ส า ย สั ม พั น ธ์
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
อาหารเย็นวันเสาร์...เป็นมื้อที่อร่อยที่สุด
รอยมีความสุขกับการได้นั่งทานข้าวกับพ่อที่บ้าน
และยังเป็นมื้อที่ไม่ต้องฝืนทานให้หมดหรือต้องนั่งเกร็งเพราะถูกจับตามอง
พ่อจ๋า ผมอิ่มแล้วได้มั้ยครับ
เด็กชายขอพ่ออิ่ม
วันนี้เป็นวันแรกที่รอยทานข้าวไม่หมดอาจเป็นเพราะยังไม่หายดี
อิ่มก็อิ่มซีลูก.. ทำไมต้องขอพ่อด้วยล่ะ
รังสรรค์จ้องตาลูกชายเขม็ง
รู้สึกปวดใจเมื่อนึกถึงคำบอกเล่าของครูสมเกียรติถึงเหตุการณ์บนโต๊ะอาหารที่ลูกต้องเผชิญ
ก็....ข้าวยังเหลือตั้งเยอะนี่ครับ
เหลือก็เหลือซีครับ ก็เราทานไม่ไหวแล้วนี่ ถ้าฝืนทานเข้าไปอีกลูกอาจจะจุกหรืออาเจียนออกมา
ไม่เสียของกว่าเหรอ
ครับพ่อ เด็กชายยิ้มให้พ่อและวางช้อนส้อมลง
พ่อไม่เคยบังคับลูกทานข้าวให้หมดจานเลยนี่นา
มีใครบังคับลูกหรือครับ รังสรรค์พูดหยั่งเชิงลูก
รอยตกใจกับคำถามรีบส่ายหน้าปฏิเสธ
ไม่มีครับ
แน่ใจหรือลูก
แน่ครับพ่อ
ชายหนุ่มหัวเราะทั้งที่ในใจกำลังขมขื่นและเจ็บปวด
เด็กชายตื่นตระหนกกับคำถามอย่างเห็นได้ชัด เขารีบเปลี่ยนเรื่องคุยเพราะไม่อยากให้ลูกนึกถึงเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนั้น
อิ่มแล้วเดี๋ยวทานยานะลูก พ่ออนุญาตให้ดูการ์ตูนถึงสองทุ่มแล้วเข้านอนเลยนะครับ
พักผ่อนมากๆ จะได้หายไวๆ รังสรรค์ก้มลงกระซิบข้างหูลูก
เดี๋ยวพ่อจะออกไปข้างนอกนะครับ
เด็กชายตาแป๋วยิ้มรับคำที่พ่อสั่งแต่ประโยคสุดท้ายทำให้หนูน้อยหน้าเสียลงเพราะไม่อยากให้พ่อจากไปไหน
เวลาอยู่ด้วยกันยิ่งน้อยๆ อยู่
ไปไหนครับพ่อ.. นานมั้ย
ไปธุระเดี๋ยวเดียวลูก พ่อจะรีบกลับนะ รอยนอนก่อนนะครับ ไม่ต้องคอยพ่อ
เด็กชายพยักหน้าอย่างว่าง่าย
เรื่องที่รังสรรค์ได้รับทราบจากครูสมเกียรติเมื่อตอนบ่ายสร้างความปวดใจให้เขาอย่างมาก
หลังอาหารเย็นเขาจึงตัดสินใจไปพบวิภาวีเพื่อตกลงเรื่องลูก
สวัสดีค่ะรังสรรค์ ทำไมมาส่งลูกเร็วจัง เพิ่งวันเสาร์เอง
แต่ก็ถูกต้องแล้วเพราะคุณพารอยไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ลูกอยู่ไหนล่ะคะ
เสียใจวิภาวี ผมมาเพื่อบอกคุณว่า ผมจะไม่ให้ลูกกลับมาอยู่ที่นี่อีกแล้ว..
อะไรกันรังสรรค์ นี่คุณคิดจะฝืนคำสั่งศาลเหรอ
คุณทำไม่ได้หรอกนะ
ทำไมผมจะทำไม่ได้ ผมไม่สนใจคำสั่งศาล ถ้าศาลรู้เหมือนที่ผมรู้
คุณจะไม่มีสิทธิดูแลลูกอีกต่อไป
ไม่มากไปหน่อยหรือ... คุณรังสรรค์ เสียงที่ขัดขึ้นดังกังวานและท้าทาย
ผู้พันสินชัยก้าวเข้ามาในห้องรับแขกและเดินตรงมานั่งข้างภรรยา
ทั้งสองยิ้มให้กันเหมือนมั่นใจว่าตัวเองเป็นผู้ชนะ
รังสรรค์ขบกรามแน่น
สีหน้าท่าทางตลอดจนแววตาของผู้พันสินชัยที่เขาเห็นตอนนี้เป็นคนละคนกับครั้งแรกที่ได้พบเห็น
ไม่มีแววเมตตาเอื้ออาทรหลงอยู่
เรื่องที่ครูสมเกียรติบอกเล่าเขามั่นใจเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว
คุณต่างหากที่มากเกินไปผู้พัน คุณคงรู้นะว่าผมหมายถึงอะไร
รังสรรค์ละสายตาจากผู้พันไปที่หญิงสาว
ผมต้องการตกลงเรื่องลูกกับคุณ วิภาวี..
เราไม่มีอะไรจะต้องตกลงกับคุณนะ คุณรังสรรค์
ผมว่าคุณปฏิบัติตามคำสั่งของศาลดีกว่า
ผู้พันสินชัยขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทำให้รังสรรค์รู้สึกโกรธทั้งที่พยายามสงบอารมณ์มาก่อนหน้านี้
คุณไม่เกี่ยวนะ ผู้พัน.. ผมต้องการตกลงกับแม่ของลูกผม
คุณไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรากรุณาอย่าออกความเห็น สิ่งที่คุณทำกับรอย ผมพยายามอดกลั้นที่จะไม่เอ่ยถึงแล้วนะผู้พัน
ทำไมผมจะไม่เกี่ยว
ผมเป็นสามีแม่ของลูกคุณและอยู่ในฐานะพ่อของลูกคุณด้วย
หยุดนะ!! คุณไม่มีคุณสมบัติของคนเป็นพ่อ ผมมองคุณผิดไปจริงๆ ผู้พัน
ผมหลงเป็นห่วงจิตใจของลูกว่าเขาจะอยู่กับแม่เขาได้มั้ย แต่คนที่น่ากลัวอย่างคุณผมกลับมองข้ามปล่อยให้ลูกต้องผจญกับความทารุณ
คนอย่างคุณจะเป็นพ่อคนได้ยังไงแม้แต่ลูกคุณเองยังไม่อยู่กับคุณเลย
แล้วธุระอะไรที่ผมจะยอมให้ลูกผมอยู่ที่นี่เพื่อสนองอารมณ์โหดร้ายของคุณ
มากไปแล้วนะรังสรรค์ นายต้องการหาเรื่องฉันเหรอ พันโทสินชัยลุกพรวดขึ้นยืนหน้าแดงด้วยอารมณ์โกรธ
วิภาวีรีบขัดขึ้นเมื่อเห็นว่าเรื่องจะไปกันใหญ่
คุณคะเดี๋ยววิจัดการเอง คุณไปพักผ่อนเถอะ
วิตกลงกับเขาเองได้ไม่ต้องห่วงค่ะ รอยจะต้องอยู่กับเรา
ผู้พันสินชัยยิ้มเยาะชายหนุ่มก่อนจะเดินออกจากห้องไป
รังสรรค์ เรามาตกลงกันใหม่ คุณต้องการอะไร
คุณต่างหากที่ต้องการอะไร วิภาวี.. รังสรรค์พยายามสงบอารมณ์ให้เย็นลงเพื่อตกลงเรื่องลูกกับหญิงสาว
คุณหมายความว่ายังไง
คุณต้องการอะไร..หากลูกจะกลับไปอยู่กับผมเหมือนเดิม
นี่คุณกำลังยื่นข้อเสนอเพื่อที่จะเอาลูกไปยังงั้นเหรอ ถ้าฉันบอกว่าต้องการทุกอย่างที่เป็นของคุณล่ะ
เงินทองและทรัพย์สินที่คุณมีอยู่ทั้งหมด คุณจะยอมยกให้เพื่อแลกกับรอยยังงั้นหรือคะ
รังสรรค์มองหญิงสาวตรงหน้าแล้วรู้สึกเวทนาตัวเอง
ชีวิตเขาไม่น่าจะต้องมาร่วมเวรร่วมกรรมกับผู้หญิงอย่างหล่อนเลย
วิภาวี.. คุณก็รู้ว่าผมกับลูกรักกันมากขนาดไหน ผมเข้าใจว่าคุณอยากให้รอยมาอยู่กับคุณเพราะคุณเองก็รักลูก
แต่ทำไมคุณถึงปล่อยให้ลูกถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจอย่างนั้นวิภาวี..
ตอบผมหน่อยได้มั้ย
เอ่อ... มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะรังสรรค์
ผู้พันเขาไม่ได้ทำร้ายรอยอย่างไม่มีเหตุผล เขาพยายามอบรมรอยให้เป็นเด็กที่มีระเบียบวินัย
มีความอดทนตามวิสัยทหารของเขา
โดยการเฆี่ยนตีลูกสาเหตุเพียงเพราะทานข้าวไม่หมดจาน แกล้งให้ลูกหิวตลอดคืนเพราะข้อเสนอบ้าๆ
ลงโทษให้ลูกนอนนอกบ้านจนจับไข้ คุณคิดว่ามันเป็นแค่การอบรมของเขายังงั้นเหรอ..วิภาวี..
....คุณทนเห็นสภาพอย่างนั้นได้ยังไง
คุณไม่รู้สึกเจ็บปวดเหมือนกับที่ผมรู้สึกเหรอ แค่รับรู้โดยไม่ได้เห็นกับตาผมก็รู้สึกเจ็บปวดมากแล้ว
ตลอดเวลา 7 ปีที่ผมเลี้ยงดูรอยมา ผมไม่เคยลงโทษลูกด้วยการทำให้เขาเจ็บ ลูกเป็นเด็กฉลาด
มีความคิดแค่พูดให้ฟังเขาก็รู้เรื่องแล้ว...
ได้โปรดเถอะนะวิ... ให้ลูกกลับไปอยู่กับผม เขาจะได้เติบโตขึ้นมามีสุขภาพดีสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ
วิภาวีรู้สึกเหมือนกำลังใจอ่อนกับการร้องขอของรังสรรค์
เขาไม่เคยเสียเวลาพูดคุยกับหล่อนยาวนานเท่านี้มาก่อน
แต่เพื่อลูก...เขายอมพูดแม้แต่จะร้องขอจนเกือบจะอ้อนวอนเขาก็ทำ...
แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของสามีที่ยืนยันให้เธอหาวิธีรั้งตัวลูกชายไว้ให้ได้
วิภาวีจึงยืนยันกลับไปอย่างหนักแน่น
เสียใจค่ะรังสรรค์ เราให้ลูกกลับไปอยู่กับคุณเลยไม่ได้หรอก
ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็ดีอยู่แล้ว
รังสรรค์หลับตาข่มความรู้สึกอยู่อึดใจ
ก่อนกล่าวยืนยันในสิ่งที่ตั้งใจไว้
ผมไม่สนใจแล้วว่าคุณจะยอมหรือไม่
ผมขอยืนยันว่าจะไม่พาลูกกลับมาที่นี่อีก หากคุณต้องการจริงๆ
ไปขอความเป็นธรรมกับศาล ผมยินดีจะสู้คดีกับคุณอีกครั้ง
และครั้งนี้ผมแน่ใจว่าศาลคงไม่ตัดสินให้เด็กต้องอยู่กับแม่ในสภาพที่ต้องถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจจากสามีใหม่ของผู้เป็นแม่
เสียใจด้วยนะ วิภาวี..
คุณทำอย่างนี้ไม่ได้นะรังสรรค์.. ถ้าคุณทำ
คนที่จะต้องเสียใจคือตัวคุณเอง หากให้ศาลพิจารณาใหม่อีกครั้ง
คุณจะไม่มีสิทธิในตัวลูกอีกเลย เพราะศาลก็คงไม่ตัดสินให้เด็กไปอยู่ในความดูแลของคนที่ไม่ใช่พ่อเช่นกัน
รังสรรค์สะอึกกับคำพูดของหญิงสาว
เขาขบกรามแน่นระงับความโกรธ
คุณกำลังพูดอะไร วิภาวี.. คุณหมายถึงใคร
วิภาวีเอ่ยกับชายหนุ่มอย่างผู้ชนะ
เสียใจนะคะ รังสรรค์..
เป็นหนทางสุดท้ายที่จะหยุดความดื้อรั้นของคุณได้
คุณบังคับให้ฉันต้องพูดความจริงที่ฉันไม่อยากจะพูด
ความจริงที่ฉันปกปิดไว้ตลอดตั้งแต่รอยเกิดมา และเป็นความจริงที่คุณฟังแล้วอาจรู้สึกเจ็บปวด
รังสรรค์รู้สึกเหมือนหัวใจกำลังจะแตกสลายแล้วไม่ใช่แค่อาจจะรู้สึกเจ็บปวดอย่างที่หล่อนคิด
เขาหลุดคำถามออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและแหบพร่า
คุณกำลังจะบอกว่ารอยไม่ใช่ลูกผมยังงั้นหรือ วิภาวี..
รังสิมันต์ไม่ใช่ลูกคุณ รังสรรค์..
ฉันปิดคุณมาตลอดเพราะเห็นคุณรักรอยมาก ฉันไม่อยากให้คุณเจ็บปวด
แต่วันนี้คุณบังคับฉันเองนะ
ไม่จริง คุณโกหก ผมไม่เชื่อ
ปากบอกไม่เชื่อแต่ความรู้สึกของรังสรรค์นาทีนี้เหมือนหัวใจถูกควักออกจากร่างทั้งเป็น
....นี่เขากำลังตกนรกหรืออย่างไร ทำไมถึงเจ็บปวดทรมานอย่างนี้...
รังสรรค์ยืนมองเด็กชายที่กำลังหลับสนิทอยู่บนเตียง
ภาพที่เห็นพร่ามัวลงเมื่อคำพูดของวิภาวีก้องเข้ามาในโสตประสาท
รอยไม่ใช่ลูกคุณ รังสรรค์.. รอยเป็นลูกของจักรกฤษณ์ เพื่อนที่เรียนด้วยกันมา
ฉันคบหาจักรกฤษณ์ในขณะที่คบกับคุณ
แต่สภาพเขาตอนนั้นไม่อยู่ในฐานะที่จะรับผิดชอบครอบครัวได้
ฉันจึงตัดสินใจเลือกคุณเพราะคุณเหมาะที่จะเป็นพ่อของลูกมากกว่าเขา
.....ฉันไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใคร มันเป็นความจริงที่ฉันปิดไว้ตลอดตั้งแต่รอยเกิด
และไม่เคยคิดว่าจะต้องเปิดเผยเรื่องนี้ คุณบังคับฉันเองรังสรรค์
ถ้าหากคุณฟ้องขอสิทธิเป็นผู้เลี้ยงดูลูก ครั้งนี้คุณจะไม่เหลืออะไรเลย
รอยจะต้องออกจากชีวิตของคุณ คุณจะไม่มีสิทธิได้อยู่ใกล้ลูกแม้เพียงสองวันของสัปดาห์ที่คุณจะได้อยู่กับลูกก็จะไม่มีอีกแล้ว
.....คิดดูดีๆ นะคะ รังสรรค์ ฉันให้เวลาคุณอยู่กับลูกครั้งนี้นานหน่อยก็ได้
เผื่อคุณอยากจะพิสูจน์ว่าที่ฉันพูดเป็นความจริงหรือเปล่า
ฉันท้าให้คุณพารอยไปพิสูจน์....
ชายหนุ่มทรุดตัวลงข้างเตียงอย่างหมดแรง
เขาไม่เคยรู้สึกเสียใจเลยตั้งแต่หญิงสาวคนนี้แยกทางจากชีวิตเขาไป
แม้เรื่องที่ได้รับฟังในวันนี้ก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดกับการกระทำที่ไม่ซื่อสัตย์ของเธอ
แต่ความเจ็บปวดอยู่ตรงที่เธอกำลังบอกเขาว่าลูกชายที่เขารักดั่งดวงใจไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของเขา
รังสรรค์รู้สึกเหมือนแสงสว่างในชีวิตเขากำลังดับวูบลง
หวนนึกถึงเมื่อครั้งที่รอยยังเป็นเด็กน้อย ไม่ว่าจะพาไปไหน ทุกคนที่ได้พบเห็นก็จะทักเป็นเสียงเดียวกัน
ต๊าย!... เหมือนคุณพ่อจังเลยนะคะ ตาพิมพ์เดียวกันเลย
มีลักยิ้มเหมือนคุณพ่อด้วย...
...ไม่จริง
เธอโกหก วิภาวี.. รอยเป็นลูกผม...
รังสรรค์โน้มตัวลงสวมกอดร่างเล็กไว้ในวงแขน
รอยเป็นลูกพ่อใช่มั้ย ลูกต้องเป็นของพ่อนะ รอย
รังสรรค์กอดลูกชายแน่นจนทำให้เด็กชายรู้สึกตัว
พ่อจ๋า กลับมาแล้วเหรอ
รังสรรค์เบือนหน้าหนีแอบซับน้ำตากับเส้นผมนุ่มของลูกก่อนขยับตัวขึ้นยิ้มให้
กลับมาแล้วครับ ลูกรอพ่อหรือเปล่า
เด็กชายพยักหน้า
สองแขนโอบคอพ่อไว้
ทำไมพ่อไปนานจัง ไปไหนเหรอครับ
เอ่อ
พ่อไปธุระครับ รังสรรค์เสยผมหนูน้อยขึ้นจูบที่หน้าผาก
นอนต่อนะลูก พ่อขอโทษที่ทำให้ตื่น
พ่อมานอนด้วยซีครับ
เดี๋ยวครับ พ่อยังไม่ได้อาบน้ำเลย ให้นอนทั้งอย่างนี้เดี๋ยวรอยกอดพ่อไม่ลงนะ
เด็กชายโน้มตัวขึ้นหอมแก้มพ่อ
ไม่เห็นเหม็นเลยครับ หอมด้วย
กิริยาที่ลูกปฏิบัติทำให้รังสรรค์ไม่สามารถอดกลั้นความเจ็บปวดที่กำลังทับถมอยู่ในใจอย่างแสนสาหัสได้
เขาช้อนร่างเล็กขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด
พ่อรักลูก รอย.. ลูกรักพ่อมั้ยครับ
ผมรักพ่อที่สุดในโลกครับ
พ่อก็รักลูกที่สุดในโลกด้วย พ่อไม่ยอมให้ใครมาแย่งลูกไปจากพ่อ
รอยต้องเป็นลูกของพ่อคนเดียวนะครับ
รอยพยักหน้าแม้จะไม่เข้าใจและกำลังงงกับคำพูดของผู้เป็นพ่อ
ในขณะเดียวกับที่รู้สึกว่าวันนี้พ่อกอดเขาแน่นกว่าทุกๆ วัน
ทำไมต้องไปหาหมออีกครับ ผมจะหายแล้วนะครับพ่อ รอยเงยหน้าขึ้นถามพ่อ
รังสรรค์กำลังนั่งเหม่อไปนอกรถจึงไม่ได้ยินที่ลูกถาม
เด็กชายจึงถามซ้ำประโยคเดิมพร้อมกับกระตุกแขนเสื้อพ่อไปด้วย
ไปตรวจสุขภาพนิดเดียวครับ ลูกจะได้ไม่ป่วยบ่อยๆ ไง รอย..
เด็กชายพยักหน้ารับรู้
ทั้งที่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมต้องไปตรวจ
คุณรังสรรค์คะ คุณหมอเชิญด้านในค่ะ
พยาบาลเดินออกมาตามชายหนุ่มเนื่องจากลูกชายกำลังแผลงฤทธิ์กับคุณหมออยู่ด้านใน
รังสรรค์เดินตามเข้ามาในห้องตรวจ พบเด็กชายนั่งหน้างออยู่โดยมีคุณหมอผู้หญิงนั่งอยู่ข้างๆ
ทันทีที่เห็นหน้าพ่อรอยรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ตรงเข้ามาสวมกอดและฟ้อง
พ่อครับคุณหมอพูดไม่รู้เรื่อง จะขอเจาะเลือดผมทำไม
พ่อบอกหมอซีครับว่าผมมาตรวจร่างกายเฉยๆ
รังสรรค์ยิ้มให้คุณหมอ
ก่อนพาลูกกลับไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิมและทรุดตัวลงนั่งข้างๆ สองมือเสยผมหนูน้อยและกล่าวปลอบอย่างอ่อนโยน
เจาะเลือดก็เป็นการตรวจร่างกายอย่างหนึ่ง ลูกกลัวเหรอครับ รอย..
เด็กชายนิ่งอึ้ง
พ่อเล่นถามตรงๆ ต่อหน้าคุณหมอ จะให้ตอบว่ากลัวได้ยังไง รอยสั่นศีรษะปฏิเสธ
ไม่กลัวแล้วมีปัญหาอะไรล่ะครับ หือ... รังสรรค์รั้งศีรษะหนูน้อยเข้ามากระซิบ ลูกผู้ชายต้องไม่กลัวเข็มฉีดยานะครับ
แต่นี่ไม่ได้ฉีดยานะครับพ่อ
รอยกระซิบตอบพ่อขณะที่สายตาจับจ้องอุปกรณ์ที่วางเตรียมพร้อมอยู่บนโต๊ะ
ชายหนุ่มหัวเราะ
จูบที่หน้าผากลูกชายเบาๆ ให้กำลังใจ
ถ้างั้นเราเจาะด้วยกันสองคนดีมั้ย พ่อเจาะก่อนแล้วลูกค่อยเจาะทีหลัง
โอเค..
รอยไม่ทันได้ตอบตกลงพ่อก็ยื่นแขนวางบนโต๊ะ
คุณหมออดยิ้มไม่ได้กับกิริยาที่สองพ่อลูกปฏิบัติต่อกัน โดยเฉพาะผู้เป็นพ่อปฏิบัติต่อลูกอย่างอ่อนโยนและเป็นธรรมชาติผิดวิสัยจากพ่อคนอื่นๆ
ที่เคยพบเห็นมา
เด็กชายกอดเอวพ่อไว้ขณะที่สายตาจ้องมองไปที่แขน
รู้สึกเจ็บแทนเมื่อเห็นคุณหมอแทงเข็มลึกลงไปในเนื้อ
รอยกลืนน้ำลายเมื่อเห็นของเหลวสีแดงไหลเข้าไปในกระบอกฉีด กระซิบถามพ่อเบาๆ
พ่อจ๋า.. เจ็บมั้ย
รังสรรค์ยิ้มให้ลูกและกระซิบตอบ
ไม่เจ็บเลยครับ เดี๋ยวตาลูกแล้วนะคนเก่ง
รอยจำต้องยอมยื่นแขนให้คุณหมอเจาะเลือดแต่โดยดี
เด็กชายจ้องเขม็งรอจังหวะที่เข็มจะทิ่มลงบนแขน
คุณหมอเห็นเด็กตั้งใจมองเกินไปจึงสบตากับชายหนุ่มในความหมายที่รู้กัน
รอยครับ
รังสรรค์เรียกลูกให้หันมาและโน้มศีรษะหนูน้อยซบกับอก
ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่หมอแทงเข็มลงที่ท้องแขนเด็กชาย หนูน้อยสะดุ้งกอดพ่อแน่นกัดฟันร้องเสียงเบา
อู๊ย..... รอยเงยหน้าขึ้นถามพ่อเสียงไม่ดังแต่ก็ไม่เบาเท่าไร
ไหนพ่อบอกไม่เจ็บไงครับ
ชายหนุ่มฝืนยิ้มให้ลูก เป็นยิ้มที่ขมขื่นและเจ็บปวดสำหรับเขา
ยิ่งเห็นของเหลวสีแดงในหลอด SYRINGE หัวใจเขาเต้นแรงด้วยความหวาดวิตกกับผลที่จะได้รับ
พ่อจ๋า เย็นนี้ผมต้องกลับไปบ้านแม่แล้วใช่มั้ยครับ เด็กชายถามพ่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือขณะนั่งรถกลับบ้าน
รังสรรค์กอดลูกไว้แน่น
ไม่ครับ ยังไม่กลับ เดี๋ยวพ่อจะพาลูกไปพักผ่อน
ลูกอยากไปไหนครับ
เด็กชายตื่นเต้นดีใจกอดพ่อแน่น
จริงหรือครับพ่อ ผมอยากไปทะเลครับ พ่ออยากไปมั้ย
ลูกอยากไปพ่อก็ต้องอยากไปด้วยซีครับ
เดี๋ยวเราไปกันบ่ายนี้เลยดีมั้ย
ดีครับ ดีใจจังเลย ผมรักพ่อที่สุดในโลกเลยครับ
รักพ่อคนเดียวด้วยหรือเปล่า
รังสรรค์กระซิบถามลูกชาย
รอยพยักหน้าจึงถูกพ่อกอดแน่นขึ้นกว่าเดิม
แม้จะแปลกใจที่พ่อถามประโยคนี้ซ้ำหลายครั้ง
แต่รอยก็มีความสุขที่ได้ตอบคำถามพ่อ.