นน้ำใส น้ำขุ่น เป็นครีม เจล มูส หรือผง (แชมพูแห้ว) แต่ที่ขายมักจะเป็นชนิดน้ำ เพราะไว้ใส่ผมเปียก ละลายทั่วบนศีรษะ
มูส เป็นชนิดสเปรย์ ให้ความรู้สึกนุ่มเมื่อใช้
แชมพูแห้ง
ไม่เหมือนแบบอื่น เพราะไม่มีสารเกิดฟอง ไม่ต้องการใช้น้ำ ใช้เวลาสั้น เพราะไม่ต้องล้างออก ไม่ต้องเป่าแห้ง อาจอยู่ในรูปของสเปรย์ มีแป้งข้าวเจ้าหรือข้าวโพด เพื่อขจัดไขมัน และใช้วิธีแปรงออก วิธีนี้เป็นเพียงสระผมโดยผิวเผินเท่านั้น ทำเป็นบางครั้งบางคราวก่อนที่จะสระจริง
แชมพูที่ใช้ประจำวัน
ราคาถูก เกิดฟองมาก และทำความสะอาดเส้นผม ทำให้หวีง่ายและเป็นมัน มักเป็นสารประจุลบ อาจผสมสมุนไพร น้ำหอม และใช้ได้ทุกสภาพเส้นผม
แชมพูอ่อนละมุน
ด้วยนิสัยการใช้ชีวิตประจำวัน การเล่นกีฬา การเปลี่ยนทรงผม ทำให้ต้องสระบ่อย หรือเป็นเพราะสกปรกจากสิ่งแวดล้อม ผมมัน เหงื่อออก จากการเล่นกีฬา หรือเคลือบสี ไม่ควรล้างออกมาก เป็นส่วนผสมของสารประจุลบ ร่วมกับประจุบวกลบ มักใส่สารบำรุงเส้นผมพอเหมาะ เพื่อที่ทำให้เส้นผมสวยและหวีง่าย หลีกเลี่ยงใช้สารที่สะสมบนเส้นผม ทำให้เส้นผมหนัก แชมพูเด็ก เป็นตัวอย่างอันหนึ่ง ซึ่งมีส่วนผสมของสารไม่มีประจุ ลดการระคายผิวและลดการแสบตา
แชมพูเพื่อความงาม
สูตรผสมออกมาเพื่อคุณสมบัติอย่างดีเลิศ ล้างอ่อนนุ่มละมุนละไม ทำให้เส้นผมเบาและมีประกาย เป็นสารผสมของสารประจุบวกลบ และไม่มีประจุ และเสริมด้วยสารบำรุงเส้นผม
แชมพูเพื่อปรับสภาพเส้นผม
ให้ฟองดี ชำระล้างสะอาด แก้ความผิดปกติของสภาพเส้นผม ถ้าผมแห้งให้ความนุ่มนิ่ม หวีง่าย และดำเป็นมัน ถ้าผมมัน ลดน้ำหนักของเส้นผม โดยการลดไขมัน เพิ่มความเป็นประกายของเส้นผม ถ้าผมบาง ทำให้เส้นผมดูหนา และอยู่ตัว ถ้าผมเสียจะแก้กลับ ให้ผมเรียบดูดีเหมือนเดิม มักใช้สารเกิดฟองประจุลบ และประจุบวกลบ ผสมกับซิลิโคน
มีการผลิต แชมพูสูตร 2 ใน 1
ออกมาเพื่อสระผมและปรับสภาพเส้นผมพร้อมกัน ใคร ๆ ก็ชอบ เพราะว่าเสียเวลาน้อย ประหยัด ใช้ครั้งเดียวเสร็จเลย ผสมวิตามินด้วย แต่ไม่สามารถให้ประสิทธิภาพ หรือใช้ได้ตามความต้องการ ของคนทุกคน บางคนใช้แล้วผมร่วง มีการผลิตแชมพูชนิดใหม่ เบากว่า โดยใส่สาร ซิลิโคนน้อยหน่อย เพราะบางคนว่าแบบเก่า เส้นผมมันไปหรือในอนาคตอาจมี สูตร 3 ใน 1
แชมพูชนิดพิเศษ
เช่น สำหรับเส้นผมที่ย้อมหรือดัด เพราะไม่ควรมีผลต่อการย้อม การดัดเพื่อทำให้เส้นผมเป็นเงา หรือยังเป็นลอน ให้ความนุ่มนวล หวีง่ายไม่รุงรัง ใช้ส่วนผสมของสารประจุบวก และสารประจุบวกลบ และประจุลบร่วมกัน
แชมพูขจัดรังแค
มักใส่สารไพรอกโตน โอลามีน หรือสังกะสี ไพริไทโอน เซลาเนียมซัลไฟต์ น้ำมันดิบ สำหรับเส้นผมมัน เพราะมีเชื้อยีสต์ปนอยู่ ใช้สารเกิดฟองประจุลบ การนวดหน้า ศีรษะ ควรนวดเบา ๆ ระวังหนังศีรษะถลอก ส่วนยานวดศีรษะเพื่อขจัดไขมัน แพทย์กำลังศึกษาอยู่ ว่าได้ผลแค่ไหน
สูตรสมัยใหม่
เพื่อความรู้สึกอย่างเป็นธรรมชาติ และเบาต่อการไว้ทรงผม ใคร ๆ ก็อยากได้ยาสระผม ที่ให้ฟองนุ่มมือมาก สระเสร็จแล้วให้เส้นผมอยู่ตัวเบา ไม่พันกัน หรือหวีแบบไหนก็ได้ ผิวเส้นผมเรียบ ดูมีน้ำหนักแต่เบา สูตรนี้ผสมสารที่เรียกว่า เอซิลกลูตาเมต หรือกูลตามิน และซิลิโคน สารที่ใส่เพื่อบำรุงเส้นผมนั้น ยังคงอยู่ในฟองขณะสระ และเมื่อล้างออก สารบำรุงเส้นผม จึงเข้าไปเคลือบเส้นผม สารตัวใหม่ ๆ เช่น สฟิงโกไลปิด และเซรามายด์ เมื่อผสมเข้าไป เป็นยาสระผมสมัยใหม่ล่าสุด เพื่อความแข็งแรงของเส้นผมที่โดนถูกทำลาย
การผสมแชมพู
ใส่สารต่าง ๆ อยู่ในเนื้อเดียวกัน ใส่ความเข้มข้นเท่าใดจึงจะพอดี ไม่ให้เส้นผมแห้งเกินไป หรือถ้าใช้กับผมแห้งก็เพิ่มเงาในตัว นอกจากนี้ให้ผมสวย แล้วต้องทำความสะอาดดีด้วย แล้วเติมสารบำรุงสารเส้นผมเรียบร้อยในตัว บางทีใส่สารดูแลเส้นผมเพิ่ม เพิ่มความนุ่มนวลของเส้นผม ตัวควบคุมความเป็นกรดเป็นด่าง ยากันบูด น้ำหอม สี ฯลฯ การใส่สารบำรุงเส้นผม เพื่อให้ผมนุ่มเป็นมัน ลดการกระเซิงและหวีง่าย โดยเฉพาะผมแห้ง และผมที่ถูกทำลาย อาจใส่สาร เช่น ลาโนลิน น้ำมันพืช ขี้ผึ้งต่าง ๆ ไขมัน แอลกอฮอล์ เลซิติน กรดไขมัน โปรตีน เช่น คอลลาเจน เคราติน สารสกัดจากข้าว และถั่วเหลือง ซิลิโคน วิตามิน สารกันแดด แพนทีนอล ที่สำคัญคือ สารประจุบวก และซิลิโคน ซึ่งเป็นการบุกเบิกก้าวใหม่ ของสารดูแลเส้นผม อย่างที่กล่าวแล้วว่า สารโพลีเมอร์ประจุบวก ทำให้ผมนิ่มและเรียบ ลดการเสียดสีเมื่อหวีผม และลดประจุไฟฟ้าสถิตย์ ใช้ร่วมกับแชมพูประจุลบไม่ได้ สารโพลีเมอร์ประจุบวกแตกต่างจากสารเกิดฟองประจุบวก สามารถซึมเข้าไปในเส้นผม เคลือบผิวเส้นผมให้เรียบ เมื่อสระล้างแล้ว ทำให้เส้นผมสวยและหวีง่าย และยังป้องกัน อันตรายจากสิ่งภายนอก สารพวกนี้ได้แก่ กลุ่มแซลลูโลส แป้ง ไซติน ซิลิโคน ฯลฯ พวกโพลีเมอร์ อาจมีทั้งประจุลบ ไม่มีประจุ หรือมีทั้งประจุบวกลบ โปรตีนจากข้าวโอ๊ต ช่วยให้ผมเสีย กลับสู่สภาพเดิม
ลองผสมสูตรยาสระผม สมัยใหม่ ปี ค.ศ. 2000 ดังนี้
1. สารเกิดฟองประจุลบ เช่น กลุ่มแอมโมเนีย หรือโซเดียมซัลเฟต 20%
2. มักนีเซียม และโซเดียมโอเลต ซัลเฟต และอื่น ๆ (สูตรหัวเชื้อที่ดีที่สุดของเยอรมัน) 15%
3. เอซิลกลูตาเมต (สูตรหัวเชื้อที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น) 10%
4. สารเพิ่มฟอง และสารทำให้ฟองคงทน 5%
5. โปลีซิโลเซน ซิลิโคน ไมโคร อีมัลชั่น ทำให้ผมเป็นเงา หวีง่าย แก้ผมเสีย 5%
6. ฟอสโฟไลปิด หรือโปรตีนจากข้าวโอ๊ต 1-5%
7. เซราไมด์ แก้ผมเสีย 0.1%
8. กรดผลไม้ต่าง ๆ หรืออาจใช้สารสกัดจากโคลนหินกันรังแค 5-0.5%
9. สมุนไพร เช่น ชาเขียว น้ำมันต้นชา ชาแม่สะลอง เคโมมิล (ดอกไม้อะไรก็ได้เอาไว้โฆษณา ว่าแชมพูของบริษัทเรา เป็นสมุนไพรใส่เพียงแค่นี้ 1%) 1%
10. เกลือในครัว 1%
11. โปรตีน และโปไพลิน ไกลคอล 5%
12. สารกันบูด สารฆ่าเชื้อ 0.1-0.3%
13. น้ำหอม เป็นเม็ดสี ใส่แล้วเป็นเม็ดลอยแขวนสวยงาม 1%
14. ปรับให้เป็นกรด ด้วยกรดมะนาว 0.1%
15. น้ำกลั่น เติมให้ครบ 100 %
ในการผลิตยาสระผมแบบใหม่ ต้องทดสอบกันมากมายดูการเกิดฟอง หวีง่าย การสยายของเส้นผม มีสปริงดี อยู่ตัว ฯลฯ ลองสระเปรียบเทียบสูตรใหม่ กับสูตรมาตรฐานในคนคนเดียวกัน ลองสระเปรียบเทียบคนละข้างของศรีษะก็ได้ หลังจากสระแล้วดูการเป่าแห้ง ลักษณะเส้นผม หลังจากนั้นเปรียบเทียบอีก 3-4 วัน ก่อนสระครั้งต่อไป และลองซ้ำหลาย ๆ ครั้ง จนกว่าจะแน่ใจว่า สูตรใหม่ดีกว่าหรือเปล่า จากนั้นลองใช้ในร้านเสริมสวยกับคนทั่ว ๆ ไป หลังจากทดสอบว่าดีแล้ว มาดูเรื่องการตลาด อาจตกม้าตาย เมื่อทราบราคาต้นทุนว่าแพงเกินไป ที่จะเอาไปขายในท้องตลาด เพราะใช้วัสดุดีเกินไป คิดแล้วเหนื่อย ถ้าตั้งใจจะทำขาย อย่างเก่งก็ทำยาสระผมไว้ใช้เอง
ปัญหามีว่า แชมพู แก้ผมร่วงได้ จริงหรือมั่วนิ่ม คำตอบคือ มั่วนิ่ม ไม่เคยมีเลยนับตั้งแต่โลกมียาสระผม ถ้าใครเคยซื้อมาใช้แล้วจะรู้สึกว่าโดนหลอก จนกระทั่ง 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้เอง ที่มีรายงาน ทางการแพทย์ผิวหนังต่างประเทศ รายงานว่า ยาสระผมที่มีส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อราชนิดหนึ่ง ทำให้เส้นผมขึ้นพอ ๆ กับยาไมนอกซิดิล ผู้ที่มีศีรษะล้านคงหูผึ่งไปตาม ๆ กัน แต่จะจริงแค่ไหน ต้องมีการทดลองซ้ำอีกครั้งหนึ่ง หรือคุณจะทดลองเองก็ได้ถ้าใจร้อนเพราะกลัวศีรษะล้าน
นพ.ธาดา เปี่ยมพงศ์สานต์
main |