หนี้สินของคู่สมรสซ้อน
ต่อมาฝ่ายภริยาได้แจ้งให้ผมทราบว่า เธอจดทะเบียนสมรสซ้อนกับสามี และขณะนี้เธอได้จดทะเบียนหย่า กับสามีแล้วกิจการและทรัพย์สินทุกอย่างเป็นชื่อของสามี ถึงฟ้องเธอก็ไม่มีเงินหรือว่าทรัพย์ใดที่จะบังคับ เอาหนี้สินได้ ฟ้องเธอคนเดียวไม่มีประโยชน์
ผมจึงอยากเรียนถามว่าหากว่าที่เธอบอกดังกล่าวเป็นความจริง การที่ผมไม่มีชื่อสามีเธอเป็นคู่สัญญา หรือลูกหนี้นั้นเลย ผมจะมีทางฟ้องสามีเธอด้วยได้หรือไม่
รัฐกรณ์ กรุงเทพ
ตอบ
ถ้าหากการสมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย ถึงแม้จะจดทะเบียนหย่าไปแล้ว หนี้สินที่เกิดขึ้น ระหว่างเป็น สามีภริยาอันเนื่องจากการงานซึ่งสามีภริยาทำร่วมกัน แม้จะมีชื่อสามีหรือภริยาคนใดคนหนึ่ง เป็นลูกหนี้เพียงคนเดียว เจ้าหนี้ก็สามารถฟ้องทั้งสามีและภริยาเป็นจำเลยร่วมกันได้
แต่กรณีของคุณเป็นการสมรสซ้อน ซึ่งเป็นการสมรสที่ผลในทางกฎหมายถือเป็นโมฆะ มาตั้งแต่เริ่มแรก ไม่ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยา หนี้สินที่เกิดขึ้นฝ่ายใดเป็นผู้ก่อ ก็ถือว่า เป็นหนี้ของฝ่ายนั้นไม่ถือว่าเป็นหนี้ร่วมระหว่างสามีภริยา ผู้มีส่วนได้เสียจึงมีสิทธิที่ยกเอาความเป็นโมฆะ ของการสมรสขึ้นมาอ้างเมื่อใดก็ได้ แม้กระทั่งตัวสามีเองก็อาจจะยกเอาความเป็นโมฆะของ การสมรสซ้อนขึ้นต่อสู้เพื่อปฏิเสธหนี้ของภริยาได้ ถ้าหากว่าเจ้าหนี้รู้ว่าฝ่ายสามีมีภริยาคนที่ถูกต้องอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามหากเจ้าหนี้นั้นเป็น "บุคคลภายนอกหรือผู้ทำการโดยสุจริต" คือไม่รู้ว่าสามีภริยาคู่นี้ จดทะเบียนสมรสซ้อน เข้าใจว่าเป็นคู่สามีภริยาที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย บุคคลภายนอกที่สุจริต ดังกล่าว ย่อมไม่เสื่อมสิทธิที่ได้มาก่อนมีการบันทึกความเป็นโมฆะไว้ในทะเบียนสมรส
การกล่าวอ้างความเป็นโมฆะของทะเบียนสมรสซ้อนนั้น ผู้มีส่วนได้เสีย หรือคู่สมรสฝ่ายใด อาจยกขึ้นมา ว่ากล่าว เอาเองโดยไม่ต้องมาร้องหรือฟ้องศาลก็ได้ แต่การจดทะเบียนหย่าให้การสมรสซ้อนสิ้นสุดนั้น ในทางกฎหมายจริง ๆ แล้วถือว่าไม่อาจทำได้เพราะการสมรสซ้อนถือว่าไม่สมบูรณ์มาตั้งแต่การเริ่มแรก จึงไม่อาจจดทะเบียนหย่าได้ เพราะการจดทะเบียนหย่าจะใช้สำหรับการสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย การที่เจ้าหน้าที่จดทะเบียนหย่าให้กับคู่สมรสซ้อนเพราะเจ้าหน้าที่เองไม่ทราบว่าทะเบียนสมรสที่มาขอ จดทะเบียนหย่าเป็นทะเบียนสมรสซ้อน
การที่จะให้คู่สมรสซ้อนได้รับการคุ้มครองสิทธิอย่างเต็มที่ จึงต้องมีการแจ้งไปยังนายทะเบียนสมรส เพื่อบันทึกความเป็นโมฆะไว้ในทะเบียนสมรส ดังนั้นจึงเป็นการจำเป็นที่จะต้องนำคดีมาสู่ศาล เพื่อให้ศาลมีคำพิพากษาว่าการสมรสเป็นโมฆะแล้วศาลจะทำการแจ้งให้นายทะเบียนสมรสทราบ เพื่อบันทึกความเป็นโมฆะไว้ในทะเบียนสมรสเอง ซึ่งถ้าหากทำเช่นนี้แล้วแม้ว่าบุคคลภายนอก จะสุจริตเพียงใดและในความเป็นจริงยังไม่ได้ไปตรวจดูการจดแจ้งดังกล่าวไว้ในทะเบียนสมรสก็ตาม ก็ไม่อาจจะอ้างสิทธิของตนที่ได้มาหลังจากมีการจดแจ้งดังกล่าวไว้ในทะเบียนสมรสขึ้นกล่าวอ้างได้
ดังนั้นการที่หญิงคนใดสุจริตถูกหลอกให้จดทะเบียนสมรสกับชายที่มีภริยาอยู่แล้ว หากสามีของตน ไปก่อหนี้ขึ้นมา อาจทำให้หญิงผู้นั้นต้องรับผิดร่วมด้วยได้หากเจ้าหนี้เขาสุจริต ในรายที่มีหนี้มาก จึงไม่ควรใช้ วิธีจดทะเบียนหย่ากับการสมรสซ้อน
สรุปได้ว่า ถ้าหากคุณเป็นเจ้าหนี้ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกที่สุจริตแล้ว แม้ต่อมาจะได้มีการจดทะเบียนหย่า และอ้างว่าการสมรสดังกล่าวเป็นการสมรสซ้อนตกเป็นโมฆะ (ซึ่งอาจทำให้หนี้สินที่เกิดขึ้นในระหว่าง สมรสซ้อน ไม่ใช่หนี้ร่วมระหว่างสามีภริยา ใครเป็นหนี้ผู้นั้นก็ต้องรับผิดไปตามลำพังก็ตาม) แต่การจดทะเบียนหย่าดังกล่าวยังไม่ถือว่าเป็นการบันทึกความเป็นโมฆะไว้ในทะเบียนสมรส เมื่อภริยาขึ้นเป็นลูกหนี้ซื้อสินค้ามาทำกิจการงานร่วมกับสามี จึงถือว่าตัวสามีเองก็เป็นลูกหนี้ ที่เจ้าหนี้ผู้สุจริตสามารถฟ้องบังคับให้ชำระหนี้ได้ แม้จะไม่มีหลักฐานในสัญญาหรือเช็คเป็นชื่อของสามี ร่วมด้วยก็ตาม เพราะสามารถพิสูจน์ด้วยข้อเท็จจริงถึงความเป็นสามีภริยาของลูกหนี้รายนี้ในขั้นศาลได้
สุกัญญา รัตนนาคินทร์
main |