จากกรุงเทพธุรกิจฉบับ วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2541
แพทย์แฉกลางเวทีสภาผู้บริโภค ผัก ข้าวสาร อาหารสำเร็จรูป ที่วางขายเกลื่อน ส่วนใหญ่ ปนเปื้อนสารเคมี โดยเฉพาะ บะหมี่สำเร็จรูป หากผู้ผลิตมักง่าย ใช้น้ำมันซ้ำหลายครั้ง ผู้บริโภคมีสิทธิเป็นมะเร็ง ส่วนที่เชียงใหม่ กะหล่ำปลี คะน้า องุ่น สารเคมีเพียบ
ดร.ทิพยรัตน์ มณีเลิศ อาจารย์ประจำภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวในงาน เวทีสภาผู้บริโภค ซึ่งจัดโดยเครือข่ายผู้บริโภค 26 องค์กรทั่วประเทศว่า ปัจจุบันมีสารเคมีที่ตกค้างในอาหารจำนวนมาก ไม่ว่า จะตกค้างในผัก ข้าวสาร และอาหารสำเร็จรูป เช่น บะหมี่สำเร็จรูปที่วางขายทั่วไป โดยการรับประทานบะหมี่สำเร็จรูปมากๆ อาจจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง ทั้งนี้เพราะหากบะหมี่สำเร็จรูปดังกล่าว ใส่สี-สารที่ทำให้กรอบ และผงชูรส มีในปริมาณมาก รวมทั้งน้ำมันที่ใช้ทอดหลายครั้ง ก็จะทำให้เกิดสารก่อมะเร็งได้
"บะหมี่สำเร็จรูป อาจจะมีอันตรายทำให้เกิดเป็นมะเร็งได้ หากใช้น้ำมันทอดบะหมี่ หลายๆ ครั้ง โดยไม่มีการเปลี่ยนมากกว่า 2 ครั้ง จะเกิดคาร์บอนด์จำนวนมาก ซึ่งคาร์บอนด์ดังกล่าว เป็นสารที่ก่อมะเร็ง" นอกจากนี้ จากการวิจัยยังพบว่า บะหมี่สำเร็จรูป โดยทั่วไป มีสารที่ให้คุณค่าทางอาหารน้อยมาก ถ้าเป็นไปได้ ผู้บริโภค ไม่ควรจะบริโภคมากจนเกินไป
ดร.ทิพยรัตน์ ยังกล่าวถึงสารเคมีที่ตกค้างในผลิตภัณฑ์การเกษตรที่ได้ทำวิจัย สำรวจพืชผัก ในจ.เชียงใหม่ด้วยว่า มีสารและยาฆ่าแมลงตกค้างอยู่กว่า 21% แม้กระทั่งผักอนามัย ที่กางมุ้งและนำมาขายในห้างสรรพสินค้า ยังพบสารตกค้าง และผักที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงเวลาที่ไม่ใช่ฤดูกาลคือกะหล่ำปลีและคะน้า เพราะพบสารเคมีตกค้างเป็นจำนวนมาก ส่วนผลไม้ที่พบสารตกค้างมากที่สุดคือองุ่น โดยมีมากถึง 66.6% ส่วนรองลงมาคือ ฝรั่ง แคนตาลูป ถั่วงอก จากการเจาะเลือดผู้บริโภคในจ.เชียงใหม่ ก็พบสารเคมีตกค้างในเลือดที่สันนิษฐานว่า น่าจะมาจากการบริโภคผักที่มีสารตกค้างพบว่า จาก 30 คนพบกว่า 50% ซึ่งปัญหาเรื่องสารเคมีตกค้างในอาหาร เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก
นางสาวสาลี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า จากบทเรียนที่ผ่านมา พบว่าผู้บริโภคประสบปัญหาในเรื่องความสลับซับซ้อนของกลยุทธ์การส่งเสริมการขาย และการเอาเปรียบจำนวนมาก โดยปัญหาที่พบว่ามีผู้ร้องเรียนเข้ามามากที่สุด จากปี 2539-2540 คือปัญหาอสังหาริมทรัพย์ รองลงมาคือเรื่องคุณภาพงานบริการ และยังมีปัญหาเรื่องสาธารณูปโภค "ที่ผ่านมา กลไกในการคุ้มครองผู้บริโภค ยังมีไม่มากนัก โดยพบว่า ผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบ ซึ่งหากมีการฟ้องร้อง ผู้บริโภคต้องเตรียมเงิน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการฟ้องร้อง ถึง 5 ล้านบาท ดังนั้นจึงมักไม่มีการร้องเรียนถึงขั้นฟ้องร้อง"
ปัญหาดังกล่าว นางสาวสาลี เห็นว่า ควรจะมีองค์กรอิสระ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ตามมาตรา 57 ของรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นแหล่งรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ให้แก่ผู้บริโภคทางด้าน น.พ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองเลขาคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า อย. มีกลไกในการร้องทุกข์ของผู้บริโภคอยู่ ซึ่งที่ผ่านมา ก็มีจำนวนมาก ที่โทรเข้ามาร้องเรียน ส่วนกรณีเรื่องบะหมี่สำเร็จรูป ที่อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งนั้น คงไม่มี เพราะอย.ได้ตรวจสอบแล้ว ถ้ามี คงจะไม่สามารถให้ขาย และโฆษณาได้ตามปกติ "อาหารที่อย.เป็นห่วงขณะนี้ คืออาหารประเภทแหนม และเนื้อแดดเดียว เพราะกระบวนการทำ มีการนำดินประสิว ไปผสมด้วย ซึ่งเป็นอันตราย" น.พ.ศิริวัฒน์ กล่าว
ดร.นรินทร์ชัย พัฒนพงษ์ศา อาจารย์ประจำภาควิชาส่งเสริมการเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มผู้บริโภคในจังหวัด กำลังประสบปัญหาน้ำดื่ม ไม่มีคุณภาพ เพราะพบ 200 บริษัท ผลิตน้ำดื่มโดยไม่มีมาตรฐาน นอกจากนี้ ยังมีฟลูออไรด์มากเกินไป จนทำให้ฟันเหลือง จึงขอเรียกร้อง ให้ลดฟลูออไรด์ลง และก็คุมเข้มในเรื่องคุณภาพด้วย
main |