Aya

เพียงเธอผู้เดียว

ขอมั่นคงกับคำ ๆ นี้ตลอดไป........”เพื่อน” ที่สำคัญ

เธอเพียงผู้เดียว ตอน 1

“เฮ้....คาสึสะ....”เสียงที่เรียกหาเพื่อนอีกคนดังลั่นทั่วมหาวิทยาลัย
จนเจ้าตัวต้องรีบบึ่งมาปิดปากเจ้าเพียงปากลำโพงคนนี้
“เงียบ ๆ หน่อยสิ
อายคนอื่นเป็นไหม”คนที่ถูกขานชื่อแก้มป่องแดงด้วยความอายในความหน้าด้านหน้าทนของเพื่อนคนหนึ่ง
ชายที่เรียกมองดูคนที่ตนเรียกออกมาทำท่าลุกลี้ลุกลนมองซ้ายทีขวาทีก่อนที่จะยกเอาผ่ามือเล็กอวบ
ๆ ของเพื่อนของตนออกจากการปิดปาก
“คาสึสะ”
“มีอะไร”หนุ่มร่างเล็กกว่าออกข้างมากกว่ากล่าวอย่างไม่พอใจ
“รายงานครั้งเนี่ยทำกลุ่มเดียวกันนะ”เพื่อนตัวดียกมือไหว้ขอร้องทำอย่างนี้มีหรือที่หนุ่มน้อยแสนจะใจดีอย่างคาสึสะมีหรือจะไม่ยอม
แต่แล้วก็ถูกมือหนา ๆ ใหญ่ ๆ ปิดที่ปากก่อนที่จะได้กล่าวอะไรออกไป
“คาสึสะ เขาอยู่กลุ่มเดียวกับฉัน
นายไปหาคนอื่นเถอะ”มาแล้วครับหนุ่มติดฮิตอันดับของมหาวิทยาลัย
เพื่อนรักเพื่อนสนิทของคาสึสะ
ร่างที่เล็กกว่าก็ได้แต่ดิ้นใต้ร่างกายที่ใหญ่โตของหนุ่นฮอตคนนี้ (ร้อนโว้ย
จะไหม้แล้ว....เดี๋ยวกลายเป็นหมูปิ้ง)
มาแล้วตัวมาร เอาเถอะ ไม่มีใครอยากมีเรื่องกับหนุ่มหล่อคนนี้หรอก
ถ้ายุ่งแล้วชีวิตจะหาไม่คงได้โดนสาวแก่ สาวน้อย สาวใหญ่ สาวเล็ก สาวไปข้าง ๆ
เล่นงานแบบอยู่ไม่ได้อีกแน่ “งั้นก็ไม่เป็นไร”
แล้วเพื่อนตัวดีก็รีบหายจ้อยไปทันตาเห็น
คาสึสะที่หลุดจากมือใบพายของเพื่อนรักก็หันมาต่อว่าทันที
“ใคร อยู่กลุ่มเดียวกับนาย”
เพื่อนรักก็ชี้ไปที่คาสึสะ
เส้นเลือดเล็ก ๆ ค่อยปุดขึ้นมาพร้อมกับกำหมัดขึ้นแล้วต่อยเข้าที่ท้องทันที
แต่เพื่อนรู้ใจก็เงี่ยมันดันเอามือมารับไว้ก่อน
มันยิ้มอย่างอ่อนหวานแบบรอยยิ้มเทวดาที่หญิงสาวหรือกระทั่งเด็กก็ต้องยอมใจอ่อน
มีอะไรให้หมด แถมหัวใจให้อีกด้วย
“ใจเย็น ๆ สิเดี๋ยวก็แก่เร็วนะ คาสึสะ” ยังมีหน้ามายิ้มอีกหรอ.....
“นายก็อย่ามากวนฉันสิ คนยิ่งเครียด ๆ อยู่”คาสึสะเอามือแตะหน้าผาก
เพื่อนรักดันก้มหน้าผากลงมาแตะที่หน้าผากของคาสึสะ สาว ๆ
ที่อยู่ใกล้เรือนเคียงก็ต่างร้องหวีดว้ายกระตู้วู้กันทั่ว
“ฉันไม่เป็นอะไรโว้ย
แล้วเป็นไงบ้างเรื่องที่ไปประกวดนะ”คาสึสะดันร่างของเพื่อนชิดใกล้ออกแล้วเปลี่ยนเรื่องทันที
“อืม ก็ดีนะ ไม่ชอบเลยที่มีคนเอารูปไปส่งประกวดจนได้รับเลือก
ถ้าคาสึสะไม่บอกว่าให้ลองดู
ฉันคงไม่ลงแข่งอย่างแน่นอน”มันพูดอย่างไม่อายปากก่อนที่จะตบท้ายด้วยรอยยิ้มหวาน ๆ
ตามแบบฉบับของผู้ชายแสนสุภาพผู้นี้ ทำเอาคาสึสะใจหายไปสักพัก
ก็แน่ล่ะหมอนี่ไม่ได้ดังเฉพาะกับผู้หญิงผู้ชายทั้งรับทั้งรุกก็ต่างมาเข้าคิวให้เลือกมากมาย
เราเป็นแค่เพื่อนเท่านั้นคงจะได้คอยดูแลชิดใกล้เล่นหัวตบท้ายได้ก็เฉพาะตอนนี้เท่านั้นเมื่อมีแฟนหรือแต่งงานแล้วก็คงต้องแยกกันไป
ยังในฐานะเพื่อนรักเราก็ต้องแสดงความดีใจ ถึงแม้ในใจจะรู้สึกแปลก ๆ ก็ตาม
แต่อย่างน้อยก็ขอเป็นแค่เพื่อนเท่านี้ก็ยังดี
ว่าแล้วคาสึสะก็ยิ้มตอบกลับกับความใจดีของเพื่อนรักคนนี้ ทาคาฟุเนะ โยเซ
หนุ่มติดป้ายของมหาวิทยาลัยแบบว่าหล่อเกินห้ามใจ
ได้รับเลือกหนึ่งในสามตลอดสองปีที่ผ่านมา
เรียนคณะบริหารธุรกิจเอกการจัดการต่างประเทศที่เลือกเรียนมหาวิทยาลัย สาขา
และเอกทั้งหมดก็เลือกตามเพื่อนสนิทตั้งแต่มัธยมต้น
โยซากุ คาสึสะ
หนุ่มร่างเล็กที่ท้วมแต่ไม่ถึงกับอ้วนเป็นคนที่มีคนขอเป็นเพื่อนเยอะเพราะเป็นคนนิสัยดี
ร่าเริง ยิ้มง่ายแถมใช้งานง่ายเพราะเป็นคนใจอ่อนด้วย
โยเซเพื่อนรักจึงต้องคอยปัดให้แทน
และเมื่อไม่นานนี้แฟนคลับของโยเซก็ได้นำรูปไปส่งเข้าประกวดและได้รับการคัดเลือก
แต่เจ้าตัวไม่เล่นด้วยโกรธเป็นบ้าเป็นหลังเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์พวกแฟน ๆ
จึงมาขอร้องเพื่อนสนิทให้ไปเกลี่ยกล่อมให้
ถึงไม่อยากช่วยก็ไม่อยากให้โยเซมันหน้าบูดไปมากว่านี้
เมื่อคาสึสะไปจุดประกายไปแก่โยเซ หมอนั้นก็รีบตกลงแบบไม่ต้องคิดเลย
“โย วันนี้นายต้องไปคัดเลือกนี้น่า”คาสึสะเดินนำหน้าเพื่อนที่เดินตามหลังคาสึสะต้อย

“โย...”คาสึสะขึ้นเสียงเรียกเพื่อน
“อะ...หา มีอะไรคาสึสะ”
“นายเป็นอะไรไป วันนี้วันตัดสินแล้วนะ”คาสึสะทำหน้าเบื่อหน่าย
“คาสึสะ”
คาสึสะหันหลังไปมองโย
“นายว่าฉันเหมาะจริง ๆ หรอ”
“แน่นอน นายต้องมั่นใจในตัวเองนะ ฉันจะเอาใจช่วยนาย
ไม่ได้รับเลือกก็ไม่ได้หมายความว่านายเป็นคนไม่ดีนี่น่า
ถ้าได้รับเลือกจะเลี้ยงเค้กฉลองนะ
ชอบไหม”ว่าแล้วคาสึสะก็หันหน้ากลับแล้วเดินคิดถึงเค้กหน้าต่าง ๆ
คาสึสะ.....นายเป็นคนเดียวที่ให้กำลังใจฉันมาตลอดไม่ว่าเรื่องอะไร
ถ้าฉันต้องเสียเพื่อนอย่างนายไป ฉันจะเป็นอย่างไร โยเซมองร่างของคาสึสะที่เดินดุ่ม
ๆ ไปเรื่อย ก่อนที่คาสึสะจะหันมาเรียกเพื่อน
“โย ไปกันได้แล้ว”

“ว่าไงครับ หมายเลข 9 ก็เยี่ยมนะครับ หน้าตาดี เหมาะกับบทที่ทางเราต้องการด้วย”
“แต่ 12 ก็แจ๋วนะครับเห็นแววแต่ไกลเลย”
“ไม่มองเบอร์ 52 บ้างหรอครับ หน้าตาและบุคลิกเป็นแบบที่ต้องการเลยนะครับ”
กรรมการทั้งหมดนั่งคิดสักครู่พลางมองรูปของหมายเลขนั้น
ก็เป็นไปตามที่กรรมการใหญ่กล่าวเหมาะและลงตัวตามรูปแบบที่เตรียมไว้
ในที่สุดการตัดสินก็เสร็จสิ้นลง
“ขอให้ผู้ประกวดทุกท่านมาเข้าแถวได้เลยครับ
เราจะประกาศผลการตัดสินแล้วครับ”พิธีกรกล่าวเรียก
นายแบบหน้าใหม่หน้าเก่าต่างยืนเข้าแถวแสดงความหล่อสยบหัวใจของสาว ๆ มาทั่วสารทิศ
“นักแสดงประกอบฉาก...หมายเลข9..........นักแสดงนำ 12 17 และ 52 ครับ
ขอบคุณมากนะครับที่มาเข้าแข่งโอกาสหน้าขอเชิญใหม่นะครับ
ผู้ที่ถูกเลือกกรุณาอยู่ก่อนนะครับ”
เป็นอย่างที่รู้กันหนึ่งในนั้นมี โยเซ หนุ่มหมายเลข 52
ที่โดดเด่นในเรื่องความงามและความหล่อที่ผสมผสานได้อย่างลงตัวกับตัวนำอีกคน หมายเลข
12 ท่าทางเจ้าอารมณ์แบบพวกยากูซ่าหรือเจ้าถิ่น
พี่แกพบความเถื่อนแต่เร้าใจมาสยบคะแนน หมายเลข 12
หนุ่มเจ้าสำอางแต่งตัวสูทตลอดยืนเก๊กมาดมั่นว่าตนหล่อเหลือเกิน
ท่าทางจีบสาวไปทั่วแถมยังป๋อหนุ่มหน้าหวานหลายคนไปแล้วจากเวทีการประกวดเอาเถอะก็คนมันหล่อแบบผู้ใหญ่เสน่ห์เย้ายวนเกินใครหลง
และนี้คือหน้าตาของนักแสดงนำที่กำลังจะแสดงเรื่องนี้
“ต่อไปเป็นการประกาศบทการแสดงครั้งนี้...............”


“เป็นไงบ้าง....”คาสึสะยืนโผล่หน้าห้อยหัวลงมาข้างหน้าโยเพื่อนที่ทำหน้าหมดอาลัยตายอยาก
“นายเป็นอะไรโย” คาสึสะลงหน้านั่งข้างหน้าโย
“คาสึสะ ฉัน....” โยทำหน้าเศร้า คาสึสะก็พอที่จะเดาออกคร่าว ๆ
“อย่าคิดมากโย ปีหน้าเอาใหม่ก็ได้”คาสึสะลูบหลังเพื่อนปลอบโยนอย่างเบามือ
โยก้มหน้าลงยิ่งทำให้คาสึสะใจคอไม่ดี แล้วโยก็เงยทำหน้าทะเล้น
“ฉันได้รับการรับเลือกคาสึสะ”
“จริงหรอ”คาสึสะกระโดดตัวลอยกับการประสบความสำเร็จของเพื่อนรักของตน
“คาสึสะวันนี้เขามีคิวถ่ายเลยอยากให้คาสึสะไปด้วย”โยกล่าวด้วยสีหน้าที่จริงจัง
คาสึสะยิ้มตอบ ก่อนหลบหน้า
ถ้าเขาไปก็เป็นการประกาศว่าโยหนุ่มหล่อมีเพื่อนรักหน้าตารูปร่างแบบนี้
เรามันก็เป็นได้แค่อึปลาทองเท่านั้น ความหล่อก็ไม่มีนิสัยก็งั้น ๆ
ตั้งแต่เด็กจนอายุจะ20แล้วยังไม่เคยมีแฟนกับเขาเลย
ยิ่งโยเป็นคนสวยแล้วก็หล่อมาเป็นเพื่อนเรา
มันคงจะฉุดเอกลักษณ์ของโยหมดอย่างแน่นอน......จำไว้คาสึสะเรากับโยเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น
ไม่มีน้อยหรือมากไปกว่านี้ ดังนั้นเราต้องห้ามข้ามเขตแดนของเส้น ๆนี้อย่างเด็ดขาด
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราต้องไปเหยียบหรือแตะมัน ดังนั้นเราก็ควรที่จะหลีก...
“ขอโทษนะโย วันนี้คงไม่ได้ เพราะมีรายงาน”คาสึสะพยายามยิ้มออกมาอย่างไม่คิดมาก
“งั้นเราก็ต้องช่วยสินะ” โยทำหน้าเศร้าใจอย่างมาก ก็นายไม่ไปนี่น่า.....
“ไม่ต้องโย รายงานส่วนของนายเราจัดการให้เอง” คาสึสะทุบอกตนเอง
“ถ้านายมาเรียนไม่ได้เราจะจดเลคเชอร์ไว้ให้
นายไม่ต้องกังวลเรื่องการเรียนนะเพราะนายยังมีเราอยู่
เราเป็นเพื่อนสนิทกัน”ทำไมไอ้คำว่าเพื่อนมันถึงทำเอาหัวใจเจ็บได้เพียงนี้.....ใช่แค่เพื่อน
“ขอบใจนะคาสึสะ นายเป็นเพื่อนที่ดีจริง ๆ”อย่าย้ำได้ไหม
มันทำให้ฉันรู้ว่าตนเองเลวร้ายแค่ไหนเชียวนะโย.....
คาสึสะยิ้มออกมาแล้วมองดูร่างของเพื่อนรักของตนเข้าสู่ในสถานที่ที่ตนจะเข้าไปไม่ถึงแล้ว
ในที่สุดวันวันนี้ก็มาถึง วันที่เราและโยมีเส้น ๆ
หนึ่งมาแบ่งกลางเอาไว้เราจะไม่ล่วงล้ำอย่างแน่นอนและสิ่งนี้คงทำให้เราตระหนักได้ตลอดเวลาในเรื่องการวางตัวของเรา
ฉันสัญญากับตนเองเอาไว้ว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับนายให้ได้โย
น้ำตาของคาสึสะค่อยเรียงตัวก่อนที่จะไหลรินออกมาอย่างไม่สามารถกลั้นเอาไว้ได้
เราจะต้องไม่ร้องไห้ต่อหน้าโยอย่างเด็ดขาด โย เพื่อนรักของฉัน.......

“ขอโทษ รับนี่เอาไว้สิ”เสียงห้าว ๆ เสียงใหญ่ ๆ ไม่น่าเชื่อหรือว่าเป็น
คาสึสะเงยหน้าของตนขึ้น
“อะ....คิคุมะ” คาสึสะมองหน้าของหนุ่มที่เข้ามายื่นพาเช็ดหน้าให้
“เอาเปล่า?” คิคุมะทำหน้าตากวนโอ๊ย
คาสึสะยิ้มกับท่าทางที่ไม่เคยเกื้อกูลใครของเพื่อนรักอีกคนคนนี้
“ขอบใจนะ”คาสึสะรับมาแล้วซับน้ำตาของตน
ก่อนที่จะส่งคืนให้
รอยยิ้มของคาสึสะที่อ่อนโยนและงดงามทำเอาคิคุมะนักเรียนช่างกลตีระเบิดต้องขยันเพื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่เดียวกับคนที่แอบมีใจให้
เรื่องนั้นเกิดขึ้นตอนที่คิคุมะเพิ่งตีกับโรงเรียนอื่นอยู่
คาสึสะที่เดินผ่านมาเห็นเข้าก็เข้ามาช่วยเหลือโดยไม่คิดอะไร
คิคุมะที่ไม่เคยได้รับการพูดจาอย่างเป็นมิตร มีแต่ดูถูกเหยียดหยาม จากญาติ พี่น้อง
เพื่อน เขาไม่เคยได้รับน้ำใจจากใครเลย
ทำให้เขาคิดว่าสิ่งเดียวที่เขาต้องการได้มาด้วยการใช้กำลังแต่วันนั้นแหละที่เขารู้ว่าสิ่งที่เขาต้องการมันคือสิ่งนี้นี่เอง

“เป็นอะไรบ้างไหมครับ” สายตาที่เหมือนจะร้องไห้เมื่อเห็นบาดแผลที่เต็มตัวของคิคุมะ
ก่อนที่จะยื่นผ้าเช็ดหน้าสีชาอ่อน ๆ มาให้และทำแผลให้อย่างเรียบร้อย
“เจ็บมากไหมครับ” คาสึสะค่อยเอาผ้าที่ชุบน้ำเช็ดที่ปากของบาดแผล
“ไม่”
“รักษาร่างกายตนเองหน่อยสิครับ” คาสึสะเริ่มการเปิดกัณฑ์เทศน์
คิคุมะมองดูคาสึสะที่ค่อยร้องไห้กับการกระทำของตนเอง
“คิดถึงตนเองบ้างนะครับ
ถึงจะไมมีใครก็ต้องคิดถึงตัวเราบ้างนะครับ”น้ำตาของคาสึสะหยดลงบนปากแผลของคิคุมะ
ไม่เจ็บแต่มัน.....มันช่างอ่อนโยนอะไรอย่างนี้
เหมือนกับแผลพวกนี้ถูกรักษาและบรรเทาอย่างเรียบร้อย
คิคุมะเอามือโอบร่างของคาสึสะไว้ แล้วยิ่งรัดแน่นขึ้น
คาสึสะไม่กล่าวสิ่งใดตอบกลับเอามือของตนลูบหลังของคิคุมะอย่างที่ทำให้โยเพื่อนรักของตนเป็นประจำ
ทั้งสองปลอบโยนกันสักพักก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน
“ขอบใจมาก นาย...ชะ...ชื่ออะไร”คิคุมะหลบหน้า
คาสึสะชี้นิ้วไปที่ตนเองก่อนที่จะยิ้มอย่างฟ้าหลังฝนว่า”คาสึสะ โยซากุ คาสึสะ”
“คิคุมะ ซาไก”
“เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ”คาสึสะยื่นมือออกไป
คิคุมะคิดอยู่สักพักก่อนที่จะจับมือกับคาสึสะ ผู้ที่ให้กำเนิดชีวิตใหม่แก่เขา

“นายเป็นอะไรคาสึสะ”ซาไกถามเมื่อคาสึสะหยุดร้องแล้ว
“เปล่า...ฝุ่นเข้าตานะ” คาสึสะแก้ตัว
“เรื่องรายงานวันนี้...”ก่อนที่คาสึสะจะพูดจบซาไกก็ยกมือไหว้วางบนศีรษะ
“ขอโทษนะ วันที่คาสึสะบอกว่าโยมันเหมาะกับการเป็นนักแสดง ก็เลยไปสมัครแล้วได้”
คาสึสะนิ่งไปสักครู่ก่อนที่จะเข้ามากอดซาไกที่ตอนนี้ตัวแข็งทื่อไปแล้ว
“เก่งมากเลย ยอดเลยซาไก สมแล้วที่เป็นซาไก....”
ตอนนี้หัวใจของซาไกกลับผองฟูยิ่งกว่าเดิมเพราะคำหวาน ๆ
ที่คาสึสะมอบให้มีค่ามากกว่าคำอวดชมของสาว ๆ ที่ไม่จริงใจเลยสักครั้ง
“งั้นเหลือผมกับคาสึสะสินะ”ผู้แทรกคนใหม่เดินเข้ามา ทาคามุระ ชิสึมิ
หนุ่มนักเรียนดีเด่น คะแนนสอบเข้าอันดับหนึ่ง กีฬาเลิศแบบนักกีฬาทีมชาติมาขอจองตัว
แถมด้วยพรสวรรค์ด้านดนตรีที่เคยล่ำเรียนถึงดินแดนของดนตรีและการแสดงที่อิตาลี
เพียงเท่านี้ก็ทำให้เป็นที่นิยม
ยังไม่หมดแค่นั้นความหล่อที่ได้มาจากบรรพบุรุษก็ทำเอาหัวใจของหลาย ๆ คน
(ไม่ต้องบอกเพศนะครับรวมสองเพศเลยครับ) แทบละลายแบบสยบทั่วหล้าด้วย โคลงกลอน
และเจ้าของตำแหน่งประธานนักเรียนด้วย
“ดีนะ ที่ชิสึมิคุงยอมเข้ากลุ่ม”คาสึสะยิ้มหวานให้ กับอีกหนึ่งเพื่อนรัก
“งั้นไปหาข้อมูลเลยดีไหมครับ
ปล่อยให้หมอนั้นไปเตรียมการแสดงดีกว่า”ชิสึมิมองหน้าของเพื่อนตนที่เป็นคู่แข่งเรื่องกีฬา
หนอย....ลืมเจ้าชิสึมิไปเสียสนิท เจ้าศัตรูล่องหนเอย
“จริงด้วย ซาไกพยายามเข้านะ
ฉันจะเป็นกำลังใจให้”แค่นี้ซาไกก็สามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อคนคนนี้
แล้วคาสึสะก็เดินไปกับชิสึมิเพื่อทำรายงาน

“คาสึสะไม่ไปดูพวกเขาเล่นหนังกันหรอครับ”ชิสึมิถามแค่คำถามนี้ก็ทำเอาคาสึสะนิ่งเงียบไปทันที
“มันไม่ดีมั้งที่จะให้คนอย่าง....ไปประกาศเป็นเพื่อนพวกนั้นได้
รูปร่างก็ไม่ดีอ้วนก็อ้วน สิวก็ขึ้นเขลอะไปทั่ว
ผมกลัวจะทำให้พวกนั้นถูกมองดูในแง่ไม่ดี”คาสึสะก้มหน้าตอบก่อนที่จะหันหน้ามามองเอานิ้วชี้แตะริมฝีปากของตน
“ห้ามบอกเรื่องนี้แก่พวกนั้นนะ
กลัวคิดมากแล้วเลิกแสดง”แล้วคาสึสะก็หัวเราะอย่างเป็นเรื่องตลก
“อย่างคิดมากนะครับ คาสึสะก็มีดีในแบบของคนที่สวยอย่างเดียวไม่มี
ไม่มีใครเทียบกับคาสึสะได้หรอกเชื่อสิครับ อย่างผม โย
ซาไกคบกับคุณด้วยใจเพราะคาสึสะเป็นคนอ่อนโยนใจดีจริงจังจริงใจ ไม่เคยหลอกพวกเราเลย”
“ไม่หรอก ฉันนะหลอกพวกเธอมาหลายเรื่องแล้วล่ะ”
คาสึสะหันหน้าออกไปมองหน้าต่างที่อยู่ทางขวามือของตน
“ไม่หรอกครับ คุณหลอกคนไม่เป็นหรอกครับ” ชิสึมิจับไหล่ของคาสึสะที่สั่นเทา
“อย่าคิดมากไปเลยครับมีอะไรก็ระบายให้ผมฟังได้นะครับ
ผมเป็นเพื่อนคนหนึ่งของคุณนะครับ”
“ขอบใจนะ” คาสึสะยิ้มตอบแต่ดวงตากลับได้ยิ้มไม่ แต่สั่นคลอไปด้วยหยาดน้ำใส ๆ
ที่เริ่มเรียงตัว จิตใจที่สั่นไหวกับความรู้สึกที่เริ่มรวนเร
คำตอบและผลสรุปของสิ่งเหล่านี้ล่ะ.....


“คาสึสะยังไงวันนี้นายต้องไปดูฉันเล่นให้ได้” เพื่อนรักล็อกคอของคาสึสะ
คาสึสะเอามือทุบให้เพื่อนคลายออก
“ตอบมาก่อนว่าจะไป”นี้ยังยื่นข้อเสนออีกหรอ เอาเถอะตอบ ๆ
ไปก่อนแล้วยังไงก็ค่อยว่ากัน คาสึสะผงกหัว โยจึงคลายแขนออก
คาสึสะลุกหนีทันทีที่แขนที่ก่ำย่ำถูกปลดออก
มีหรือที่จะเร็วเท่าโยหนุ่มขายาวแขนยาวคนนี้
“ห้ามหนี”
“ไม่ได้หนี...จะเข้าห้องน้ำ”
คาสึสะกล่าวหน้าตายก่อนที่จะสะบัดมือแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำ
โยก็ไม่วายที่จะดักถึงหน้าประตูห้องน้ำที่คาสึสะเข้า
“จะรอจนกว่านายจะเสร็จ”โยตะโกนเข้าไป

ทำไงดีแย่จริง ๆ เอาเถอะไปก็ได้แล้วบอกว่าเป็นอย่างอื่นแทนแล้วกัน
ไม่งั้นมันคงไม่หยุดตามตื้ออย่างแน่นอน


“คาสึสะยืนรอตรงนี้นะ ฉันจะแสดงเต็มฝีมือเพื่อคาสึสะเลย” โยชี้ไปที่ใต้ต้นไม้
คาสึสะผงกหัวรับดีเหมือนกันไกลผู้คนดี
“ได้ พยายามเข้าล่ะ”
คาสึสะยิ้มให้กำลังใจแล้วเดินไปนั่งที่ใต้ต้นไม้โดยไม่ทันสังเกตรอยยิ้มที่โยตอบกลับให้ว่ามันงดงามแค่ไหน
“ไม่....ไม่....”
เสียงดังโวยวายจากกองถ่ายจะเป็นเสียงใครอีกล่ะนอกจากเสียงของซาไกหนุ่มอารมณ์ร้อน
ที่ไม่พอใจกับการแต่งหน้าของช่างแต่งที่ให้ทาริบสติกสี
ซาไกเดินออกมาจากรถที่เอาไว้เป็นห้องแต่งตัวของตน
“เดี๋ยวก่อนสิฮะ.....” เสียงตุ๊ดตู่ที่เปิดประตูเดินตามนายแบบของตนที่หงุดหงิด
“เกิดอะไรขึ้น ฟาร่า (ช่างแต่งหน้าคนนี้ชื่อฟาร่า)” ผู้กำกับถาม
“คุณ คิคุมะ เข้าทรงอีกแล้วค่ะ เดี๊ยนตามใจเขาไม่ทันเลยนะค่ะ...ไม่เอานู่นไม่เอานี่
อยู่ดี ๆ ก็โกรธ”
“แล้วจะเอายังไงเขาเป็นนักแสดงก็ทำตามใจเขาหน่อยสิ ฟาร่า
อย่าให้มีเรื่องอีกนะ”ผู้กำกับชี้หน้าว่าช่างแต่งหน้าร่างบางหน้าหวานคนนี้

“ใครไปสงบอารมณ์ของคิคุมะทีสิ” ผู้กำกับประกาศ
หาได้มีผู้ใดกล้าเสี่ยงตายไปเลยสักคนคราวที่แล้วก็เพิ่งโดนหมัดล้วน ๆ สยบไปสามคน
ก่อนที่จะถูกหามส่งเข้าโรงพยาบาลถึงจะสงบอารมณ์ลงได้
คงไม่มีใครกล้าที่จะอยากไปเป็นเหยื่อระบายอารมณ์ของหมอนั่นอย่างแน่นอน
“ผมไปเองก็ได้คำเดียวที่หมอนั่นต้องสงบลง”
โยกล่าวอย่างมาดมั่นแล้วเดินไปหาซาไกที่ยืนเตะกระป๋องเปล่าเล่นอยู่
โยพูดและชี้อะไรสักพักซาไกก็เดินเข้ามาอย่างอารมณ์ดีทำเอาผู้อยู่ในเหตุการณ์อึ้งเป็นไก่ตาแตก
ที่โยเซเข้าไปพูดอะไรสักอย่างแล้วชี้อะไรให้ดู
หน้าตาที่บึ้งตึงกลับยิ้มร่าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเข้าใจเลยว่าทำไมคนอารมณ์ร้องอย่างซาไกจะได้รับเลือกให้เล่นบทของพระรองได้
รอยยิ้มที่สงบและมาจากใจกรรมการคงเห็นสิ่งนี้อย่างแน่นอน
ซาไกเดินตรงเข้ามาหาทีมงานที่มองด้วยสายตาที่ยังคงสงสัยกับการกระทำของโยเซเมื่อสักครู่
“เริ่มทำงานได้แล้ว วันนี้ต้องเอาแบบยอดเยี่ยมด้วยนะครับ”
เป็นใครก็ต้องงงเหมือนคนที่อารมณ์เสียอยู่เสมออย่างซาไกจะกล่าวคำเช่นนี้ออกมา
แม้กระทั่งผู้จัดการและผู้กำกับก็งงกับท่าทางที่สดใสอย่างแปลก ๆ ของซาไก
‘วันนี้คาสึสะมาดูต้องเล่นให้แบบสุด ๆ ต้องให้เขาได้เห็นความยอดเยี่ยมของเรา’
ซาไกยิ้มกับความคิดของตนขณะที่สายตายังคงมองไปที่คาสึสะที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ที่เนินดินเลยจากที่ถ่ายทำไปสักประมาณ
100เมตร (ความคิดของคาสึสะที่ว่าระยะห่างมันเกิน)

การถ่ายทำผ่านไปอย่างราบรื่นแบบไม่เคยเป็นมาก่อนวันนี้สงสัยผู้กำกับคงต้องเลี้ยงขอบคุณโยเซที่ทำให้ซาไกเล่นได้อย่างไม่มีหลุดและบ่นกับนางเอกที่ต้องคู่หรือพระเอกอีกคนที่กัดกันเป็นอาจิณ
“ขอบใจมากโยเซ วันนี้อากาศดีเป็นบ้าเลย
เดี๋ยวเข้าต่อรอบสองเลยแล้วกันเอาแค่ให้จบกับเหตุการณ์ของสถานที่นี้ก็พอ”
จะมีใครสังเกตไหม เมื่อสายตาของซาไกจ้องไปทางคันเนินนั้นตลอดเวลาแน่นอน
ประธานบริษัทหรือโปรดิวเซอร์ที่วันนี้ตัดสินใจมาดูด้วยตนเองได้เห็นเข้า......

“เธอ....”
เสียงคนเรียกหนุ่มกลมดิกที่นั่งอ่านหนังสือสับกับมองดูเพื่อนของตนถ่ายหนังอยู่
“อะ...ครับ” คาสึสะมองซ้ายขวาเพื่อตรวจสอบว่าเขาถามตนหรือเปล่าก่อนที่จะหันไปสบตา
“ที่นี้ห้ามคนนอกเข้ามา” เสียงที่บ่งบอกถึงความเจ้าอารมณ์นิด ๆ
กับพลังของเสียงที่บ่งถึงคนที่มีอำนาจ
“ขอโทษครับ” คาสึสะลุกขึ้นยืนแล้วหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นมาสะพายข้าง
ชายหนุ่มสำรวจดูรูปร่างของเด็กตัวน้อยที่พุงโรก้นป่อง แต่หน้าตาก็น่ารักดี
ไม่มีทางหรอกดูยังไงก็เป็นแค่เศษขยะ
“นายเป็นเพื่อนของนักแสดงนั้นใช่ไหม”
ชายหนุ่มถามขึ้นในขณะที่คาสึสะเดินจากไปได้สองก้าว
แล้วชายหนุ่มร่างสูงบุคลิกนักธุรกิจทั้งแท่ง สูทที่เข้ารูป ขาที่ยาวสูง
ใบหน้าเกลี่ยเกลาสมชาย
“ม....ไม่ใช่หรอกครับ” คาสึสะนึกสักพักก่อนที่จะตอบออกมา
“คิดไว้แล้ว หน้าตาก็น่ารักนะ
แต่...ถ้าพวกชั้นสูงเหล่านั้นมีเพื่อนแบบนี้แล้วล่ะก็เกรดคงตกต่ำอย่างแน่นอน”
คาสึสะที่ก้าวเท้าต่อต้องหยุดลง ค่อย ๆ หันหน้ามายิ้มให้กับชายหนุ่ม
“ขอบคุณครับที่ชมผม” คาสึสะยิ้มหวานอีกครั้งก่อนก้มศีรษะแล้วเดินจากไป
แม้จะแสดงความเข้มแข็งอย่างไรก็ต้องมีอ่อนแอบ้างอยู่แล้วและเด็กผู้ชายอย่างคาสึสะที่ถูกล้อมาตลอดคนนี้มีคนมากล่าวว่าไม่เหมาะที่จะเป็นเพื่อนกับเหล่าหนุ่มหน้าตาดี
ๆ ถึงเขาจะเข้าใจเรื่องนี้ดีแต่เมื่อโดนพูดต่อหน้าชัด ๆ แบบนี้แทบจะไม่มีแรงยืนเลย
เข้าใจดี ฉันเข้าใจในส่วนนั้นดีถึงได้ขอแค่เพื่อนที่พวกเขาจะไม่มีวันรังเกียจดีกว่า
แค่เพื่อนเท่านั้น
คาสึสะเธอต้องเข้มแข็งเธออยู่ด้วยร่างกายแบบนี้มาได้ตลอด19ปีแค่โดนพูดแค่นี้มันจะเป็นไรไปไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อย.....อดทนไว้
คาสึสะเงยหน้ามองฟ้า แสงแดดอ่อนยามเย็นทำให้จิตใจผ่อนคลายขึ้น
ฉันจะเป็นเพื่อนของพวกเธอได้อีกนานแค่ไหนถ้าพวกเธอรังเกียจฉัน....โย....ซาไก.....ชิสึมิ
ฉัน...มันไม่เหมาะกับพวกเธอหรอ ช่วยบอกกันหน่อยสิ
ในที่สุดเขื่อนแห่งความเก็บกดและกดดันของคาสึสะก็หลั่งรินออกมาอย่างไม่ขาดสาย
ฉันจะลดน้ำหนักเพื่อพวกเธอ ขอแค่พวกเธอไม่ทิ้งฉันไปก็พอ.......

แนะนำติชมได้ที่บอร์ดนิยายนะคะ...................
1