Aya

รักนิดๆ สะกิดใจ (No reason)

รักนิด ๆ สะกิดใจ
(No Reason)

วันเวลาช่างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ความรักมันจะเปลี่ยนไปพร้อมกับการเวลาด้วยหรือเปล่า.... ถ้ามันหายไปเหมือนลมที่พัด ฤดูกาลที่เปลี่ยน โลกที่หมุนอยู่ตลอดเวลาคงจะดีกว่านี่ คนเราจะได้ไม่ต้องเศร้าหรือเสียใจ คนเราเนี่ยก็แปลก เวลาสุขก็ช่างลืมง่ายและหายเราจริง ๆ แต่พอทุกข์หรือสูญเสียสิ่งที่รักไปทำไมมันไม่ลืมได้ง่ายแต่มันกลับตอกย้ำทุกครั้งที่มองหรือได้ยินถึงสิ่งที่หวนให้คิดถึงรำลึกอยู่เสมอ

ผ่านมาได้ประมาณเทอมหนึ่งอีกไม่นานฤดูใหม่ก็จะมาเยือน ฤดูฝนที่มีแต่น้ำตาและความเศร้าสร้อย และสิ่งที่ตอกย้ำ ฤดูหนาวก็กำลังเยี่ยงกายเข้าครอบคลุม ความแห้งแล้งและเงียบหงอยกำลังพัดเข้าครอบนำจิตใจที่สั่นไหวของผม
ภาพที่เห็นทุกเช้าเย็น เวลาที่เขาอยู่กับใครอีกคน คนที่เขารักด้วยจิตใจ ทำไมเขาคนนั้นถึงไม่เป็นเรา น้ำ.... สายตาที่นายจ้องมองวินมันทำให้ฉันรู้ถึงความพ่ายแพ้และต้องจำยอมเป็นคนหลีกทางให้พวกนาย อยากให้น้ำรู้ถึงความรู้สึกนี้จริง ๆ ว่า ฉันยังรักนายอยู่เสมอ.....

“เฮ้....นา”เสียงของคนที่ผมไม่อยากได้ยินมากที่สุดเรียกขณะโบกมือ
ผมที่มองออกไปที่หน้าต่างชมความอบอ้าวของฝนที่ตกกระหน่ำกับความเศร้าของการสูญเสียคนที่ตนรักไป ผมหันหน้าไปมองเพื่อนและคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ที่ผงกศีรษะเป็นการกล่าวทัก ผมลุกขึ้นเดินมาด้วยอาการของช่วยไม่ได้จริง ๆ
“มีอะไรวิน” ธนากล่าวด้วยเสียงแสดงความเบื่อหน่าย
ไอ้วินไอ้เพื่อนกินมันเข้าล๊อกคอของผม “หนอย....”
“เฮ้ย......” ผมงอตัวลงด้วยแรงที่กดของเพื่อน ส่วนผู้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็หัวเราะกับการเย้าแหย่ของเพื่อนผม
“พอได้แล้ว วิน ธนาเขายิ่งตัวเล็ก ๆ อยู่”เสียงที่เหมือนจะพูดดีแต่กลับว่าคนอีกในทำนองเดียวกัน
“ใคร หา....ที่ตัวเล็ก ๆ “ธนาดันตัวออกเดินเข้ามาหาเจ๊
“ต๊าย....”เจ๊ขึ้นเสียงสูง “ยังไม่รู้ตัวอีกหรือ เด็กน้อย”แล้วเจ๊แกก็ยืนกอดอกด้วยมาดหัวหน้าที่ใคร ๆ ก็เกรงกลัว
“ก็ ธนา ผอมสูง มันก็เลยทำให้ดูบอบบางไปด้วย”เสียงเล็กหวาน ๆ ของผู้ที่สามารถปรามเจ๊ใหญ่แกได้
ธนาจ้องร่างเล็กกลม ๆ ตอบ “ไม่เห็นจะดีตรงไหน”
เจ๊แกเดินเข้ามาขวาง “ก็ดูน่ารักดีนี่หว่า”แล้วเจ๊แกก็หัวเราะออกมา เสียหมดสตรีไทย อ้าปากหัวเราะไม่มีปิดหรือลดเสียงลงเลย อย่างนี้ชาวต่างประเทศมาเห็นคงบอกว่าเจ๊ผู้นี้ทำลายภาพพจน์ที่ดีของสตรีไทยหมดสิ้น
“ธนา ไม่ได้ร่างบางนะ”น้ำกล่าวท้วง ฉันเห็นมาแล้ว
ทุกคนหันมามองน้ำที่กล่าวเสียงแข็ง
น้ำหน้าแดงขึ้นตาจ้องไปที่ธนาที่ยืนเอ๋ออยู่
“เออ.....ธนา เขาออกกำลังกายทุกเช้า เขาจะบอบบางได้ยังไง”น้ำอึ่ม ๆ อ่ำ ๆ ก่อนที่จะกล่าวออกมา
“แน่นอน ฉันออกกำลังกายทุกวัน”ธนารีบกล่าวยอมรับอย่างเสียไม่ได้
วินที่มองหน้าของน้ำอยู่ ก็เดินเข้ามากอดคอน้ำ “ใช่....”
เจ๊มองอย่างงง “ช่างเถอะ วันเกิดฉันพวกแกต้องมา ทุกคน” เจ๊แกเน้นเสียงอย่างหนักหน่วง
“ใครไม่มา เปิดเทอมเจอกันแน่ ไม่ก็แม่จะตามไปเฉ่งถึงบ้าน จำเอาไว้”แล้วเจ๊แกก็เดินไปพร้อมกับเพื่อนคนสนิท ปล่อยให้สามหนุ่มทำอะไรไม่ถูก เล่นสั่งกันอย่างนี้ไม่ไป ได้เจอดีแน่ น่ากลัวกว่าภูตผี ปิศาจสักอีก
“คงต้องไปสินะ”น้ำกล่าวขึ้นมา
“อืม....”ธนาตอบรับ
“ไม่ไป เปิดเทอมหรือเจอเจ๊แกอีกทีได้โดนของแน่ งานนี้” แค่นี้ก็เรียกความสยองได้อย่างดี
น้ำหันมามองวินชายหนุ่มที่ตนรักจนถึงขั้นเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้รักนี้มา สายตาที่น้ำจ้องมองวิน และสายตาของวินที่จ้องมองน้ำมันช่างเสียดแทงจิตใจของเข้าเสียเหลือเกิน มันทำให้เขารู้ว่าที่ตรงนี้ไม่ใช่ของเขา
“ไปก่อนนะ”ธนาเดินจากลาไป
น้ำและวินมองธนาด้วยสายตาที่ปนความเศร้าสร้อย
“เพราะผมเอง มันเป็นความผิดของผม”เด็กตัวน้อย ๆ กับไหล่ห่อที่สั่นเทา
วินจับไหล่บางอย่างเบามือก่อนที่จะลดหน้าลงมาเช็ดน้ำตาด้วยริมฝีปากดูดซับความเสียใจของเด็กน้อยที่ตนรักให้หมดสิ้น
วินจ้องมองคนรักของตนด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
“น้ำ...เพราะเขาทำให้เรารักกันได้ แต่เพราะใจของผมมีให้น้ำคนเดียว ความรักมันก็ต้องมีผู้แพ้ผู้ชนะ และความรักมันก็ต้องมีการเสียสละ ธนาได้เสียสละความรักทั้งหมดให้พวกเรา พวกเราก็ต้องรักกันให้มาก ๆ เผื่อธนาเขาด้วย”แล้ววินก็เข้าครอบนำริมฝีปากเรียวเล็กของน้ำ น้ำตอบรับความอบอุ่นและความหอมหวานที่วินได้มอบให้กับเขา

โดนจนได้ เจ๊แกโทรมารายงานถึงบ้านแถมฝากแม่บังเกิดเกล้าของผมย้ำเรื่องงานวันเกิดอีกด้วย
“นา...อย่าคิดแม้แต่หาข้อแก้ตัว”เจ๊แกพูดเสียงดังที่ประมาณแม่ผมเดินผ่ามาต้องได้ยิน
“เออ....”
“ไม่ต้องพูดอะไร คุณแม่ค่ะ...อย่าลืมนะค่ะให้นาเขามางานวันเกิดหนูนะค่ะ วันที่ 15นี้ วันนั้นต้องว่างนะค่ะ คุณแม่”
แม่ของผมที่ยืนข้าง ๆ ผงกศีรษะอย่างงง แต่เอาเถอะให้นาไปสังสรรค์กับเพื่อนบ้างก็ดี
ผมล่ะแทบเป็นลม สงสัยเจ๊แกโทรไปหาถึงบ้านทุกคนแล้วแน่เลย อย่างนี้ถ้าหนีไม่ไปงาน คงได้โดนระเบิดลูกใหญ่ส่งตรงถึงบ้านแน่
ธนาคิดถึงเรื่องที่เจ๊แกโทรมาประกาศอีกครั้ง ขณะที่เดินซื้อของขวัญวันเกิดให้เจ๊
เอาเถอะ.....ต้องให้อะไรที่เจ๊แกจะต้องจดจำไปตลอดชีวิตเลยดีกว่า ความคิดที่พุดขึ้นมาทำให้ผมอดที่จะขำไม่ได้ สิ่งที่เจ๊แกต้องจำแบบไม่ลืมในฐานะเพื่อนซี้แกก็ขอหน่อยก็แล้วกัน
ผมมองสัญลักษณ์ของชั้นที่ตอนนี้ผมยืนอยู่ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่างสุขุมวิทที่ใครก็ต้องรู้จัก กับความหรูเลิศอลังการแบบดาวล้านดวง เหมือนเชิญพี่ไก่มาทำการออกแบบตั้งอยู่ใจกลางเมืองแถบที่นักท่องเที่ยวขาใหญ่ขาเล็กต้องแวะเวียนอย่างไม่ขาดสาย สินค้าของดังมียี่ห้อส่งเข้าจากต่างประเทศเรียงรายให้เลือกอย่างมากมาย น้ำหอมเครื่องสำอาง เสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า และสินค้าอีกมากมายที่วางอย่างเป็นระเบียบด้วยความคิดที่บรรเจิด ศูนย์อาหารที่คัดสรรระดับผู้มีฝีมือมารวมอยู่ ณ ที่เดียวกัน
ผมเดินมาที่ชั้นสอง เดินดูของที่เหล่าพนักงานทุกคนต้องจับจ้องมาที่ตัวของผม ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับก็ผมมาเดินในที่ที่ผู้ชายทั้งหลายไม่กล้าเดินผ่านเลย แต่ที่ผมต้องมาเดินก็เพื่อซื้อของให้เพื่อนรักสุด...ตีนของผม เจ๊แกต้องฆ่าผมแน่ถ้ารู้ว่าผมจะซื้ออะไรให้ มันก็น่าสนุกดีนี่น่า.....
ผมมองซ้ายทีขวาทีเพื่อมองหาของที่ผมต้องการ แต่ผมรู้สึกเพลิดเพลินกับการเลือกเป็นอย่างมาก จนพนักงานขายคนหนึ่งต้องเดินไปเรียกใครสักคนเข้ามาทักทายผมทันที

“ขอโทษครับ ไม่ทราบว่ากำลังหาอะไรอยู่หรอครับ”เสียงใสเจียนแจ้วกล่าวทักทาย
ผมหันหลังไปมอง เด็กหนุ่มร่างเล็กกว่าผมไม่มากนักแต่ใบหน้าที่หวานหยาดเยิ้มนี้ทำเอาผมแทบจะละลายลงไปได้เลย ผิวขาวเนียนอมชมพู ริมฝีปากหนาแต่สีออกส้มแบบคนสุขภาพดี
ผมจ้องชั่วครู่ ก่อนที่จะเหลือบไปมองที่ป้ายพนักงานที่ติดอยู่ที่กระเป๋าเสื้อ “พายัพ สุธิวา” ชื่อก็น่ารักสียงก็เพราะ เขาจะสามารถมาแทนที่ในใจของผมได้หรือเปล่า จะมาช่วยให้ความเหงาของผมมลายไปได้หรือเปล่า
“คุณครับ”เข้ารียกผมอีกครั้งด้วยสีหน้าที่ปนความสงสัยเอาไว้
“อะ...ครับ”ผมตื่นจากความนึกคิดของตน
เขาจ้องมาตาของผม นัยน์ตาที่เคลื่อนไหวของเด็กคนนี้ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นได้อย่างประหลาด เอาล่ะต้องบุกบ้างแล้ว
“ผมมาหาซื้อ ขนาดนี้นะครับ จะซื้อไปเป็นของขวัญวันเกิดเพื่อน”ผมทำมือให้เขาดู
เด็กคนนั้นหัวเราะออกมากับท่าทีของผม “ครับ รอสักครู่นะครับ”แล้วพนักงานสุดน่ารักก็เดินไปหยิบของให้ ผมมองท่าเดินที่ส่ายสะโพกเล็ก ๆ มันช่างน่ามองอะไรอย่างนี้
“ครับ ได้แล้วครับ”พนักงานหนุ่มยื่นมาให้ผมดู ผมไม่คิดอะไรมากมาย ยืนบัตรเครดิตให้ทันที
“ครับ รอสักครู่นะครับ”เขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนที่จะรับบัตรเครดิตเดินไปที่ชำระเงิน
แล้วเดินกลับมายื่นกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ที่ตอนนี้ถูกหนีบอยู่ที่รองเขียน ผมเซ็นชื่อตนเองอย่างรวดเร็ว
“รอสักครู่นะครับ” แล้วเด็กคนนั้นก็เดินมาพร้อมกับถุงใบใหญ่ที่ห่อของขวัญไว้ให้อย่างเรียบร้อย
“นี่ครับ”
ผมรับมาด้วยสีหน้าที่สดใส ก่อนที่จะจับข้อมือของเด็กคนนั้นเอาไว้
เขาค่อย ๆ เงยหน้ามองผมอย่างสงสัย
“ไม่รังเกียจ คราวหน้าเจอกันข้างนอกได้ไหมครับ”ผมกล่าวอย่างไม่มีการรีรอ ผมไม่อยากปล่อยสิ่งที่ตนต้องการอีกเป็นครั้งที่สอง
เด็กคนนั้นทำท่าตกใจเป็นอย่างมากก่อนที่จะคลี่ยิ้มออกมา
“ได้สิครับ คุณธนา” เขาเรียกชื่อผมออกมา ผมก็ตกใจไม่น้อยเหมือนกัน
เจ้าเด็กน่ารักก็ชื่อไปที่ใบเสร็จรับเงิน
ผมยักไหล่ขึ้นกับความน่ารักของเด็กหนุ่มคนนี้ มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกหลงเข้าไปใหญ่ ตอนแรกที่เห็นเหมือนน้ำไม่มีผิด แต่สิ่งที่แตกต่าง เด็กคนนี้อ่อนโยนและร่าเริงมากกว่าน้ำ แถมตรงไปตรงมาด้วย
“ครับ พายัพ”ผมก็เล่นด้วยเหมือนกัน
เจ้าหนูหัวเราะออกมา ตนก็โดนด้วยเหมือนกันนะเนี่ย
“คุณเป็นคนน่าสนใจดีครับ ผมไม่เคยโดนผู้ชายจีบมาก่อนนะครับเนี่ย อีกชั่วโมงผมก็เลิกงานแล้วครับ ถ้าคุณรอได้นะครับ”
ผมแทบจะกระโดดตัวลอย กับคำกล่าวของเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้ เขาให้โอกาสผมแล้วผมก็ต้องรับเอาไว้อย่างแน่นอน ถึงตอนแรกผมจะเห็นคุณเป็นแค่ตัวแทนแต่ตอนนี้ผมเห็นคุณเป็นตัวจริงอย่างแน่นอน แถมยังรู้จุดประสงค์ของผมอีก น่ารักจัง
“ครับ ผมจะรอครับ ไม่ทราบว่าจะให้ผมไปรอที่ไหนดีครับ”ธนากล่าวออกมาด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“ครับ เจอกันหน้าร้านโดนัทนะครับ ผมชอบทานหลังทำงานเสร็จ”พายัพกล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่มีร้อยยิ้ม
“งั้นเจอกันนะครับ” ผมไม่อยากปล่อยเจ้าตัวไปเลยแต่ทำอย่างไรได้ ผมก็ต้องปล่อยไปอย่างเสียไม่ได้ ก็พนักงานคนอื่นเรียกเด็กน้อยของผมแล้วนี่น่า
“ครับ เจอกันนะครับ”เจ้าหนูของผมก็วิ่งไปทำงานต่อ
ผมมองภาพหลังของเด็กคนนั้นที่วิ่งไปน่ารักจริง ๆ หัวใจที่ห่อเหี่ยวของผมเริ่มที่จะพองโตอีกครั้ง และครั้งนี้ มันจะไม่มีวันที่จะหายไปอีกแล้ว เพราะผมจะไม่ปล่อยมือคุณอย่างแน่นอน

แนะนำติชมได้ที่บอร์ดนิยายนะคะ...................
1