มาที่นี่ที่เดียว ได้อ่านบทความทางด้านการแพทย์ ภาษาไทย จากเกือบทุกโฮมเพจที่มีใน INTERNET
http://geocities.datacellar.net/Tokyo/Harbor/2093/

เตือนระวังติดโรคจากการสักตามแฟชั่น

สำนักข่าวไทย 18 ต.ค 41


แพทย์เตือนการสัก การเจาะตามร่างกายตามแฟชั่นนั้น อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เช่นเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ฝีเป็นหนอง ไวรัสตับอักเสบ วัณโรคผิวหนัง แม้กระทั่งโรคเอดส์ ย้ำการสักเป็นเพียงสมัยนิยม หากเบื่อการลบรอยสักทำได้ยากและสิ้นเปลืองค่าใช้ จ่าย แนะใช้รูปลอกแทนการสักและใช้ต่างหูวงแหวนชนิดหนีบ ต่างหูแม่เหล็กแทนการเจาะ

น.พ.ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์อเมริกันบอร์ดโรคผิวหนัง อาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวเตือนว่า ขณะนี้วัยรุ่นนิยมแฟชั่นสักและเจาะตามร่างกาย กันมาก ซึ่งอาจมีอันตรายต่อชีวิตได้ เคยมีรายงานวัยรุ่นไปเจาะจมูก และเชื้อแบคทีเรียจาก ช่องจมูก ซึ่งเป็นบริเวณที่สกปรกมาก ได้ลอยไปติดที่ลิ้นหัวใจ ทำให้ลิ้นหัวใจอักเสบ และต่อมาก้อนเลือด และเชื้อโรคได้ไปอุดตันเส้นเลือดในสมอง ทำให้เกิดฝีในสมอง และมีอาการแขนขาอ่อนแรง

สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคโลหิต- ออกไม่หยุด หรือที่เรียกว่า ฮีโมฟีเลีย โรคลิ้นหัวใจพิการ โรคผิวหนังแพ้และพุพองได้ง่าย ผู้ที่มีประวัติ แพ้เครื่องประดับ คือ แพ้โลหะนิกเกิล หรือผู้ที่เกิดแผลเป็นนูนโต ที่เรียกว่า คีลอยด์ ได้ง่าย เหล่านี้ ควรงดเว้น การสักและการเจาะ นอกจากนั้น การสักและการเจาะหากใช้เครื่องมือที่ไม่สะอาด อาจเกิดติดเชื้อโรคได้ เช่น เชื้อแบคทีเรีย ทำให้ฝีเป็นหนอง ไวรัสตับอักเสบ วัณโรคผิวหนัง แม้กระทั่งโรคเอดส์ได้

น.พ.ประวิตร กล่าวว่า การสักไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่มีมานาน นับ ๔,๐๐๐ ปี เดิมการสักเป็นการแสดงความเชื่อ ต่อมาเป็นการสัก เพื่อแสดงสัญลักษณ์ของกลุ่ม แต่ปัจจุบันเป็นการสักตามสมัยนิยม ซึ่งจัดว่าน่าเป็นห่วงมาก เพราะแฟชั่นนั้นเปลี่ยนแปลง ไปได้ตลอดเวลา ตัวอย่างที่เห็นชัดเจน คือเรื่องการสักคิ้วถาวร ที่เมื่อ ๓-๔ ปีก่อน นิยมกันมาก แต่ปัจจุบันเริ่มเบื่อ และต้องหันมาลบคิ้วกันแทน พบเสมอว่าผู้ที่ไปรับการสัก การเจาะ เมื่อยังเป็นวัยรุ่น ต่อมามีอายุมากขึ้น หรือต้องการไปสมัครงาน ก็ต้องหันมาลบรอยสัก หรือเย็บปิดรอยเจาะกัน การลบรอยสักนั้น เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก ต้องเสียเวลา และค่าใช้จ่ายมากกว่าการสักหลายเท่า นอกจากนั้น บางคนแพ้เม็ดสีที่ใช้สัก เช่น สีแดง สีเขียว อาจเกิดผื่นบวมแดง คันเป็นก้อนตะปุ่มตะป่ำ บางคนสักริมฝีปากถาวรด้วยสีแดง แต่เกิดการแพ้เม็ดสี ทำให้ผิวหนังริมฝีปากตะปุ่มตะป่ำเหมือนผิวมะกรูด

น.พ.ประวิตร ได้ให้ข้อคิดแก่วัยรุ่นที่กำลังจะไปสักไปเจาะว่า ขอให้คิดให้ดีเสียก่อน เพราะนอกจาก จะเกิดอันตรายได้ สังคมส่วนใหญ่ก็ยังไม่ยอมรับ วัยรุ่นหญิงบางคน ไปสักที่ข้อมือ ต่อมาเกิดความอาย ต้องใส่นาฬิกาบังไว้ ที่สำคัญคือเมื่อแฟชั่นเปลี่ยนไป ตัวเองก็จะเบื่อ ในกรณีของการสักนั้น อาจใช้รูปลอก ติดแทนก็ได้ ซึ่งอาจอยู่ได้นานถึง ๗ วัน ส่วนในกรณีการเจาะหู อาจใช้ต่างหูวงแหวนชนิดหนีบ หรือ ต่างหูแม่เหล็กแทนก็ได้.


[ BACK TO LIST]
main พบแพทย์ คอมพิวเตอร์ เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องกฏหมาย เรื่องของผู้บริโภค เรื่องเบาๆ คลายเครียด

มีปัญหาสุขภาพ ที่นี่มีคำตอบ ห้องสมุดE-LIB[ hey.to/yimyam ][ i.am/thaidoc ]

Best view with [IE3.02][NETSCAPE 4.05][OPERA 3.21]resolution 800x600
1